Date of this Version2008CommentsPub

Date of this Version
2008
Comments
Published by Congressional Research Service, www.crs.gov, RL33434
Abstract
There is growing concern that the United States is not preparing a sufficient number of students, teachers, and practitioners in the areas of science, technology, engineering, and mathematics (STEM). A large majority of secondary school students fail to reach proficiency in math and science, and many are taught by teachers lacking adequate subject matter knowledge.
When compared to other nations, the math and science achievement of U.S. pupils and the rate of STEM degree attainment appear inconsistent with a nation considered the world leader in scientific innovation. In a recent international assessment of 15-year-old students, the U.S. ranked 28th in math literacy and 24th in science literacy. Moreover, the U.S. ranks 20th among all nations in the proportion of 24-year-olds who earn degrees in natural science or engineering.
A 2005 study by the Government Accountability Office found that 207 distinct federal STEM education programs were appropriated nearly $3 billion in FY2004. Nearly three-quarters of those funds and nearly half of the STEM programs were in two agencies: the National Institutes of Health and the National Science Foundation. Still, the study concluded that these programs are highly decentralized and require better coordination. Though uncovering many fewer individual programs, a 2007 inventory compiled by the American Competitiveness Council also put the federal STEM effort at $3 billion and concurred with many of the GAO findings regarding decentralization and coordination.
STEM education (and competitiveness) issues have received a lot of attention in recent years. Several high-profile proposals were forwarded by the academic and business communities. In February of 2006, the President released the American Competitiveness Initiative. During the 109th Congress, three somewhat modest STEM education programs were passed and signed into law. Finally, in the spring and summer of 2007, some of the major STEM education legislative proposals were combined into the America Competes Act of 2007, passed by the 110th Congress and signed by the President on August 9, 2007.
This report provides the background and context to understand these legislative developments. The report first presents data on the state of STEM education in the United States. It then examines the federal role in promoting STEM education. The report concludes with a discussion of the legislative actions recently taken to address federal STEM education policy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันที่ของรุ่นนี้2008ความคิดเห็นเผยแพร่ โดยตั้งบริการการวิจัย www.crs.gov, RL33434บทคัดย่อมีกังวลเพิ่มขึ้นว่า สหรัฐอเมริกากำลังเตรียมที่เพียงพอจำนวนนักเรียน ครู และผู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (ก้าน) ไม่ใหญ่นักเรียนมัธยมศึกษาถึงความสามารถทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และหลายที่สอน โดยครูผู้สอนขาดความรู้เรื่องเพียงพอเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ผลสัมฤทธิ์ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนในสหรัฐอเมริกาและอัตราโดยองศาก้านปรากฏสอดคล้องกับประเทศที่เป็นผู้นำระดับโลกในทางวิทยาศาสตร์นวัตกรรม การประเมินนานาชาติล่าสุดของนักเรียนอายุ 15 ปี สหรัฐอเมริกาจัดอันดับ 28 ในคณิตศาสตร์สามารถและ 24 ในวิทยาศาสตร์สามารถ นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาอันดับ 20 ในหมู่ประชาชาติทั้งหมดในสัดส่วน 24 ปีที่ได้รับองศาในธรรมชาติวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมการศึกษา 2005 โดยความรับผิดชอบราชการพบว่า 207 หมดกลางก้านศึกษาโปรแกรมถูกจัดสรรเกือบ 3 พันล้านเหรียญใน FY2004 เกือบ three-quarters เงินทุนเหล่านั้นและเกือบครึ่งหนึ่งของโปรแกรมก้านอยู่ในสองหน่วยงาน: สถาบันสุขภาพแห่งชาติและมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ยังคง การศึกษาสรุปว่า โปรแกรมเหล่านี้สูงแบบกระจายศูนย์ และต้องประสานงานที่ดี ว่าเปิดเจอทุ่นระเบิดแต่ละโปรแกรมมากน้อย คลัง 2007 ที่รวบรวม โดยคณะกรรมการแข่งขันอเมริกันยังใส่แรงก้านกลางที่ $3 พันล้าน และเห็นพ้องกับหลายสิ่งเกาเกี่ยวกับการกระจายอำนาจการแพร่กระจายและการประสานงานประเด็นศึกษา (และการแข่งขัน) ต้นกำเนิดได้รับความสนใจมากในปีที่ผ่านมา ข้อเสนอหลายทรงสูงถูกส่งต่อ โดยชุมชนวิชาการ และธุรกิจ ในเดือน 2549 กุมภาพันธ์ ประธานออกทุน ระหว่างสภาเทรด ศึกษาก้านสามค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวโปรแกรมได้ผ่าน และลงนามในกฎหมาย สุดท้าย ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของปี 2007 บางที่ข้อเสนอสภาศึกษาสเต็มหลักถูกรวมเข้าเป็นกระทำแข่งขันอเมริกาของ 2007 ผ่าน โดยสภาคองเกรส 110th และลงนาม โดยประธานาธิบดีบน 9 สิงหาคม 2007รายงานนี้แสดงพื้นหลังและบริบทเข้าใจพัฒนาประเทศเหล่านี้ รายงานจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกาครั้งแรก จากนั้นตรวจสอบบทบาทของภาครัฐในการส่งเสริมการศึกษาสเต็ม รายงานสรุป ด้วยการสนทนาของสภาเพิ่ง มาอยู่กลางก้านศึกษานโยบาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันนี้รุ่น
2008
ความคิดเห็น
ที่เผยแพร่โดยบริการการวิจัยรัฐสภา, www.crs.gov, RL33434
บทคัดย่อ
มีความกังวลที่เพิ่มขึ้นคือการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้เตรียมความพร้อมจำนวนเพียงพอของนักเรียนครูและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ส่วนใหญ่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาล้มเหลวที่จะไปถึงความสามารถในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์และหลายคนได้รับการสอนโดยครูขาดความรู้เรื่องเรื่องที่เพียงพอ.
เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนสหรัฐและอัตราการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญา STEM ปรากฏ ไม่สอดคล้องกับประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำระดับโลกในนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ในการประเมินระหว่างประเทศล่าสุดของนักเรียน 15 ปีที่เราอยู่ในอันดับที่ 28 ในการรู้คณิตศาสตร์และ 24 ในการรู้วิทยาศาสตร์ นอกจากนี้สหรัฐอันดับที่ 20 ในหมู่ประชาชาติทั้งหมดในสัดส่วน 24 ปี olds ที่ได้รับปริญญาในสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติหรือวิศวกรรม.
2005 การศึกษาโดยสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาลพบว่า 207 ที่แตกต่าง STEM โปรแกรมการศึกษาของรัฐบาลกลางได้รับการจัดสรรเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ FY2004 . เกือบสามในสี่ของเงินเหล่านั้นและเกือบครึ่งหนึ่งของโปรแกรม STEM อยู่ในสองหน่วยงาน: สถาบันสุขภาพแห่งชาติและมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ แต่ถึงกระนั้นการศึกษาสรุปได้ว่าโปรแกรมเหล่านี้มีการกระจายอำนาจอย่างมากและต้องประสานงานที่ดี แม้ว่าการเปิดเผยแต่ละโปรแกรมน้อยลงหลาย 2007 สินค้าคงคลังที่รวบรวมโดยสามารถในการแข่งขันอเมริกันสภายังใส่ความพยายาม STEM ของรัฐบาลกลางที่ $ 3000000000 และเห็นด้วยกับหลายคนผลการวิจัยเก่าที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจและการประสานงาน.
STEM การศึกษา (และการแข่งขัน) ประเด็นที่ได้รับจำนวนมาก ความสนใจในปีที่ผ่านมา หลายข้อเสนอรายละเอียดสูงได้รับการส่งต่อไปโดยนักวิชาการและชุมชนธุรกิจ ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2006 ประธานเปิดตัวความคิดริเริ่มในการแข่งขันอเมริกัน ในระหว่างที่สภาคองเกรส 109th สาม STEM ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวโปรแกรมการศึกษาผ่านและลงนามในกฎหมาย สุดท้ายในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของปี 2007 บางส่วนของที่สำคัญการศึกษา STEM ข้อเสนอกฎหมายได้รับการรวมกันเป็นอเมริกาแข่งขันพระราชบัญญัติของปี 2007 ที่ผ่านโดยสภาคองเกรส 110 และลงนามโดยประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2007.
รายงานนี้แสดงพื้นหลังและ บริบทที่จะเข้าใจการพัฒนากฎหมายเหล่านี้ รายงานครั้งแรกนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของการศึกษา STEM ในประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นตรวจสอบบทบาทของรัฐบาลกลางในการส่งเสริมการศึกษา STEM รายงานสรุปด้วยการอภิปรายของการกระทำของฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินการเมื่อเร็ว ๆ นี้ไปยังที่อยู่ของรัฐบาลกลาง STEM นโยบายการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันที่รุ่นนี้


บริการ 2008 ความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยการวิจัย www.crs.gov , รัฐสภา , บทคัดย่อ rl33434

มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้เตรียมจำนวนเพียงพอของนักศึกษา ครู อาจารย์ และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมและคณิตศาสตร์ ( STEM )ส่วนใหญ่ของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมล้มเหลวถึงความสามารถในทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ และมีครูขาดสอนเรื่องความรู้เพียงพอ .
เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับต้นของสหรัฐฯ และอัตราความสำเร็จ ปรากฏไม่สอดคล้องกับประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศประเมินล่าสุดของนักเรียนอายุ 15 ปี สหรัฐฯ อันดับที่ 28 ในการรู้ทางคณิตศาสตร์และ 24 ในการรู้วิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ สหรัฐ อันดับที่ 20 ของทุกประเทศในสัดส่วน 24 ขวบ ที่ได้รับปริญญาในสาขาวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์
ธรรมชาติ .2005 การศึกษาโดยสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาล พบว่า แตกต่างกันของรัฐบาลกลางการศึกษาโปรแกรม 207 ) โดยเกือบ $ 3 พันล้านดอลลาร์ใน FY2004 . เกือบสามในสี่ของเงินทุนเหล่านั้น และเกือบครึ่งหนึ่งของโปรแกรมต้นเป็นสองหน่วยงาน : สถาบันสุขภาพแห่งชาติและมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ยังคง