Einstein's relativity theory can be

Einstein's relativity theory can be understood as a theory of absolutes. The two fundamental principles on which his theory was based both involved invariants in the physical world. First, he argued that the laws of physics do not vary in different inertial frames of reference; they are the same in all non-accelerating frames. Secondly, he argued that the speed of light is constant in all frames of reference. Beyond these two principles, Einstein linked space and time in an invariant space-time that could serve as a metric to measure the distance between events in different frames of reference. Hermann Minkowski, a German mathematician and teacher of Einstein, provided the clearest formulation of this concept of invariant space-time. He argued that space and time are mere facets of an invariant all-encompassing space-time continuum in which one may measure both the spatial distance between two simultaneous events, and the temporal difference between two identically-located events. Although the spatial and temporal coordinates of two events can shift, they are always linked by the same invariant space-time, which serves as an absolute metric, or standard of measurement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์สามารถเข้าใจเป็นทฤษฎีของ absolutes หลักข้อสองที่ทฤษฎีของเขาถูกยึดทั้งสอง invariants ที่เกี่ยวข้องในโลก ครั้งแรก เขาโต้เถียงว่า กฎหมายของฟิสิกส์ที่ไม่แตกต่างกันในเฟรม inertial แตกต่างกันของการอ้างอิง พวกเขาเหมือนกันทั้งหมดไม่ใช่เร่งเฟรม ประการที่สอง เขาโต้เถียงว่า ความเร็วของแสงคงที่ในกรอบอ้างอิงทั้งหมด นอกเหนือจากหลักสอง Einstein เชื่อมโยงพื้นที่และเวลาในลานกว้างไม่เปลี่ยนแปลงที่อาจจะเป็นการวัดเพื่อวัดระยะทางระหว่างเหตุการณ์ในกรอบอ้างอิงแตกต่างกัน แฮร์มันน์มินคอฟสกี นักคณิตศาสตร์และครูของไอน์สไตน์ ให้กำหนดแนวคิดของลานกว้างไม่ชัด เขาโต้เถียงว่า อวกาศและเวลาเป็นเพียงแง่มุมของการบล็อกทั้งนานอสงไขยที่หนึ่งอาจวัดทั้งเชิงพื้นที่ระยะห่างระหว่างสองเหตุการณ์พร้อมกัน ความแตกต่างระหว่างสองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงขมับ แม้ว่าพิกัดอวกาศ และกาลเวลาของเหตุการณ์ที่สองสามารถเลื่อน พวกเขามีการเชื่อมโยง โดยการเดียวไม่เปลี่ยนแปลงลานกว้าง ซึ่งให้บริการเป็นการวัดสัมบูรณ์ หรือมาตรฐานของการวัด เสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีความสัมพันธ์ของ Einstein สามารถเข้าใจได้เป็นทฤษฎีตายตัว ทั้งสองหลักการพื้นฐานที่ทฤษฎีของเขาได้ใช้ทั้งสองคงมีส่วนร่วมในโลกทางกายภาพ ครั้งแรกที่เขาอ้างว่ากฎหมายของฟิสิกส์ไม่แตกต่างกันในกรอบเฉื่อยที่แตกต่างกันของการอ้างอิง; พวกเขาเป็นเหมือนกันในทุกเฟรมที่ไม่ได้เร่ง ประการที่สองเขาแย้งว่าความเร็วของแสงเป็นค่าคงที่ในทุกเฟรมของการอ้างอิง นอกเหนือจากทั้งสองหลักการ Einstein เชื่อมโยงพื้นที่และเวลาในแปรเปลี่ยนพื้นที่เวลาที่สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการวัดระยะห่างระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรอบที่แตกต่างกันของการอ้างอิง แฮร์มันน์คอฟสกีนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันและเป็นครูของไอน์สไตให้การกำหนดที่ชัดเจนของแนวคิดของค่าคงที่พื้นที่เวลานี้ เขาอ้างว่าพื้นที่และเวลาเป็นเพียงแง่มุมของค่าคงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ต่อเนื่องเวลาในที่หนึ่งอาจจะวัดทั้งระยะทางอวกาศระหว่างสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันและความแตกต่างชั่วคราวระหว่างสองเหตุการณ์ที่เหมือนกันอยู่ แม้ว่าพิกัดพื้นที่และเวลาของสองเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนพวกเขามีการเชื่อมโยงเสมอโดยไม่แปรเปลี่ยนพื้นที่เวลาเดียวกันซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดที่แน่นอนหรือมาตรฐานของการวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไอน์สไตน์ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทฤษฎีสามารถเข้าใจได้เป็นทฤษฎีของแอ็บโซลุท . สองหลักการพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีของเขาเป็นทั้งผลยืนยงอยู่ในโลกทางกายภาพ ครั้งแรก เขาแย้งว่ากฎหมายของฟิสิกส์ไม่แตกต่างกันในแต่ละกรอบอ้างอิงเฉื่อย ; พวกเขามีอะไรเหมือนกัน ไม่เร่ง เฟรม ประการที่สอง เขาแย้งว่า ความเร็วแสงคงที่ในทุกกรอบอ้างอิง นอกเหนือจากหลักการเหล่านี้สอง ไอน์สไตน์เชื่อมโยงพื้นที่และเวลาในค่าคงที่เวลาที่สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดเพื่อวัดระยะห่างระหว่างเหตุการณ์ในกรอบต่าง ๆ ของการอ้างอิง แฮร์มันน์ มิงคอฟสกี , นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน และอาจารย์ของไอน์สไตน์ โดยมีการกำหนดที่ชัดเจนของแนวคิดนี้ของค่าคงที่เวลา . เขาแย้งว่า เวลาและอวกาศ เป็นเพียงแง่มุมของความครอบคลุมทั้งหมดกาลเวลาในที่อาจจะวัดทั้งด้านระยะทางระหว่างสองเหตุการณ์พร้อมๆ กัน และความแตกต่างระหว่างสองสีตรงขมับอยู่เหตุการณ์ แม้ว่าพิกัดพื้นที่และเวลาของเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนพวกเขาจะเชื่อมโยงกับเวลาแปลงเดียวกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดที่แน่นอน หรือมาตรฐานของการวัด