Thais began to emerge as a dominant

Thais began to emerge as a dominant force in the region in the 13th century, gradually asserting independence from existing Khmer and Mon kingdoms. Founded by Khun Pha Muang and Khun Bang Klang Thao in 1238, the Kingdom was named by its rulers "the dawn of happiness". The Sukhothai Period is often considered the golden era of Thai history, an ideal Thai state in a land of plenty governed by paternal and benevolent kings, the most famous of whom was King Ramkamhaeng the Great (c.1279-98), who greatly expanded the Kingdom’s borders. In addition to developing some of the most beautiful Thai art, the Sukhothai Kingdom is credited with developing the modern Thai alphabet. However, following the death of King Ramkamhaeng, the mightier state of Ayutthaya gradually exerted its influence over Sukhothai. Following the death of King Ramkhamhaeng, the kingdom of Sukhothai rapidly declined and Lan Na expanded its influence over its neighboring kingdoms, many of which were former suzerains of Sukhothai. In the middle of the 15th Century Lan Na arts and literature reached a pinnacle during the King Tilokoraj period. However, after the king's death, Lan Na weakened due to internal conflicts and Chiang Mai fell under Burmese control around 1564; while the Burmese occupied the northern region for a few centuries, they did little development, using Chiang Mai as a military base from which to battle the Kingdom of Ayutthaya, a mighty kingdom in the central plains that was gradually exerting its influence from the mid 14 th century onwards.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนไทยเริ่มโผล่เป็นกำลังหลักในภูมิภาคในศตวรรษที่ 13 กรรมสิทธิ์ความเป็นอิสระจากอาณาจักรเขมรและมอญที่มีอยู่ค่อย ๆ ก่อตั้ง โดยขุนผาเมืองและขุนบางกลางเทาใน 1238 ราชอาณาจักรถูกตั้งชื่อตามนามของ "รุ่งอรุณของความสุข" สุโขทัยมักจะถือว่าเป็นยุคทองของประวัติศาสตร์ไทย รัฐไทยพักในที่ดินของภายใต้กษัตริย์ปู่ และเปี่ยมด้วยเมตตา มีชื่อเสียงที่สุดของผู้ที่ถูกพระรามคำแหงมหาราช (c.1279-98), ที่ขยายเส้นขอบของราชอาณาจักรอย่างมาก นอกจากการพัฒนาของสวยงามที่สุดผ่านศิลปะไทย ราชอาณาจักรสุโขทัย มีการพัฒนาอักษรไทยสมัยนั้น ต่อการตายของกษัตริย์รามคำแหง รัฐอยุธยา mightier ค่อย ๆ นั่นเองอย่างไรก็ตาม การมีอิทธิพลเหนือสุโขทัย ต่อการตายของพ่อขุนรามคำแหง ราชอาณาจักรสุโขทัยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว และลานนาขยายอิทธิพลเหนือของอาณาจักรใกล้เคียง จำนวนมากที่ถูก suzerains เก่าสุโขทัย กลางศตวรรษ 15 นาลาน ศิลปะและวรรณคดีถึงพินนาเคิลเป็นช่วง Tilokoraj คิง อย่างไรก็ตาม หลังความตายของพระมหากษัตริย์ ลานนาที่ลดลงเนื่องจากความขัดแย้งภายใน และเชียงใหม่ตกภายใต้การควบคุมพม่ารอบ 1564 ในขณะที่พม่าครอบครองภาคเหนือไม่กี่ศตวรรษ พวกเขาได้พัฒนาน้อย ใช้เชียงใหม่เป็นฐานทัพที่ต่อสู้ราชอาณาจักรอยุธยา อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ในราบลุ่มภาคกลางที่ค่อย ๆ ถูกพยายามความอิทธิพลจากกลาง 14 th ศตวรรษเป็นต้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนไทยเริ่มโผล่ออกมาเป็นแรงที่โดดเด่นในภูมิภาคในศตวรรษที่ 13 ค่อยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเป็นอิสระจากที่มีอยู่เขมรและอาณาจักรมอญ ก่อตั้งขึ้นโดยคุณผาเมืองและคุณบางกลางท้าว 1238 ในราชอาณาจักรถูกตั้งชื่อตามผู้ปกครองของ "รุ่งอรุณแห่งความสุข" ระยะเวลาสุโขทัยมักจะถือว่าเป็นยุคทองของประวัติศาสตร์ไทยเป็นรัฐในอุดมคติไทยในดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ภายบิดาและพระมหากษัตริย์ใจดีที่มีชื่อเสียงที่สุดของผู้ที่เป็นกษัตริย์รามคำแหงมหาราช (c.1279-98) ที่ขยายตัวมาก ราชอาณาจักรชายแดน นอกเหนือจากการพัฒนาบางส่วนของศิลปะไทยที่สวยที่สุดในอาณาจักรสุโขทัยจะให้เครดิตกับการพัฒนาตัวอักษรไทยสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามหลังจากการตายของพระมหากษัตริย์รามคำแหงที่รัฐกำลังอยุธยาค่อยๆอิทธิพลของตนเหนือสุโขทัย หลังจากการตายของพ่อขุนรามคำแหงอาณาจักรสุโขทัยลดลงอย่างรวดเร็วและล้านนาขยายอิทธิพลเหนือราชอาณาจักรใกล้เคียงหลายแห่งซึ่งเป็นอดีต suzerains สุโขทัย ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 15 ศิลปะล้านนาและวรรณกรรมถึงจุดสุดยอดในช่วงระยะเวลาคิง Tilokoraj อย่างไรก็ตามหลังจากการตายของกษัตริย์ล้านนาลดลงอันเนื่องมาจากความขัดแย้งภายในและเชียงใหม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพม่ารอบ 1564; ในขณะที่พม่าอยู่ในภาคเหนือไม่กี่ศตวรรษที่พวกเขาได้พัฒนาเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยใช้เชียงใหม่เป็นฐานทหารที่จะต่อสู้กับราชอาณาจักรอยุธยาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในที่ราบลุ่มภาคกลางที่ได้รับการค่อยๆพยายามอิทธิพลจากกลาง 14 ศตวรรษเป็นต้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

hampereshampereshampereshampereshamperes