1. Sometimes a family expresses a s

1. Sometimes a family expresses a strong preference or acts in a way that you feel conflicts with what's best for the child and consistent with developmentally appropriate practice. When this happens, you should take the opportunity to find out more about the other person's perspective. The preliminary conversation may bring to light some cultural differences,and you may feel out of your depth. But also know that the family may feel lost or confused by the differences in how you view children. what you need to keep in mind when you encounter cultural differences is this: when a family behavior or preference seems to be at odds with developmentally appropriate practice, do not jump to negative judgments.
2. Culture is deeply rooted and highly complex, and teachers cannot have a detailed understanding of every culture they encounter through the children and families they serve. More importantly, teachers cannot know how different cultures and expectations will interact, or what form the cultural norms take for each individual or family.
3. Hitting a cultural bump means you first need to learn more about the family and their culture. You can do this by observing the family members interacting with their children. You can listen to their expectations for their child's behavior and interaction with adults and peers and try to come to an understanding of the family's beliefs about children and childrearing. Then, take some time to comment (with no judgment implied ) on what you see, and talk to the family about your
4. Concept of child development as well as the teaching and care practices used in the program.
Families will want to know that what their children will learn in the early childhood program is in harmony with their values. Aiming for harmony between program and home can come about through culturally responsive practices. Cultural responsiveness can be compared to music, where notes that are harmonious aren't the exact same notes, but they do go together. The point is to avoid driving a wedge between children and their families by continuing with practices that aren't mutually agreeable.
5 To create harmony even in the face of differing practices, it is important to move away from viewing contrasting practices as right or wrong, instead thinking of them simply as different. This change in perspective doesn't mean that "anything goes." Nor does the change mean that you should abandon your commitment to good practice. Remember, just because it's cultural doesn't always mean it's good for children. First, you must first seek to understand the family's perspective and the identity issues involved, and then you can better judge what's actually harmful or beneficial for the particular child. Obviously, even while being open to accepting cultural differences as valid and right, you must consider the nonnegotiable legal and ethical boundaries involved in caring for children.
6 So when your professional knowledge about what children need is in contrast with the practice of a particular family or individual, the solution lies in communicating about the differences. Together everyone involved can figure out what to do about those differences, as Jamal's family and teacher did with their shower cap solution. Professional knowledge is valuable, but there is always room to expand on it. The goal, unless a family sees it differently, is to keep children safe, trusting, developing, growing, and connected to their culture while also learning how to operate in the world outside it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บางครั้งครอบครัวแสดงความแข็งแรง หรือทำงานในแบบที่คุณรู้สึกขัดแย้งกับสิ่งดีที่สุดสำหรับเด็ก และสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม developmentally เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ คุณควรใช้โอกาสที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของผู้อื่น การสนทนาเบื้องต้นอาจนำความแตกต่างทางวัฒนธรรม และคุณอาจรู้สึกออกจากความลึกของแสง แต่ยัง รู้ว่า ครอบครัวอาจรู้สึกหายไป หรือสับสน โดยความแตกต่างในวิธีการที่คุณดูเด็ก สิ่งที่คุณต้องจำไว้เสมอเมื่อคุณพบความแตกต่างของวัฒนธรรมนี้คือ: เมื่อลักษณะการทำงานครอบครัวหรือความน่าจะ เป็น at odds with ฝึก developmentally ที่เหมาะสม ไม่ไปตัดสินค่าลบ2. วัฒนธรรมเป็นรากลึก และซับซ้อนมาก และครูไม่มีความเข้าใจรายละเอียดของทุกวัฒนธรรมที่พวกเขาพบเด็กและครอบครัวที่พวกเขาให้บริการ ที่สำคัญ ครูไม่รู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง และความคาดหวังที่จะโต้ตอบ หรืออะไรเป็นบรรทัดฐานวัฒนธรรมใช้สำหรับแต่ละบุคคลหรือครอบครัว3. กดปุ่มวิธีวัฒนธรรมชนก่อนอื่นคุณต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครอบครัวและวัฒนธรรมของพวกเขา คุณสามารถทำได้ โดยการสังเกตครอบครัวกับเด็ก คุณสามารถฟังความคาดหวังของพวกเขาสำหรับลักษณะการทำงานและปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และเพื่อนของลูก และพยายามมาตามความเข้าใจของครอบครัวความเชื่อเกี่ยวกับเด็กและ childrearing แล้ว ใช้เวลาในการแสดงความคิดเห็น (ที่ มีคำพิพากษาไม่นัย) ในสิ่งที่คุณเห็น และพูดคุยกับครอบครัวเกี่ยวกับคุณ4. แนวความคิดของเด็กพัฒนาเป็นวิธีการสอนและการดูแลที่ใช้ในโปรแกรมครอบครัวจะต้องรู้ว่า สิ่งที่เด็กจะเรียนในโปรแกรมปฐมวัยสอดคล้องกับค่า เป้าหมายสำหรับระหว่างโปรแกรมและบ้านสามารถมาผ่านปฏิบัติวัฒนธรรมตอบสนอง ตอบสนองวัฒนธรรมสามารถเปรียบเทียบเพลง ที่บันทึกย่อที่มีความสามัคคีไม่บันทึกย่อเดียวกันแน่นอน แต่พวกเขาไปด้วยกัน จุดจะหลีกเลี่ยงการขับรถเป็นลิ่มระหว่างเด็กและครอบครัว โดยดำเนินการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกันต่อไป5 การสร้างความสามัคคีแม้หน้าปฏิบัติแตกต่างกัน เป็นต้องย้ายออกจากห้องปฏิบัติการด้านขวาดู หรือ ผิด แทน ความคิดของพวกเขาเพียงที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงในมุมมองนี้ไม่ได้หมายความ ว่า "อะไรไป" หรือไม่เปลี่ยนแปลงหมายความ ว่า คุณควรละทิ้งความมุ่งมั่นของคุณดี จำ เพียง เพราะมันเป็นวัฒนธรรม เสมออย่างไร ก็ดีสำหรับเด็ก แรก คุณต้องแสวงหาเพื่อทำความเข้าใจมุมมองของครอบครัวเกี่ยวข้องกับประเด็นอัตลักษณ์ และจากนั้น คุณสามารถดีผู้พิพากษาคืออะไรอันตรายจริง หรือเป็นประโยชน์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ อย่างชัดเจน แม้ในขณะที่มีการเปิดรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมถูกต้อง และเหมาะสม คุณต้องพิจารณาถึงขอบเขตทางกฎหมาย และจริยธรรม nonnegotiable เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก6 ดังนั้นเมื่อมืออาชีพความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เด็กต้องมี in contrast with การปฏิบัติเฉพาะครอบครัว หรือแต่ละ โซลูชั่นอยู่ในการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับความแตกต่าง กันทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถคิดออกสิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับความแตกต่าง เป็นครูและครอบครัวของ Jamal ได้ ด้วยโซลูชั่นหมวกอาบน้ำของพวกเขา รู้มืออาชีพจะมีคุณค่า แต่จะมีห้องเพื่อขยายการ เป้าหมาย ยกเว้นว่าครอบครัวเห็นมันแตกต่างกัน ได้ให้เด็กปลอดภัย เชื่อ ถือ พัฒนา เติบโต และเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมของพวกเขาในขณะที่ยัง เรียนรู้วิธีการใช้งานในโลกภายนอกได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บางครั้งครอบครัวเป็นการแสดงออกถึงการตั้งค่าที่แข็งแกร่งหรือทำหน้าที่ในทางที่คุณรู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กและสอดคล้องกับการปฏิบัติที่เหมาะสมในการพัฒนา เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้คุณควรใช้โอกาสที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของคนอื่น ๆ การสนทนาเบื้องต้นอาจจะนำไปแสงแตกต่างทางวัฒนธรรมบางอย่างและคุณอาจจะรู้สึกออกจากความลึกของคุณ แต่ยังไม่ทราบว่าครอบครัวอาจจะรู้สึกสูญหายหรือสับสนโดยความแตกต่างในวิธีการที่คุณดูเด็ก สิ่งที่คุณต้องเก็บไว้ในใจเมื่อคุณพบแตกต่างทางวัฒนธรรมคือ: เมื่อพฤติกรรมของครอบครัวหรือการตั้งค่าดูเหมือนจะขัดแย้งกับการปฏิบัติที่เหมาะสมในการพัฒนาไม่ข้ามไปที่การตัดสินเชิงลบ.
2 วัฒนธรรมเป็นรากลึกและซับซ้อนสูงและครูผู้สอนไม่สามารถมีความเข้าใจรายละเอียดของทุกวัฒนธรรมที่พวกเขาพบผ่านเด็กและครอบครัวพวกเขาให้บริการ ที่สำคัญครูผู้สอนไม่สามารถรู้ว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างและความคาดหวังจะมีปฏิสัมพันธ์หรือสิ่งที่สร้างบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมใช้สำหรับแต่ละบุคคลหรือครอบครัว.
3 กดปุ่มชนวัฒนธรรมหมายความว่าคุณต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครอบครัวและวัฒนธรรมของพวกเขา คุณสามารถทำได้โดยการสังเกตสมาชิกในครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กของพวกเขา คุณสามารถฟังความคาดหวังของพวกเขาสำหรับพฤติกรรมของเด็กของพวกเขาและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และเพื่อนร่วมงานและพยายามที่จะมาถึงความเข้าใจในความเชื่อของคนในครอบครัวเกี่ยวกับเด็กและการเลี้ยงดูเด็กอ่อน จากนั้นใช้เวลาในการแสดงความคิดเห็น (ด้วยความยุติธรรมไม่มีนัย) กับสิ่งที่คุณเห็นและพูดคุยกับครอบครัวของคุณเกี่ยวกับ
4 แนวคิดของการพัฒนาเด็กเช่นเดียวกับการเรียนการสอนการปฏิบัติและการดูแลที่ใช้ในโปรแกรม.
ครอบครัวจะต้องการที่จะรู้ว่าสิ่งที่เด็กของพวกเขาจะได้เรียนรู้ในโปรแกรมวัยเด็กอยู่ในความสามัคคีที่มีค่าของพวกเขา เล็งสำหรับความสามัคคีระหว่างโปรแกรมและบ้านสามารถมาเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ผ่านการตอบสนองทางวัฒนธรรม การตอบสนองทางวัฒนธรรมสามารถเทียบกับเพลงที่บันทึกที่มีความสามัคคีไม่ได้บันทึกเดียวกันแน่นอน แต่พวกเขาไม่ไปด้วยกัน จุดคือการหลีกเลี่ยงการขับรถลิ่มระหว่างเด็กและครอบครัวของพวกเขาอย่างต่อเนื่องโดยกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นที่น่าพอใจร่วมกัน.
5 การสร้างความสามัคคีแม้ในใบหน้าของการปฏิบัติที่แตกต่างกันก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะย้ายออกจากการดูการปฏิบัติที่แตกต่างเป็นถูกหรือผิด แทนความคิดของพวกเขาก็เป็นที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ในมุมมองที่ไม่ได้หมายความว่า "อะไรไป." หรือไม่เปลี่ยนแปลงหมายความว่าคุณควรละทิ้งความมุ่งมั่นของคุณเพื่อการปฏิบัติที่ดี โปรดจำไว้ว่าเพียงเพราะมันเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเด็ก ครั้งแรกที่คุณจะต้องแรกพยายามที่จะเข้าใจมุมมองของคนในครอบครัวและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวตนและจากนั้นคุณจะสามารถตัดสินสิ่งที่เป็นจริงที่เป็นอันตรายหรือเป็นประโยชน์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เห็นได้ชัดว่าแม้ในขณะที่การเปิดให้ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ถูกต้องและขวาคุณจะต้องพิจารณาขอบเขตของกฎหมายและจริยธรรม nonnegotiable มีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก.
6 ดังนั้นเมื่อความรู้มืออาชีพของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กจำเป็นต้องเป็นในทางตรงกันข้ามกับการปฏิบัติของคนในครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หรือบุคคล, การแก้ปัญหาอยู่ในการสื่อสารเกี่ยวกับความแตกต่าง ทุกคนที่เกี่ยวข้องกันสามารถคิดออกว่าจะทำอย่างไรกับความแตกต่างเหล่านั้นเป็นครอบครัวออสการ์และครูทำกับวิธีการแก้ปัญหาของพวกเขาหมวกอาบน้ำ ความรู้ทางวิชาชีพที่มีคุณค่า แต่ยังมีห้องพักที่จะขยายในนั้น เป้าหมายเว้นแต่ครอบครัวเห็นว่ามันแตกต่างกันคือการให้เด็ก ๆ ปลอดภัยไว้วางใจการพัฒนาเจริญเติบโตและเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมของพวกเขาในขณะที่ยังเรียนรู้วิธีการใช้งานในโลกภายนอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . บางครั้งครอบครัวแสดงค่ามากหรือการกระทำในลักษณะที่คุณรู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่ ดีที่สุดสำหรับเด็กและสอดคล้องกับการปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาการ . เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้คุณควรจะใช้โอกาสที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของบุคคลอื่น การสนทนาเบื้องต้นอาจนำแสงความแตกต่างด้านวัฒนธรรม และคุณอาจรู้สึกของความลึกของคุณแต่ยังรู้ว่า ครอบครัวอาจจะรู้สึกสิ้นหวังและสับสนโดยความแตกต่างในวิธีการที่คุณดูเด็ก สิ่งที่คุณจะต้องเก็บไว้ในใจเมื่อคุณพบความแตกต่างทางวัฒนธรรมคือ : เมื่อครอบครัวมีพฤติกรรมหรือความชอบที่ดูเหมือนว่าจะค้านกับการปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาการ ไม่กระโดดคำตัดสินลบ .
2 เป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึก และซับซ้อนมากและครูไม่สามารถมีความเข้าใจรายละเอียดของทุกวัฒนธรรม พวกเขาพบผ่านเด็กและครอบครัวที่พวกเขาให้บริการ ที่สำคัญ ครูไม่รู้ว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและความคาดหวังจะโต้ตอบหรือสิ่งที่รูปแบบบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมที่ใช้สำหรับแต่ละบุคคลหรือครอบครัว
3 ตีชนวัฒนธรรม หมายถึง คุณต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครอบครัวและวัฒนธรรมของพวกเขาคุณสามารถทำเช่นนี้โดยสังเกตสมาชิกในครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กของพวกเขา คุณสามารถฟังความคาดหวังสำหรับพฤติกรรมของเด็กของพวกเขาและปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และเพื่อน และลองมาเพื่อความเข้าใจของครอบครัว ความเชื่อเกี่ยวกับเด็ก และการเลี้ยงดูเด็ก . แล้ว ใช้เวลาเพื่อแสดงความคิดเห็น ( ไม่มีการพิพากษาโดยนัย ) สิ่งที่คุณเห็นและพูดคุยกับครอบครัวของคุณ
4แนวคิดในการพัฒนาเด็ก ตลอดจนการดูแลและวิธีปฏิบัติที่ใช้ในโปรแกรม
ครอบครัวจะต้องการที่จะรู้ว่าสิ่งที่เด็กของพวกเขาจะเรียนรู้ในหลักสูตรปฐมวัยที่สอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา มีความสามัคคีระหว่างโปรแกรมและบ้านสามารถมาเกี่ยวกับการตอบสนองทางวัฒนธรรมผ่านการปฏิบัติ การตอบสนองทางวัฒนธรรมที่สามารถเทียบกับเพลงที่บันทึกที่ไม่กลมกลืน ไม่บันทึกเดียวกันแน่นอน แต่พวกเขาเดินไปด้วยกัน ประเด็นคือ ต้องหลีกเลี่ยงตอกลิ่มลงไประหว่างเด็กและครอบครัวของพวกเขา โดยต่อเนื่องกับการปฏิบัติที่ไม่คบหากันและกัน .
5 เพื่อสร้างความสามัคคีแม้ในหน้าของการปฏิบัติที่แตกต่างกัน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะย้ายออกไปจากการเปรียบเทียบการปฏิบัติที่เป็นผิดหรือถูกแทนการคิดของพวกเขาต่างก็เป็น การเปลี่ยนแปลงนี้ในมุมมองที่ไม่ได้แปลว่า " อะไร " หรือทำการเปลี่ยนแปลงหมายความว่าคุณควรละทิ้งความมุ่งมั่นของคุณเพื่อการปฏิบัติที่ดี จำได้ เพราะมันไม่มีวัฒนธรรม ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็ก แรกคุณจะต้องพยายามที่จะเข้าใจมุมมองของครอบครัวและเอกลักษณ์ ประเด็นที่เกี่ยวข้อง