In left hemiplegic patients, sittin

In left hemiplegic patients, sitting pressure of the paretic
side was 40±16% before training and 23±14% after
training, a significant decrease, while the non-intervention
group showed no significant difference (44±12%, 45±9%).
There was a significant interaction between group and intervention,
indicating that the patients with left hemiplegia
did not load on the paretic side during forward flexion after
training.
During lateral flexion to the affected side, the angles of
movement increased 9±3° to 19±9° (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในผู้ป่วย hemiplegic ซ้าย นั่งดันการ pareticด้านเป็น 40±16% ก่อนการฝึกอบรมและ 23±14% หลังจากการฝึกอบรม การลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่การไม่แทรกแซงกลุ่มพบว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (44±12%, 45±9%)มีการโต้ตอบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มและแทรกแซงบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่มีอัมพาตครึ่งซีกด้านซ้ายไม่ได้โหลดทางด้าน paretic ระหว่างงอไปข้างหน้าหลังการฝึกอบรมระหว่างด้านข้างงอไปด้านข้างได้รับผลกระทบ มุมของการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 9±3 ° 19±9 ° (p < 0.001) ในการแทรกแซงกลุ่ม การไม่แทรกแซงในขณะที่กลุ่มไม่แสดงให้เห็นเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.44) มีการโต้ตอบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มและการแทรกแซง (F (162,1) = 18.98p < 0.001) ความดันนั่งแนวโน้มที่จะ เพิ่มขึ้นหลังจากการฝึกอบรม(81±20% 87±20%, p = 0.09) โดยไม่มีความสำคัญ ในกลุ่มปลอดการแทรกแซง ก็ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ(75±21% 83±17%), และไม่ติดต่อที่สำคัญสังเกต (F (169.1) = 0.22, p = 0.64)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกซ้ายดันนั่งของอัมพาต
ด้าน 40 ± 16% ก่อนการฝึกอบรมและ 23 ± 14% หลังจาก
การฝึกอบรมการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ไม่ใช่การแทรกแซงของ
กลุ่มพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (44 ± 12%, 45 ± 9% ).
มีการทำงานร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มและการแทรกแซงก็
แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่มีอัมพาตครึ่งซีกซ้าย
ไม่ได้โหลดในด้านอัมพาตในช่วงงอไปข้างหน้าหลังจาก
การฝึกอบรม.
ในช่วงโค้งด้านข้างไปทางด้านข้างได้รับผลกระทบมุมของ
การเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 9 ± 3 °ถึง 19 ± 9 ° (p <0.001) ในการแทรกแซง
ของกลุ่มขณะที่กลุ่มที่ไม่ใช่การแทรกแซงพบว่าไม่มี
การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.44) มีปฏิสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ
ระหว่างกลุ่มและการแทรกแซง (F (162,1) = 18.98,
p <0.001) ความดันนั่งอยู่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากการฝึกอบรม
(81 ± 20% ถึง 87 ± 20%, p = 0.09) โดยไม่มีความสำคัญ ใน
กลุ่มที่ไม่ใช่การแทรกแซงไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
(75 ± 21% ถึง 83 ± 17%) และไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญได้รับการ
สังเกต (F (169.1) = 0.22, p = 0.64)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกซ้าย นั่ง ความดันของผู้เป็นเหน็บชาข้างๆคือ 40 ± 16 % ก่อนการฝึกและ 23 ± 14 เปอร์เซ็นต์ หลังการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ไม่มีการแทรกแซงกลุ่มพบว่าไม่แตกต่างกัน ( 44 ± 12% , 45 ± 9% )มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างกลุ่ม และ กิจกรรมแทรกแซงแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกซ้ายไม่โหลดในด้านผู้เป็นเหน็บชาในระหว่างไปข้างหน้างอหลังการฝึกอบรมระหว่างการงอไปด้านผลกระทบ มุมของเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น โดย± 3 9 - 19 °± 9 ( p < 0.001 ) ในการแทรกแซงกลุ่ม ในขณะที่ไม่มีกลุ่มไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญ ( p = 0.44 ) มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างกลุ่ม และการแทรกแซง ( F ( 162,1 = 18.98 ) ,p < 0.001 ) นั่งกดดันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังการฝึก( 81 ± 20% ถึง 87 ± 20% , p = 0.09 ) โดยไม่มีกำหนด ในกลุ่มโนน มีความแตกต่างกันอย่าง( 75 ± 21% 83 ± 17 % ) และไม่มีปฏิสัมพันธ์ คือสังเกต ( F ( 169.1 ) = 0.22 , p = 0.64 )