มิญชวิทยา[1] (อังกฤษ: Histology) เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับจุลกายวิภาคศาสตร์ของเซลล์และเนื้อเยื่อ ของพืชหรือสัตว์ โดยการศึกษาจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องตัดชิ้นเนื้อ (microtome) ตัดเนื้อเยื่อให้บางเพื่อนำไปศึกษา (เตรียม specimen) จากนั้นนำไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง หรือกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน โดยอาจใช้การย้อมสี (stained) เพื่อเพิ่มความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างของเนื้อเยื่อ วิชา Histology จัดเป็นวิชาที่สำคัญของชีววิทยาและทางการแพทย์
จุลพยาธิวิทยา[1] (อังกฤษ: Histopathology) เป็นการศึกษาเนื้อเยื่อที่เกิดโรคด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยเป็นเครื่องมือที่สำคัญของ anatomical pathology เนื่องจากสามารถวินิจฉัยมะเร็งและโรคอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ แพทย์ที่ศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะเรียกว่า Pathologists ซึ่งจะศึกษาเนื้อเยื่อตัวอย่างและวินิจฉัยออกมาว่ามีความผิดปกติหรือไม่
นักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ histological sections ประกอบด้วย "histotechnicians", histology technicians (HT), histology technologists (HTL), นักวิทยาศาสตร์การแพทย์, เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และนักชีวเคมีทางการแพทย์ โดยวิทยาศาสตร์สาขานี้มีชื่อเรียกว่า histotechnology.
เนื้อหา [แสดง]
กระบวนการทางเทคนิค[แก้]
การคงสภาพ[แก้]
การคงสภาพด้วยฟอร์มัลดีไฮด์และสารเคมีอื่นๆ[แก้]
ดูบทความหลักที่: Fixation (histology)
สารคงสภาพใช้ป้องกันเนื้อเยื่อจากการเสื่อมสภาพและยังช่วยรักษาโครงสร้างแล้วส่วนประกอบต่างๆ ภายในเซลล์ (e.g., nucleus, endoplasmic reticulum, mitochondria). สารคงสภาพที่ใช้โดยทั่วไปสำหรับการเตรียมเนื้อเยื่อศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบแสง คือ 10% บัฟเฟอร์ฟอร์มาลีน (4% ฟอร์มัลดีไฮด์ ใน ฟอสเฟตบัฟเฟอร์ซาไลน์). For electron microscopy, the most commonly used fixative is glutaraldehyde, usually as a 2.5% solution in phosphate buffered saline. These fixatives preserve tissues or cells mainly by irreversibly cross-linking proteins. The main action of these aldehyde fixatives is to cross-link amino groups in proteins through the formation of CH2 (methylene) linkage, in the case of formaldehyde, or by a C5H10 cross-links in the case of glutaraldehyde. This process, while preserving the structural integrity of the cells and tissue can damage the biological functionality of proteins, particularly enzymes, and can also denature them to a certain extent. This can be detrimental to certain histological techniques. Further fixatives are often used for electron microscopy such as osmium tetroxide or uranyl acetate
Frozen Section Fixation[แก้]
Frozen section เป็นวิธีการที่รวดเร็วสำหรับการรักษาสภาพเนื้อเยื่อตัวอย่าง และ ติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อ. โดยถูกใช้ในการวินิจฉัยเพื่อการผ่าตัดกำจัดเซลล์มะเร็ง วิธีนี้ใช้สำหรับการผ่าตัดเซลล์มะเร็งและหาขอบเขตภายหลังการผ่าตัดเซลล์มะเร็ง การแช่แข็งเนื้อเยื่อตัวอย่างจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า cryostat หลังจากที่เนื้อเยื่อที่ถูกแช่แข็งแล้วจะถูกสไลซ์ด้วยเครื่องมือตัดที่เรียกว่า microtome, ทำการแช่แข็งและติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อบนกระจกสไลด์ สำหรับการย้อมสีตัวอย่างสามารถกระทำได้เช่นเดียวกับวิธีการติดตั้งตัวอย่างแบบอื่นๆ สำหรับเนื้อเยื่อบางชนิดก็ต้องใช้การย้อมสี (stained) แบบพิเศษ เช่น แอนติบอดี้ (antibody) ต้องใช้วิธีการที่เรียกว่า การย้อม immunofluorescence
การดึงน้ำออกและแทรกซึม[แก้]
เนื่อเยื่อจำเป็นต้องถูกฝังอยู่ในวัสดุที่แข็งพอเพื่อให้สามารถตัดออกมาเป็นเซคชั่นได้ โดยทั่วไป ความหนา 5 μm (ไมโครเมตร; 1000 ไม่โครเมตร = 1 มิลลิเมตร) สำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง และ 80-100 nm (นาโนเมตร; 1,000,000 นาโนเมตร = 1 มิลลิเมตร) สำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน สำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงจะใช้พาราฟินเป็นหลัก เนื่องจากเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำและเนื่อเยื่อในสิ่งมีชีวิตมักประกอบด้วยน้ำ ในขั้นแรกจึงต้องมีการดึงน้ำออกจากเนื่อเยื่อ โดยการนำเนื้อเยื่อผ่านเอทานอลความเข้มข้นจากต่ำไปสูง ตามด้วยสารเคลียริ่ง โดยทั่วไปคือไซลีนเพื่อนำแอลกอฮอล์ออกจากเนื้อเยื่อ และทำให้เนื้อเยื่อใส, สุดท้ายคือพาราฟินซึ่งจะเข้าไปแทนทีไซลีนในเนื้อเยื่อและทำให้เนื้อเยื่อมีความแข็งพอ. อย่างไรก็ตาม พาราฟิน ไม่สามารถทำให้เนื้อเยื่อแข็งพอที่จะตัดเซคชั่นให้บางสำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้ จึงใช้วัสดีเรซินแทน. Epoxy resins are the most commonly employed embedding media, but acrylic resins are also used, particularly where immunohistochemistry is required. Thicker sections (0.35μm to 5μm) of resin-embedded tissue can also be cut for light microscopy. Again, the immiscibility of most epoxy and acrylic resins with water necessitates the use of dehydration, usually with ethanol.
การฝังเนื้อเยื่อ[แก้]
After the tissues have been dehydrated and infiltrated with the embedding material they are ready for embedding. During this process the tissue samples are placed into moulds along with liquid embedding material which is then hardened. This is achieved by cooling in the case of paraffin wax and heating in the case of the epoxy resins (curing). The acrylic resins are polymerised by heat, ultraviolet light or chemical catalysts. The hardened blocks containing the tissue samples are then ready to be sectioned.
Formalin-fixed, paraffin-embedded (FFPE) tissues may be stored indefinitely at room temperature, and nucleic acids (both DNA and RNA) may be recovered from them decades after fixation, making FFPE tissues an important resource for historical studies in medicine.
Embedding can also be accomplished using frozen, non-fixed tissue in a water-based medium. Pre-frozen tissues are placed into moulds with the liquid embedding material, usually a water-based glycol or resin, which is then frozen to form hardened blocks.
การตัดเซคชั่น[แก้]
For light microscopy, a glass knife mounted in a microtome is used to cut 10-micrometer-thick tissue sections which are mounted on a glass microscope slide. For transmission electron microscopy, a diamond knife mounted in an ultramicrotome is used to cut 50-nanometer-thick tissue sections which are mounted on a 3-millimeter-diameter copper grid. Then the mounted sections are treated with the appropriate stain.
Frozen tissue embedded in a freezing medium is cut on a microtome in a cooled machine called a cryostat.
Staining[แก้]
Biological tissue has little inherent contrast in either the light or electron microscope. Staining is employed to give both contrast to the tissue as well as highlighting particular features of interest. Where the underlying mechanistic chemistry of staining is understood, the term histochemistry is used. Hematoxylin and eosin (H&E) is the most commonly used light microscopical stain in histology and histopathology. Hematoxylin stains nuclei blue; eosin stains the cytoplasm pink. Uranyl acetate and lead citrate are commonly used to impart contrast to tissue in the electron microscope.
Special staining: There are hundreds of various other techniques that have been used to selectively stain cells and cellular components. Other compounds used to color tissue sections include safranin, oil red o, Congo red, fast green FCF, silver salts, and numerous natural and artificial dyes that were usually originated from the development dyes for the textile industry.
Histochemistry refers to the science of using chemical reactions between laboratory chemicals and components within tissue. A commonly performed histochemical technique is the Perls Prussian blue reaction, used to demonstrate iron deposits in diseases like hemochromatosis.
Histology samples have often been examined by radioactive techniques. In historadiography a slide (sometimes stained histochemically) is X-rayed. More commonly, autoradiography is used to visualize the locations to which a radioactive substance has been transported within the body, such as cells in S phase (undergoing DNA replication) which incorporate tritiated thymidine, or sites to which radiolabeled nucleic acid probes bind in in situ hybridization. For autoradiography on a microscopic level, the slide
มิญชวิทยา[1] (อังกฤษ: Histology) เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับจุลกายวิภาคศาสตร์ของเซลล์และเนื้อเยื่อ ของพืชหรือสัตว์ โดยการศึกษาจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องตัดชิ้นเนื้อ (microtome) ตัดเนื้อเยื่อให้บางเพื่อนำไปศึกษา (เตรียม specimen) จากนั้นนำไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง หรือกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน โดยอาจใช้การย้อมสี (stained) เพื่อเพิ่มความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างของเนื้อเยื่อ วิชา Histology จัดเป็นวิชาที่สำคัญของชีววิทยาและทางการแพทย์
จุลพยาธิวิทยา[1] (อังกฤษ: Histopathology) เป็นการศึกษาเนื้อเยื่อที่เกิดโรคด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยเป็นเครื่องมือที่สำคัญของ anatomical pathology เนื่องจากสามารถวินิจฉัยมะเร็งและโรคอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ แพทย์ที่ศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะเรียกว่า Pathologists ซึ่งจะศึกษาเนื้อเยื่อตัวอย่างและวินิจฉัยออกมาว่ามีความผิดปกติหรือไม่
นักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ histological sections ประกอบด้วย "histotechnicians", histology technicians (HT), histology technologists (HTL), นักวิทยาศาสตร์การแพทย์, เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และนักชีวเคมีทางการแพทย์ โดยวิทยาศาสตร์สาขานี้มีชื่อเรียกว่า histotechnology.
เนื้อหา [แสดง]
กระบวนการทางเทคนิค[แก้]
การคงสภาพ[แก้]
การคงสภาพด้วยฟอร์มัลดีไฮด์และสารเคมีอื่นๆ[แก้]
ดูบทความหลักที่: Fixation (histology)
สารคงสภาพใช้ป้องกันเนื้อเยื่อจากการเสื่อมสภาพและยังช่วยรักษาโครงสร้างแล้วส่วนประกอบต่างๆ ภายในเซลล์ (e.g., nucleus, endoplasmic reticulum, mitochondria). สารคงสภาพที่ใช้โดยทั่วไปสำหรับการเตรียมเนื้อเยื่อศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบแสง คือ 10% บัฟเฟอร์ฟอร์มาลีน (4% ฟอร์มัลดีไฮด์ ใน ฟอสเฟตบัฟเฟอร์ซาไลน์). For electron microscopy, the most commonly used fixative is glutaraldehyde, usually as a 2.5% solution in phosphate buffered saline. These fixatives preserve tissues or cells mainly by irreversibly cross-linking proteins. The main action of these aldehyde fixatives is to cross-link amino groups in proteins through the formation of CH2 (methylene) linkage, in the case of formaldehyde, or by a C5H10 cross-links in the case of glutaraldehyde. This process, while preserving the structural integrity of the cells and tissue can damage the biological functionality of proteins, particularly enzymes, and can also denature them to a certain extent. This can be detrimental to certain histological techniques. Further fixatives are often used for electron microscopy such as osmium tetroxide or uranyl acetate
Frozen Section Fixation[แก้]
Frozen section เป็นวิธีการที่รวดเร็วสำหรับการรักษาสภาพเนื้อเยื่อตัวอย่าง และ ติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อ. โดยถูกใช้ในการวินิจฉัยเพื่อการผ่าตัดกำจัดเซลล์มะเร็ง วิธีนี้ใช้สำหรับการผ่าตัดเซลล์มะเร็งและหาขอบเขตภายหลังการผ่าตัดเซลล์มะเร็ง การแช่แข็งเนื้อเยื่อตัวอย่างจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า cryostat หลังจากที่เนื้อเยื่อที่ถูกแช่แข็งแล้วจะถูกสไลซ์ด้วยเครื่องมือตัดที่เรียกว่า microtome, ทำการแช่แข็งและติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อบนกระจกสไลด์ สำหรับการย้อมสีตัวอย่างสามารถกระทำได้เช่นเดียวกับวิธีการติดตั้งตัวอย่างแบบอื่นๆ สำหรับเนื้อเยื่อบางชนิดก็ต้องใช้การย้อมสี (stained) แบบพิเศษ เช่น แอนติบอดี้ (antibody) ต้องใช้วิธีการที่เรียกว่า การย้อม immunofluorescence
การดึงน้ำออกและแทรกซึม[แก้]
เนื่อเยื่อจำเป็นต้องถูกฝังอยู่ในวัสดุที่แข็งพอเพื่อให้สามารถตัดออกมาเป็นเซคชั่นได้ โดยทั่วไป ความหนา 5 μm (ไมโครเมตร; 1000 ไม่โครเมตร = 1 มิลลิเมตร) สำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง และ 80-100 nm (นาโนเมตร; 1,000,000 นาโนเมตร = 1 มิลลิเมตร) สำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน สำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงจะใช้พาราฟินเป็นหลัก เนื่องจากเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำและเนื่อเยื่อในสิ่งมีชีวิตมักประกอบด้วยน้ำ ในขั้นแรกจึงต้องมีการดึงน้ำออกจากเนื่อเยื่อ โดยการนำเนื้อเยื่อผ่านเอทานอลความเข้มข้นจากต่ำไปสูง ตามด้วยสารเคลียริ่ง โดยทั่วไปคือไซลีนเพื่อนำแอลกอฮอล์ออกจากเนื้อเยื่อ และทำให้เนื้อเยื่อใส, สุดท้ายคือพาราฟินซึ่งจะเข้าไปแทนทีไซลีนในเนื้อเยื่อและทำให้เนื้อเยื่อมีความแข็งพอ. อย่างไรก็ตาม พาราฟิน ไม่สามารถทำให้เนื้อเยื่อแข็งพอที่จะตัดเซคชั่นให้บางสำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้ จึงใช้วัสดีเรซินแทน. Epoxy resins are the most commonly employed embedding media, but acrylic resins are also used, particularly where immunohistochemistry is required. Thicker sections (0.35μm to 5μm) of resin-embedded tissue can also be cut for light microscopy. Again, the immiscibility of most epoxy and acrylic resins with water necessitates the use of dehydration, usually with ethanol.
การฝังเนื้อเยื่อ[แก้]
After the tissues have been dehydrated and infiltrated with the embedding material they are ready for embedding. During this process the tissue samples are placed into moulds along with liquid embedding material which is then hardened. This is achieved by cooling in the case of paraffin wax and heating in the case of the epoxy resins (curing). The acrylic resins are polymerised by heat, ultraviolet light or chemical catalysts. The hardened blocks containing the tissue samples are then ready to be sectioned.
Formalin-fixed, paraffin-embedded (FFPE) tissues may be stored indefinitely at room temperature, and nucleic acids (both DNA and RNA) may be recovered from them decades after fixation, making FFPE tissues an important resource for historical studies in medicine.
Embedding can also be accomplished using frozen, non-fixed tissue in a water-based medium. Pre-frozen tissues are placed into moulds with the liquid embedding material, usually a water-based glycol or resin, which is then frozen to form hardened blocks.
การตัดเซคชั่น[แก้]
For light microscopy, a glass knife mounted in a microtome is used to cut 10-micrometer-thick tissue sections which are mounted on a glass microscope slide. For transmission electron microscopy, a diamond knife mounted in an ultramicrotome is used to cut 50-nanometer-thick tissue sections which are mounted on a 3-millimeter-diameter copper grid. Then the mounted sections are treated with the appropriate stain.
Frozen tissue embedded in a freezing medium is cut on a microtome in a cooled machine called a cryostat.
Staining[แก้]
Biological tissue has little inherent contrast in either the light or electron microscope. Staining is employed to give both contrast to the tissue as well as highlighting particular features of interest. Where the underlying mechanistic chemistry of staining is understood, the term histochemistry is used. Hematoxylin and eosin (H&E) is the most commonly used light microscopical stain in histology and histopathology. Hematoxylin stains nuclei blue; eosin stains the cytoplasm pink. Uranyl acetate and lead citrate are commonly used to impart contrast to tissue in the electron microscope.
Special staining: There are hundreds of various other techniques that have been used to selectively stain cells and cellular components. Other compounds used to color tissue sections include safranin, oil red o, Congo red, fast green FCF, silver salts, and numerous natural and artificial dyes that were usually originated from the development dyes for the textile industry.
Histochemistry refers to the science of using chemical reactions between laboratory chemicals and components within tissue. A commonly performed histochemical technique is the Perls Prussian blue reaction, used to demonstrate iron deposits in diseases like hemochromatosis.
Histology samples have often been examined by radioactive techniques. In historadiography a slide (sometimes stained histochemically) is X-rayed. More commonly, autoradiography is used to visualize the locations to which a radioactive substance has been transported within the body, such as cells in S phase (undergoing DNA replication) which incorporate tritiated thymidine, or sites to which radiolabeled nucleic acid probes bind in in situ hybridization. For autoradiography on a microscopic level, the slide
การแปล กรุณารอสักครู่..
มิญชวิทยา [ 1 ] ( อังกฤษ :มิญชวิทยา ) เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับจุลกายวิภาคศาสตร์ของเซลล์และเนื้อเยื่อของพืชหรือสัตว์โดยการศึกษาจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องตัดชิ้นเนื้อ ( เครื่องตัดชิ้นเนื้อ ) ตัดเนื้อเยื่อให้บางเพื่อนำไปศึกษา ( เตรียมตัวอย่าง )หรือกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนโดยอาจใช้การย้อมสี ( ย้อม ) เพื่อเพิ่มความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างของเนื้อเยื่อจัดเป็นวิชาที่สำคัญของชีววิทยาและทางการแพทย์
วิชาเนื้อเยื่อจุลพยาธิวิทยา [ 1 ] ( อังกฤษ :จุลพยาธิวิทยา ) เป็นการศึกษาเนื้อเยื่อที่เกิดโรคด้วยกล้องจุลทรรศน์โดยเป็นเครื่องมือที่สำคัญของพยาธิวิทยากายวิภาคเนื่องจากสามารถวินิจฉัยมะเร็งและโรคอื่นๆได้อย่างแม่นยำแพทย์ที่ศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะเรียกว่าพยาธิวิทยานักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ epithelium ส่วนประกอบด้วย " histotechnicians " ช่างเทคนิคมิญชวิทยา ( HT ) ซึ่งนัก ( นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ htl ) , ,เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์และนักชีวเคมีทางการแพทย์โดยวิทยาศาสตร์สาขานี้มีชื่อเรียกว่า histotechnology .
เนื้อหา [ แสดง ]
[ ]
กระบวนการทางเทคนิคแก้การคงสภาพ [ แก้ ]
[ ]
แก้การคงสภาพด้วยฟอร์มัลดีไฮด์และสารเคมีอื่นๆดูบทความหลักที่ : การตรึง ( มิญชวิทยา )
สารคงสภาพใช้ป้องกันเนื้อเยื่อจากการเสื่อมสภาพและยังช่วยรักษาโครงสร้างแล้วส่วนประกอบต่างๆภายในเซลล์ ( เช่น นิวเคลียส เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม , ไมโตคอนเดรีย )สารคงสภาพที่ใช้โดยทั่วไปสำหรับการเตรียมเนื้อเยื่อศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบแสงความ 10% บัฟเฟอร์ฟอร์มาลีน ( 4% ฟอร์มัลดีไฮด์ the ฟอสเฟตบัฟเฟอร์ซาไลน์ ) สำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ที่ใช้บ่อยที่สุดคือฟิกเซทีฟดี มักจะเป็น 2โซลูชั่น 5% ในฟอสเฟตบัฟเฟอร์น้ำเกลือ fixatives เหล่านี้รักษาเนื้อเยื่อหรือเซลล์ที่เสียหายส่วนใหญ่โดยโมเลกุลโปรตีน ปฏิบัติการหลักของ fixatives อัลดีไฮด์ เหล่านี้คือกลุ่มโปรตีนกรดอะมิโนในการเชื่อมโยงข้ามผ่านการก่อตัวของ C ( 4 ) ความเชื่อมโยงในคดีของ ฟอร์มัลดีไฮด์ หรือ โดย c5h10 ข้ามการเชื่อมโยงในกรณีของกลูตารัลดีไฮด์ . ในกระบวนการนี้ในขณะที่การรักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้างของเซลล์และเนื้อเยื่อที่สามารถสร้างความเสียหายฟังก์ชันทางชีวภาพของโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอนไซม์ และยังสามารถทำให้ผิดธรรมชาติเพื่อบางขอบเขต . นี้สามารถเป็นอันตรายต่อเทคนิคที่พบบางอย่าง fixatives เพิ่มเติมมักจะใช้สำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน เช่นออสเมียม tetroxide หรือยูเรนิลอะซิ
[ ]
แก้แช่แข็ง ส่วนการตรึงส่วนเป็นวิธีการที่รวดเร็วสำหรับการรักษาสภาพเนื้อเยื่อตัวอย่างและติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อแช่แข็งโดยถูกใช้ในการวินิจฉัยเพื่อการผ่าตัดกำจัดเซลล์มะเร็งวิธีนี้ใช้สำหรับการผ่าตัดเซลล์มะเร็งและหาขอบเขตภายหลังการผ่าตัดเซลล์มะเร็งการแช่แข็งเนื้อเยื่อตัวอย่างจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Cryostat งั้นเหรอเครื่องตัดชิ้นเนื้อ ,ทำการแช่แข็งและติดตั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อบนกระจกสไลด์สำหรับการย้อมสีตัวอย่างสามารถกระทำได้เช่นเดียวกับวิธีการติดตั้งตัวอย่างแบบอื่นๆสำหรับเนื้อเยื่อบางชนิดก็ต้องใช้การย้อมสี ( ย้อม ) แบบพิเศษเช่น( 2 ) ต้องใช้วิธีการที่เรียกว่าการย้อม D
การดึงน้ำออกและแทรกซึม [ แก้ ]
เนื่อเยื่อจำเป็นต้องถูกฝังอยู่ในวัสดุที่แข็งพอเพื่อให้สามารถตัดออกมาเป็นเซคชั่นได้โดยทั่วไปความหนา 5 μ m ( ไมโครเมตร ;1000 ไม่โครเมตร = 1 มิลลิเมตร ) สำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงและ 80-100 nm ( นาโนเมตร ; 1000 ,000 นาโนเมตร = 1 มิลลิเมตร ) สำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสำหรับกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงจะใช้พาราฟินเป็นหลักเนื่องจากเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำและเนื่อเยื่อในสิ่งมีชีวิตมักประกอบด้วยน้ำโดยการนำเนื้อเยื่อผ่านเอทานอลความเข้มข้นจากต่ำไปสูงตามด้วยสารเคลียริ่งและทำให้เนื้อเยื่อใสโดยทั่วไปคือไซลีนเพื่อนำแอลกอฮอล์ออกจากเนื้อเยื่อ ,สุดท้ายคือพาราฟินซึ่งจะเข้าไปแทนทีไซลีนในเนื้อเยื่อและทำให้เนื้อเยื่อมีความแข็งพอ .อย่างไรก็ตามพาราฟินไม่สามารถทำให้เนื้อเยื่อแข็งพอที่จะตัดเซคชั่นให้บางสำหรับกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้จึงใช้วัสดีเรซินแทน . อีพ็อกซี่เรซิ่นจะนิยมใช้ผ่านสื่อ แต่กระแสน้ำเชี่ยวจะใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หลอดต้องการความหนาส่วน ( 0.35 μ M 5 μ M ) เม็ดฝังเนื้อเยื่อยังสามารถตัดกล้องจุลทรรศน์แสง อีกครั้ง , immiscibility ของอีพอกซีเรซินกับน้ำมากที่สุด และ อะครีลิก จำเป็นต้องใช้น้ำ ปกติ กับ เอทานอล การฝังเนื้อเยื่อ
[ ]
แก้หลังจากเนื้อเยื่อได้รับการแห้งและแทรกซึมด้วยการฝังวัสดุ พวกเขาจะพร้อมสำหรับการฝัง .ในระหว่างกระบวนการนี้เนื้อเยื่อตัวอย่างจะอยู่ในแม่พิมพ์พร้อมกับของเหลว การฝังวัสดุซึ่งเป็นแล้วแข็งกระด้าง นี่คือความโดยการใช้ในกรณีของขี้ผึ้งพาราฟินและความร้อน ในกรณีของอีพอกซีเรซิน ( curing ) อะคริลิกเรซินเป็น polymerised โดยความร้อน แสงอัลตราไวโอเลต หรือ ตัวเร่งปฏิกิริยาทางเคมีแข็งบล็อกที่มีเนื้อเยื่อตัวอย่างแล้วพร้อมที่จะตัด .
ฟอร์มาลินถาวร พาราฟินฝังตัว ( ffpe ) เนื้อเยื่ออาจจะเก็บไปเรื่อย ๆ ที่อุณหภูมิห้อง และ กรดนิวคลีอิก ( DNA และ RNA ) อาจจะหายจากพวกเขาทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากการตรึง ทำให้เนื้อเยื่อ ffpe เป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์การแพทย์ .
ฝัง ยังสามารถได้ใช้แช่แข็งไม่ซ่อมเนื้อเยื่อในอาหารสูตรน้ำ . ก่อนแช่แข็งเนื้อเยื่อจะอยู่ในแม่พิมพ์ด้วยของเหลวผ่านวัสดุที่มักจะใช้ตาม หรือ เรซิน ซึ่งเป็นแล้วแช่แข็งแบบแข็งบล็อก การตัดเซคชั่น
[ ]
แก้สำหรับกล้องจุลทรรศน์แสง มีด แก้ว ติดตั้งในเครื่องตัดชิ้นเนื้อเพื่อใช้ตัด 10 ไมโครเมตรหนาเนื้อเยื่อส่วนที่ติดกับกระจกแบบสไลด์ส่งกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน เพชรมีดติดใน ultramicrotome จะใช้ในการตัดเนื้อเยื่อส่วนหนา 50 นาโนเมตร ซึ่งติดตั้งบน 3-millimeter-diameter ทองแดงตาราง แล้วติดส่วนที่เป็นรักษาด้วยคราบที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อที่เหมาะสม
แข็งปานกลาง ตัดเป็นเครื่องตัดชิ้นเนื้อในด้วยเครื่องที่เรียกว่า Cryostat แช่แข็ง
[ ]
แก้ .เนื้อเยื่อชีวภาพมีความคมชัดอยู่เล็ก ๆน้อย ๆในแสง หรือ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน การเป็นลูกจ้างเพื่อให้ทั้งความคมชัดให้เนื้อเยื่อ ตลอดจนเน้นเฉพาะคุณสมบัติที่น่าสนใจ ที่สำคัญกลไกเคมีของการเข้าใจคำว่า histochemistry ใช้ย้อมและ eosin ( H & E ) เป็นสมุนไพรที่ใช้บ่อยที่สุดในเนื้อเยื่ออ่อน คราบและพยาธิวิทยา . ย้อมคราบ eosin คราบ cytoplasm นิวเคลียสสีฟ้า สีชมพู ยูเรนิลอะซิเตตและนำสารเคมีมักใช้ในการถ่ายทอดความคมชัดของเนื้อเยื่อในกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน .
: พิเศษ .มีหลายร้อยของเทคนิคอื่น ๆที่ถูกใช้เพื่อเลือกคราบเซลล์และส่วนประกอบของเซลล์ สารประกอบอื่น ๆที่ใช้ส่วนที่เนื้อเยื่อสีรวมถึงซาฟรานิน น้ำมันแดง O , คองโกแดง เขียวเร็ว fcf แร่เงินและหลายธรรมชาติและประดิษฐ์สีที่มักจะเกิดจากการพัฒนาสีย้อมสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ
histochemistry หมายถึง ศาสตร์ของการใช้ปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างห้องปฏิบัติการเคมีและส่วนประกอบภายในเนื้อเยื่อ เอ เป็นเทคนิคทั่วไปแสดงปฏิกิริยา บลูเพิร์ลปรัสเซียที่ใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงฝากรีดในโรคฮีโมโครมาโทซิส .
ตัวอย่างเนื้อเยื่อ มักจะได้รับการตรวจสอบโดยเทคนิครังสีใน historadiography ภาพนิ่ง ( บางครั้งเปรอะเปื้อน histochemically ) คือ ไปเอ็กซ์เรย์ . มากกว่าปกติ , เก้าอี้รับแขก จะใช้ภาพสถานที่ที่สารกัมมันตรังสีจะถูกส่งไปภายในร่างกาย เช่น เซลล์ในเฟส ( ระหว่างการถ่ายแบบดีเอ็นเอ ) ซึ่งรวม tritiated เพียงหรือเว็บไซต์ที่ radiolabeled กรดนิวคลีอิกฟิวส์ผูกใน situ hybridization .สำหรับเก้าอี้รับแขกในระดับกล้องจุลทรรศน์สไลด์
การแปล กรุณารอสักครู่..