in the heart of the jungles of Cent

in the heart of the jungles of Central America is one of the most important sites of the Mayan civilization-the ruins of Tikal. Tikal was once the largest city in the Mayan world. Experts think 90,000 people used to live here. However, by A.D. 950, all the people had left the city. Then the rain forests returned to completely cover the land.
Today, historians and tourists can visit Tikal and see some of the 3,000 ancient structures that once stood there. Among the ruins are six huge pyramids. Some are more than 60 meters (200 feet) high. On these pyramids are carved pictures. They help us understand what the Maya were like and how they lived. The ruins of Tikal also give us important clues to solve the mystery of why they left and never returned.
Experts believe there were a few reasons the Maya left Tikal. It didn't rain very often., so there was not enough water to drink or to grow food. Also, Thai was always at war with other cities, and some people may have left to avoid the war.
Today, in addition to its important ruins, Tikal National Park contains the largest area of wild rain forest in Central America. It protects thousands of unique plant and animal species.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในป่าของทวีปอเมริกาเป็นหนึ่งสำคัญที่สุดของซากอารยธรรมมายาของ Tikal Tikal เคยเมืองใหญ่ที่สุดในโลกมายา ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า 90000 คนที่ใช้ชีวิตที่นี่ อย่างไรก็ตาม โดยคศ. 950 ทุกคนได้ทิ้งเมือง ป่าฝนกลับมาสมบูรณ์ครอบคลุมที่ดิน.
วันนี้ นักประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม Tikal และเห็นบางโครงสร้างโบราณ 3000 ครั้งยืนมี โบราณในหมู่พีระมิดส์ใหญ่ 6 กว่า 60 เมตร (200 ฟุตสูง)ได้ ในพีระมิดส์เหล่านี้จะสลักรูปภาพ พวกเขาช่วยให้เราเข้าใจในมายาที่ถูกเช่น และวิธีที่พวกเขาอาศัยอยู่ ซากปรักหักพังของ Tikal ยังให้เบาะแสสำคัญเพื่อไขปริศนาของเหตุพวกเขาซ้าย และไม่เคยส่งคืน.
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มีไม่กี่เหตุผลมายาซ้าย Tikal ไม่ได้ฝนตกบ่อย จึงไม่มีเพียงพอสำหรับน้ำดื่ม หรืออาหารเติบโต ยัง ไทยได้ทำสงครามกับเมืองอื่น ๆ เสมอ และบางคนอาจมีด้านซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการ war.
วันนี้ นอกจากความสำคัญซากปรักหักพัง Tikal อุทยานประกอบด้วยพื้นที่ใหญ่ที่สุดของป่าฝนในทวีปอเมริกากลาง จะปกป้องเฉพาะพืชและพันธุ์สัตว์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อยู่ในใจกลางของป่าของอเมริกากลางเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมมายันที่ซากปรักหักพังของ Tikal Tikal เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกมายาอีกครั้ง ผู้เชี่ยวชาญคิด 90,000 คนเคยอาศัยอยู่ที่นี่ แต่โดย AD ​​950 ทุกคนได้ออกจากเมือง แล้วป่าฝนกลับไปที่สมบูรณ์ครอบคลุมที่ดิน
วันนี้นักประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม Tikal และเห็นบางส่วนของ 3,000 โครงสร้างโบราณที่เคยยืนอยู่ที่นั่น ท่ามกลางซากปรักหักพังหกปิรามิดขนาดใหญ่ บางคนมีกว่า 60 เมตร (200 ฟุต) สูง ในปิรามิดเหล่านี้เป็นภาพแกะสลัก พวกเขาช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่มายาเป็นเหมือนและวิธีการที่พวกเขาอาศัยอยู่ ซากปรักหักพังของ Tikal ยังทำให้เรามีเบาะแสสำคัญที่จะไขปริศนาว่าทำไมพวกเขาจะออกและไม่เคยกลับ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีไม่กี่เหตุผลมายาที่เหลือ Tikal มันไม่ได้มีฝนตกบ่อยมาก. เพื่อให้มีน้ำไม่พอที่จะดื่มหรืออาหารที่จะเติบโต นอกจากนี้ไทยก็มักจะทำสงครามกับเมืองอื่น ๆ และบางคนอาจจะมีเหลือที่จะหลีกเลี่ยงสงคราม
วันนี้นอกเหนือไปจากซากปรักหักพังที่สำคัญของ Tikal อุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของป่าฝนป่าในอเมริกากลาง ปกป้องหลายพันพืชและสัตว์ที่ไม่ซ้ำกันชนิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใจกลางป่าของอเมริกากลางเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมมายันซากปรักหักพังของ Tikal . ตีกัลเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน โลกของมายา ผู้เชี่ยวชาญว่า 90 , 000 คนอาศัยอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม ค.ศ. 950 , ผู้คนทั้งหมดออกจากเมือง แล้วฝนป่ากลับมาสมบูรณ์ครอบคลุมที่ดิน .
วันนี้นักประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม Tikal และเห็นบางส่วนของโครงสร้างโบราณ 3000 เมื่อยืนอยู่ที่นั่น ท่ามกลางซากปรักหักพังหกปิรามิดขนาดใหญ่ บางกว่า 60 เมตร ( 200 ฟุต ) สูง ในปิรามิดเหล่านี้แกะสลักภาพ พวกเขาช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่มายา เหมือนเขาจะมีชีวิตอยู่ยังไงซากปรักหักพังของ Tikal ยังให้เบาะแสสำคัญที่จะแก้ปัญหาความลึกลับของทำไมพวกเขาจากไปและไม่กลับมาอีกเลย .
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีไม่กี่เหตุผลมายาทิ้งทฤษฎี . ฝนมันไม่ได้บ่อยมาก จึงมีไม่เพียงพอ น้ำ ดื่ม หรือ ปลูกอาหาร นอกจากนี้ ไทยได้เสมอในสงครามกับเมืองอื่น ๆ และบางคนอาจจะเหลือที่จะหลีกเลี่ยงสงคราม .
วันนี้ นอกจากจะทำลายที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ Tikal มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของป่าเขตร้อนป่าในอเมริกากลาง มันปกป้องพันเฉพาะพืชและสัตว์ชนิด