The use of polyethylene mulch is a

The use of polyethylene mulch is a common practice in vegetable production, but environmental issues related to the disposal of petroleum-based plastic mulches have producers looking for alternatives. To address environmental concerns, commercial vegetable growers are increasingly interested in using organic mulches derived from agricultural or urban byproducts and waste, paper-based mulches, and biodegradable plastic films and fabrics as alternatives. A new study comparing bioplastic films with biofabrics indicates that there is good potential for successfully using biofabric under certain growing conditions.

To learn more about the field performance, durability, and decomposition properties of biofabric, the researchers designed experiments to compare four experimental spunbond, nonwoven biofabrics with two commercially available bioplastic mulch films and a bare soil control. The experiments were performed in field and high tunnel growing environments with cucumber. The scientists collected data to determine the mulch's impact on soil moisture, soil temperature, crop yield, and weed emergence. All mulches were also analyzed for their durability and ability to decompose when incorporated into the soil.

Results showed that the bioplastics and biofabrics increased soil moisture relative to bare soil. Bioplastic films were less durable and deteriorated sooner than biofabrics, especially in the field environment. All biomulches suppressed weed emergence relative to bare soil, but weeds were visibly growing beneath the most translucent biofabric. Marketable yield of cucumber trended highest in the most durable and opaque biofabric, but was not significantly different from weed-free bare soil.

The scientists found no difference in the relative rate of mulch decomposition up to 11 months after soil incorporation among bioplastic and biofabric products. "This is the first study to demonstrate significant soil decomposition of biofabric mulch before 12 months after soil incorporation," they said. "Slow decomposition is one factor that has limited widespread adoption of biomulches in vegetable production. However, this study demonstrates potential progress toward a renewable product that will provide growers with the desirable agricultural benefits of mulch without the potentially deleterious effects of residue accumulation in the soil over time."

The authors added that biofabrics may be most useful in cool-season crops or warmer climates and in high tunnels where soil warming is usually adequate, but where moisture conservation and weed control are still critical. "The permeability of biofabrics may appeal to growers without drip irrigation who rely on rainfall or sprinkler irrigation to meet crop water demands," they added.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้เอทิลีนมรูปเป็นแนวปฏิบัติในการผลิตผัก แต่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการขายทิ้งปิโตรเลียม mulches พลาสติกผู้ผลิตมองหาทางเลือก เพื่อสิ่งแวดล้อม กังวล เกษตรกรผู้ปลูกผักเชิงพาณิชย์มากขึ้นสนใจในใช้ mulches อินทรีย์มาจากของเสียและผลพลอยได้ทางการเกษตร หรือในเมือง mulches คะแนน และฟิล์มพลาสติกย่อยสลายได้ และผ้าเป็นทางเลือก ศึกษาใหม่เปรียบเทียบฟิล์มพลาสติกชีวภาพกับ biofabrics แสดงว่า มีศักยภาพดีสำเร็จแล้วโดยใช้ biofabric ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างเพิ่มขึ้นเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลด์ประสิทธิภาพ ความทนทาน และคุณสมบัติการสลายตัวของ biofabric นักวิจัยออกแบบการทดลองเพื่อเปรียบเทียบสปันบอนทดลองสี่ biofabrics วูฟ ด้วยพลาสติกชีวภาพจำหน่ายภาพยนตร์มรูป และตัวควบคุมดินเปลือย การทดลองดำเนินการในฟิลด์และอุโมงค์สูงเติบโตสภาพแวดล้อมกับแตงกวา นักวิทยาศาสตร์รวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบผลกระทบของวัสดุคลุมดินความชื้นในดิน อุณหภูมิดิน พืช และวัชพืชเกิดขึ้น ทั้งหมด mulches ถูกวิเคราะห์เพื่อความทนทานและความสามารถในการย่อยสลายเมื่อรวมเข้าไปในดินผลการศึกษาพบว่า พลาสติกชีวภาพและ biofabrics เพิ่มขึ้นความชื้นในดินเมื่อเทียบกับดินเปลือย ฟิล์มพลาสติกชีวภาพถูกทนทานน้อย และเสื่อมคุณภาพเร็วกว่า biofabrics โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ฟิลด์ ทั้งหมด biomulches ยับยั้งวัชพืชเกิดสัมพันธ์กับดินเปลือย แต่วัชพืชกำลังเติบโตอย่างเห็นได้ชัดใต้ biofabric โปร่งใสมากที่สุด องการของตลาดผลผลิตของแตงกวาเร็กส์สูงที่สุดในที่สุดทนทาน และทึบแสง biofabric แต่ไม่แตกต่างจากดินเปลือยปราศจากวัชพืชนักวิทยาศาสตร์พบว่าไม่แตกต่างกันในอัตราสัมพัทธ์ของวัสดุคลุมดินสลายตัวค่าเดือน 11 หลังจากดินประสานระหว่างผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและ biofabric พวกเขากล่าวว่า "นี้เป็นการศึกษาแรกเพื่อสาธิตตัวเบียนสำคัญของ biofabric มรูปก่อน 12 เดือนหลังประสานดิน "สลายตัวช้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีการยอมรับอย่างกว้างขวางของ biomulches ในการผลิตผักจำกัด อย่างไรก็ตาม นี้ศึกษาอธิบายคืบศักยภาพผลิตภัณฑ์ทดแทนที่จะช่วยให้เกษตรกร มีประโยชน์เกษตรเป็นที่ต้องการของวัสดุคลุมดินโดยไม่มีผลร้ายอาจของสารตกค้างสะสมในดินช่วงเวลา นั้น"ผู้เขียนเพิ่มว่า biofabrics อาจเป็นประโยชน์มากที่สุด ในพืชเย็นฤดูกาลหรือสภาพอากาศที่อบอุ่น และ ในอุโมงค์สูง ที่ดินร้อนเพียงพอมักจะ แต่ที่สำคัญยังควบคุมวัชพืชและอนุรักษ์ความชุ่มชื้น "การซึมผ่านของ biofabrics อาจดึงดูดเกษตรกรไม่มีหยดน้ำที่พึ่งพาชลประทานฝนหรือสปริงเกลอร์เพื่อสนองความต้องการน้ำของพืช พวกเขาเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้พลาสติกคลุมด้วยหญ้าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในการผลิตพืชผัก แต่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดของ mulches พลาสติกจากปิโตรเลียมได้ผลิตมองหาทางเลือก เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเกษตรกรผู้ปลูกผักในเชิงพาณิชย์เป็นที่สนใจมากขึ้นในการใช้ mulches อินทรีย์ที่ได้มาจากผลพลอยได้จากการเกษตรหรือในเมืองและของเสีย, mulches paper-based และฟิล์มพลาสติกย่อยสลายได้และผ้าเป็นทางเลือก การศึกษาใหม่เปรียบเทียบฟิล์มพลาสติกชีวภาพกับ biofabrics แสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพที่ดีสำหรับการประสบความสำเร็จในการใช้ biofabric ภายใต้สภาพการเจริญเติบโตบาง. หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานภาคสนาม, ความทนทานและคุณสมบัติการสลายตัวของ biofabric นักวิจัยออกแบบการทดลองเพื่อเปรียบเทียบสี่ผ้าสปันบอนด์ทดลองนอนวูฟเวน biofabrics กับสองใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ภาพยนตร์คลุมด้วยหญ้าพลาสติกชีวภาพและการควบคุมดินเปลือย การทดลองดำเนินการในภาคสนามและอุโมงค์เติบโตสูงสภาพแวดล้อมที่มีแตงกวา นักวิทยาศาสตร์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาผลกระทบคลุมด้วยหญ้าบนความชุ่มชื้นในดินอุณหภูมิดินผลผลิตพืชและการเกิดวัชพืช mulches ทั้งหมดนอกจากนี้ยังถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อความทนทานและความสามารถในการย่อยสลายของพวกเขาเมื่อรวมเข้าไปในดิน. ผลการศึกษาพบว่าพลาสติกชีวภาพและ biofabrics ความชื้นในดินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเปลือยดิน ฟิล์มพลาสติกชีวภาพมีความคงทนน้อยลงและเสื่อมสภาพเร็วกว่า biofabrics โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมของสนาม biomulches ทั้งหมดปราบปรามวัชพืชเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับเปลือยดิน แต่วัชพืชเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัดถูกใต้ biofabric โปร่งแสงมากที่สุด อัตราผลตอบแทนของตลาดแตงกวามีแนวโน้มที่สูงที่สุดใน biofabric คงทนถาวรมากที่สุดและทึบแสง แต่ก็ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจากวัชพืชฟรีดินเปลือย. นักวิทยาศาสตร์พบความแตกต่างในอัตราญาติของการย่อยสลายวัสดุคลุมดินได้ถึง 11 เดือนหลังจากการรวมตัวของดินในผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและ biofabric . "นี่คือการศึกษาครั้งแรกที่แสดงให้เห็นถึงการสลายตัวของดินที่สำคัญของการคลุมด้วยหญ้า biofabric ก่อน 12 เดือนหลังจากที่ บริษัท ดิน" พวกเขากล่าวว่า "การสลายตัวช้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีการ จำกัด การยอมรับอย่างกว้างขวางของ biomulches ในการผลิตพืชผัก. อย่างไรก็ตามการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของศักยภาพที่มีต่อสินค้าทดแทนที่จะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกที่มีผลประโยชน์ทางการเกษตรที่พึงประสงค์ของวัสดุคลุมดินโดยไม่ได้รับผลกระทบที่อาจเกิดอันตรายจากการสะสมสารตกค้างในดิน เมื่อเวลาผ่านไป. " ผู้เขียนเสริมว่า biofabrics อาจจะมีประโยชน์มากที่สุดในการปลูกพืชฤดูเย็นหรือสภาพอากาศที่อบอุ่นและในอุโมงค์สูงที่ร้อนดินมักจะเพียงพอ แต่ที่อนุรักษ์ความชุ่มชื้นและควบคุมวัชพืชยังคงมีความสำคัญ "การซึมผ่านของ biofabrics อาจอุทธรณ์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกโดยไม่ต้องน้ำหยดที่พึ่งพาปริมาณน้ำฝนหรือชลประทานฉีดเพื่อตอบสนองความต้องการของพืชน้ำ" พวกเขาเพิ่ม