hocolate Listeni/ˈtʃɒklət/ is a pro

hocolate Listeni/ˈtʃɒklət/ is a processed, typically sweetened food produced from the seed of the tropical Theobroma cacao tree. Cacao has been cultivated for at least three millennia in Mexico, Central America and Northern South America. Its earliest documented use is around 1100 BC. The majority of the Mesoamerican people made chocolate beverages, including the Aztecs, who made it into a beverage known as xocolātl [ʃoˈkolaːt͡ɬ], a Nahuatl word meaning "bitter water". The seeds of the cacao tree have an intense bitter taste, and must be fermented to develop the flavor.
After fermentation, the beans are dried, then cleaned, and then roasted, and the shell is removed to produce cacao nibs. The nibs are then ground to cocoa mass, pure chocolate in rough form. Because this cocoa mass usually is liquefied then molded with or without other ingredients, it is called chocolate liquor. The liquor also may be processed into two components: cocoa solids and cocoa butter. Unsweetened baking chocolate (bitter chocolate) contains primarily cocoa solids and cocoa butter in varying proportions. Much of the chocolate consumed today is in the form of sweet chocolate, combining cocoa solids, cocoa butter or other fat, and sugar. Milk chocolate is sweet chocolate that additionally contains milk powder or condensed milk. White chocolate contains cocoa butter, sugar, and milk but no cocoa solids.
Cocoa solids contain alkaloids such as theobromine, phenethylamine and caffeine.[1] These have physiological effects on the body and are linked to serotonin levels in the brain. Some research found that chocolate, eaten in moderation, can lower blood pressure.[2] The presence of theobromine renders chocolate toxic to some animals,[3] especially dogs and cats.
Chocolate has become one of the most popular food types and flavors in the world, and a vast number of foodstuffs involving chocolate have been created. Chocolate chip cookies have become very common, and very popular, in most parts of Europe and North America. Gifts of chocolate molded into different shapes have become traditional on certain holidays. Chocolate is also used in cold and hot beverages, to produce chocolate milk and hot chocolate.
Cocoa mass was used originally in Mesoamerica both as a beverage and as an ingredient in foods. Chocolate played a special role in both Maya and Aztec royal and religious events. Priests presented cacao seeds as offerings to the deities and served chocolate drinks during sacred ceremonies. All the cacao-bean-growing areas conquered by the Aztecs were ordered to pay the beans as a tax, or as the Aztecs called it, a "tribute".[4]
The Europeans sweetened and fattened it by adding refined sugar and milk, two ingredients unknown to the Mexicans. By contrast, the Europeans never infused it into their general diet, but have compartmentalized its use to sweets and desserts. In the 19th century, Briton John Cadbury developed an emulsification process to make solid chocolate, creating the modern chocolate bar. Although cocoa is originally from the Americas, today Western Africa produces almost two-thirds of the world's cocoa, with Côte d'Ivoire growing almost half of it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

hocolate listeni / tʃɒklət / เป็นแปรรูปอาหารรสหวานมักจะผลิตจากเมล็ดของต้นไม้เขตร้อนต้นโกโก้ Theobroma ต้นโกโก้ได้รับการปลูกฝังอย่างน้อยสามพันปีในเม็กซิโกอเมริกากลางและภาคเหนือของทวีปอเมริกาใต้ การใช้เอกสารที่เก่าแก่ที่สุดคือประมาณ 1100 BC ส่วนใหญ่ของคน Mesoamerican ทำเครื่องดื่มช็อคโกแลตรวมทั้งแอซเท็ก,ที่ทำให้มันเป็นเครื่องดื่มที่รู้จักกันเป็น xocolatl [ʃokolatɬː], คำ Nahuatl ความหมาย "น้ำขม" เมล็ดของต้นโกโก้ต้นไม้มีรสขมที่รุนแรงและต้องได้รับการพัฒนาหมักรส.
หลังจากการหมักถั่วจะแห้งแล้วล้างทำความสะอาดและคั่วแล้วและเปลือกจะถูกลบออกในการผลิตไส้โกโก้ ไส้ปากกาที่มีพื้นแล้วมวลโกโก้ช็อคโกแลตบริสุทธิ์ในรูปแบบหยาบ เพราะมวลโกโก้นี้มักจะมีการหลอมละลายแล้วขึ้นรูปที่มีหรือไม่มีส่วนผสมอื่น ๆ มันถูกเรียกว่าเหล้าช็อคโกแลต สุรานอกจากนี้อาจมีการประมวลผลเป็นสองส่วน: ของแข็งโกโก้และเนยโกโก้ ช็อคโกแลตอบไม่ได้ทำให้หวาน (ช็อคโกแลตขม) มีปริมาณของแข็งที่โกโก้เป็นหลักและเนยโกโก้ในสัดส่วนที่แตกต่างกันมากของการบริโภคช็อคโกแลตในวันนี้อยู่ในรูปแบบของช็อคโกแลตหวานรวมของแข็งโกโก้เนยโกโก้หรือไขมันอื่น ๆ และน้ำตาล ช็อคโกแลตเป็นนมช็อคโกแลตหวานที่ยังมีผงนมหรือนมข้นหวาน ช็อคโกแลตสีขาวมีเนยโกโก้, น้ำตาลและนม แต่ไม่มีโกโก้ของแข็ง.
โกโก้ของแข็งมี alkaloids เช่น theobromine, phenethylamine และคาเฟอีน[1] เหล่านี้มีผลกระทบทางสรีรวิทยาในร่างกายและมีการเชื่อมโยงกับระดับ serotonin ในสมอง บางวิจัยพบว่าช็อคโกแลตกินในปริมาณที่พอเหมาะสามารถลดความดันโลหิต. [2] การปรากฏตัวของ theobromine ทำให้ช็อคโกแลตเป็นพิษต่อสัตว์บางชนิด [3] โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขและแมว. ช็อคโกแลต
ได้กลายเป็นหนึ่งในความนิยมมากที่สุดประเภทอาหารและรสชาติ ในโลกและจำนวนมากมายของอาหารที่เกี่ยวข้องกับช็อคโกแลตได้ถูกสร้างขึ้น คุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่มีมากเป็นธรรมดาและเป็นที่นิยมมากในพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปและอเมริกาเหนือ ของขวัญของช็อคโกแลตขึ้นรูปเป็นรูปร่างที่แตกต่างกันได้กลายเป็นประเพณีบางวันหยุด ช็อคโกแลตยังใช้ในเครื่องดื่มเย็นและร้อนเพื่อผลิตนมช็อคโกแลตและช็อคโกแลตร้อน.
โกโก้มวลถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน Mesoamerica เป็นทั้งเครื่องดื่มและเป็นส่วนผสมในอาหาร ช็อคโกแลตมีบทบาทพิเศษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพระราชพิธีทางศาสนาทั้งมายาและแอซเทค พระสงฆ์นำเมล็ดโกโก้เป็นไปถวายเทพเจ้าและเครื่องดื่มช็อคโกแลตที่ให้บริการในระหว่างพิธีศักดิ์สิทธิ์ ทุกพื้นที่ต้นโกโก้ถั่วที่เติบโตเอาชนะแอซเท็กได้รับคำสั่งให้จ่ายเงินถั่วเป็นภาษี,หรือเป็นแอซเท็กเรียกมันว่า "ส่วย". [4]
ยุโรปหวานและอ้วนได้โดยการเพิ่มน้ำตาลและนมสองส่วนผสมที่ไม่รู้จักกับชาวเม็กซิกัน ตรงกันข้ามชาวยุโรปไม่เคย infused มันในอาหารทั่วไปของพวกเขา แต่มี compartmentalized การใช้งานให้และขนมและของหวาน ในศตวรรษที่ 19 อังกฤษจอห์น Cadbury พัฒนากระบวนการ emulsification ที่จะทำให้ช็อคโกแลตที่เป็นของแข็ง,สร้างบาร์ช็อคโกแลตที่ทันสมัย แม้ว่าโกโก้มีพื้นเพมาจากอเมริกาในวันนี้แอฟริกาตะวันตกผลิตเกือบสองในสามของโกโก้ของโลกกับโกตดิวัวเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

hocolate Listeni/ˈtʃɒklət/เป็น อาหารหวานโดยทั่วไป ประมวลผลผลิตจากเมล็ดของต้นไม้เมืองร้อน Theobroma cacao Cacao แล้วปลูกน้อยสามวัดวาอารามในประเทศเม็กซิโก อเมริกากลาง และ อเมริกาใต้ตอนเหนือ ใช้เอกสารแรกสุดจะประมาณ 1100 BC คนในอเมริกากลางส่วนใหญ่ทำเครื่องดื่มช็อกโกแลต รวม Aztecs ที่ทำเป็นเครื่องดื่มรู้จักกันเป็น xocolātl [ʃoˈkolaːt͡ɬ], ยังนาฮวตคำความหมาย "ขมน้ำ" เมล็ดของต้น cacao มีรสขมรุนแรง และต้องหมักพัฒนารส.
หลังจากหมัก ถั่ว แห้ง แล้วทำความสะอาด และคั่วแล้ว และเปลือกจะถูกเอาออก cacao nibs ผลิต แล้วมีพื้น nibs เพื่อมวลโกโก้ ช็อกโกแลตบริสุทธิ์ในฟอร์มคร่าว ๆ เนื่องจากมวลโกโก้นี้ปกติจะหมุน แล้วแบบมี หรือไม่ มีส่วนผสมอื่น ๆ มันคือเหล้าช็อคโกแลต เหล้ายังสามารถประมวลผลเป็นส่วนประกอบที่สอง: ของแข็งโกโก้และเนยโกโก้ Unsweetened อบช็อคโกแลต (ช็อคโกแลขม) ประกอบด้วยหลักของแข็งโกโก้และเนยโกโก้ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ของช็อกโกแลตที่ใช้วันนี้อยู่ในฟอร์มของหวานช็อกโกแลต รวมของแข็งโกโก้ โกโก้บัตเตอร์ หรือไขมัน และอื่น ๆ น้ำตาล นมช็อคโกแลตเป็นช็อคโกแลตที่นอกจากนี้ประกอบด้วยนมผงหรือนมข้นหวาน ไวท์ช็อกโกแลตประกอบด้วยโกโก้เนย น้ำตาล และนม แต่ไม่มีโกโก้ของแข็ง.
ของแข็งโกโก้ประกอบด้วย alkaloids เช่น theobromine, phenethylamine และคาเฟอีน[1] เหล่านี้มีลักษณะพิเศษของสรีรวิทยาในร่างกาย และเชื่อมโยงกับระดับ serotonin ในสมอง บางงานวิจัยพบว่าช็อคโกแลต กิน แต่สามารถลดความดันโลหิต[2] สถานะของ theobromine ทำช็อคโกแลพิษบางอย่างสัตว์, [3] โดยเฉพาะสุนัข และแมว
ช็อกโกแลตได้กลายเป็นหนึ่งในชนิดของอาหารนิยมและรสชาติในโลก และจำนวนอาหารที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตมากมายได้ คุกกี้ช็อกโกแลตชิปได้กลายเป็นมากทั่วไป และ นิยมมาก ในส่วนใหญ่ของยุโรปและอเมริกาเหนือ ของขวัญช็อกโกแลตแบบเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้เป็นแบบบางวันหยุด ยังถูกใช้ในเครื่องดื่มร้อน และเย็น ช็อคโกแลตเพื่อผลิตนมช็อคโกแลตและโกโก้
โกโก้มวลเดิมใช้ในเมโสอเมริกาทั้งเครื่องดื่ม และ เป็นส่วนผสมในอาหาร ช็อกโกแลตมีบทบาทพิเศษในมายาและ Aztec รอยัล และศาสนาเหตุการณ์ พระสงฆ์นำเมล็ด cacao เป็นเหนื่อยกับเทวดา และบริการเครื่องดื่มช็อคโกแลพิธีมงคล Cacao-ถั่วปลูกพื้นที่ทั้งหมดเอาชนะ โดย Aztecs ถูกสั่งจ่ายถั่วเป็นภาษี หรือ Aztecs เรียกว่า "ส่วย"[4]
ชาวยุโรปที่ใส และ fattened โดยการเพิ่มการกลั่นน้ำตาลและนม รู้จักไป Mexicans ที่สองส่วนผสมกัน โดยคมชัด ชาวยุโรปไม่เคยลงตัวเป็นอาหารของพวกเขาทั่วไป แต่มี compartmentalized ของใช้ขนมและของหวาน ในศตวรรษที่ผ่านมา คนอังกฤษจอห์นคลุกฝุ่นพัฒนากระบวนการ emulsification ปริมาณจะทำให้ช็อกโกแลตแข็ง สร้างสมัยช็อกโกแล็ตแท่ง แม้ว่าโกโก้จะเดิมจากทวีปอเมริกา วันนี้แอฟริกาตะวันตกสร้างเกือบสองในสามของโลกโกโก้ กับประเทศโกตดิวัวร์เติบโตเกือบครึ่งหนึ่งของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

/ ˈtʃɒklət listeni / hocolate มีการประมวลผลโดยทั่วไปแล้วอาหารรสหวานที่ผลิตจากเมล็ดของต้นโกโก้ theobroma ต้นไม้แบบเขตร้อนได้ ต้นโกโก้ได้รับการอบรมมาแล้วเป็นเวลาอย่างน้อยสามเดอะมิลเลนเนียในเม็กซิโกอเมริกากลางและอเมริกาใต้ทางตอนเหนือ การใช้เอกสารในยุคของตนอยู่ที่ประมาณ 1100 ก่อนคริสต์ศักราช ผู้คนส่วนใหญ่ mesoamerican ทำให้เครื่องดื่มช็อกโกแลตรวมถึง Temple Ruinsผู้ที่ทำให้มันเข้ากับเครื่องดื่มที่เรียกว่า xocolātl [ ʃoˈkolaːt͡ɬ ]คำ nahuatl ที่ความหมาย"น้ำแห่งความขมขื่น" เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ต้นโกโก้ที่มีรสชาติขมอย่างเข้มข้นและจะต้องหมักในการพัฒนารสชาติ.
หลังจากหมักเมล็ดแห้งที่ได้รับแล้วทำความสะอาดแล้วคั่วและเปลือกจะถูกลบออกในการผลิตเพื่อให้ปลายแหลมต้นโกโก้ ใต้เท้าที่มีสายดินเพื่อมวลชนโกโก้แล้วช็อกโกแลตบริสุทธิ์ในรูปแบบหยาบๆ เนื่องจากโกโก้นี้โดยปกติแล้วจะเหลวแบบขึ้นรูปที่มีแล้วหรือไม่มีส่วนผสมอื่นๆก็จะถูกเรียกว่าช็อกโกแลตเหล้า น้ำที่ยังอาจจะได้รับการดำเนินการเป็นสองคอมโพเนนต์เนยโกโก้และโกโก้เป็นของแข็ง unsweetened อบช็อกโกแลต(ช็อกโกแลตรสขม)ประกอบด้วยโกโก้และเนยเป็นของแข็งโกโก้ในสัดส่วนแตกต่างกันออกไปจำนวนมากของช็อกโกแลตที่ใช้ในวันนี้จะอยู่ในรูปของช็อกโกแลตหวานผสมผสานของแข็งโกโก้เนยโกโก้หรือไขมันและน้ำตาลทราย นมช็อกโกแลตเป็นช็อกโกแลตหวานที่นอกจากนี้ยังมีผงสีนมสดหรือนมข้น ช็อกโกแลตสีขาวประกอบด้วยนมเนยและน้ำตาลทรายโกโก้แต่ไม่มีของแข็งโกโก้.ของแข็ง
โกโก้มีคาเฟอีนและ phenethylamine alkaloids เช่น theobromine[ 1 ]เหล่านี้มีผลกระทบในเชิงจิตวิทยาในร่างกายและได้รับการเชื่อมโยงกับระดับ serotonin ในสมอง การวิจัยพบว่าช็อกโกแลตกินในปริมาณที่พอเหมาะสามารถลดความดันโลหิต.[ 2 ]การมีอยู่ของยาน theobromine ช็อกโกแลตเป็นพิษต่อสัตว์บางรายการ[ 3 ]โดยเฉพาะสุนัขและแมว.
ช็อกโกแลตได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารรสชาติแสนอร่อยและอาหารชนิดได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและจำนวนมากมายของอาหารการให้ช็อกโกแลตได้รับการสร้างขึ้นมา คุกกี้ช็อกโกแลตชิปได้กลายเป็นทั่วไปเป็นอย่างมากและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกส่วนของยุโรปและอเมริกาเหนือ ของขวัญจากช็อกโกแลตแบบขึ้นรูปเป็นรูปร่างแตกต่างกันจะกลายเป็นแบบดั้งเดิมในวันหยุดนักขัตฤกษ์บางอย่าง ช็อกโกแลตจะใช้ในเครื่องดื่มเย็นและร้อนในการผลิตนมช็อกโกแลตและช็อกโกแลตร้อน.
ยังการใช้งานซึ่งแต่เดิมเป็นโกโก้ใน ภูมิภาค อเมริกากลางขบวนการทั้งในฐานะที่เป็นเครื่องดื่มและเป็นส่วนผสมในอาหาร ช็อกโกแลตมีบทบาทพิเศษใน Maya และกิจกรรมทางศาสนาและ Aztec ทั้งสอง ปุโรหิตถวายเมล็ดพันธุ์ต้นโกโก้เป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าประจำและจัดให้บริการเครื่องดื่มช็อกโกแลตในระหว่างงานพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ บริเวณต้นโกโก้ - ถั่ว - การที่สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด Temple Ruins ที่ถูกสั่งให้จ่ายเงิน,ถั่วเหลือง,ถั่วเมล็ดที่เป็น ภาษี ที่หรือเป็นที่ Temple Ruins เรียกว่า"เป็น".[ 4 ]
ที่ชาวยุโรปและนมข้นหวาน fattened โดยการเพิ่มน้ำตาลทรายและนม,สองส่วนประกอบที่ไม่รู้จักกับชาวเม็กซิกัน. ในทางตรงกันข้ามชาวยุโรปที่ไม่เคยซึมซับเข้าไปในอาหารโดยทั่วไปของพวกเขาแต่มีแยกไว้ต่างหากใช้เป็นของหวานและของหวาน ในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่คนอังกฤษจอห์น Cadbury (พัฒนากระบวนการที่จะทำให้ช็อกโกแลตแบบโซลิดสเตทการสร้างแถบช็อกโกแลตที่ทันสมัย แม้ว่าโกเป็นครั้งแรกจากทวีปอเมริกาวันนี้ตะวันตกแอฟริกาใต้มีเกือบสองในสามของโกโก้ของโลกพร้อมด้วยโกตดิวัวร์เติบโตเกือบครึ่งของมัน