The potential of the hexane extract

The potential of the hexane extract to trigger the apoptosis of liver carcinoma HepG2 cells through caspase-3 gene expression was then verified using semi-quantitative RT-PCR in this study.The caspase cascade has become the most prevalent pathway for apoptotic signal transduction in liver cancer cells.Activation of caspase-3 is a key mediator of both the extrinsic and intrinsic apoptotic pathways and is often considered to be the point of no return in the apoptotic signaling cascade.Interestingly,the present study revealed fluctuations in caspase-3 expression in the treated HepG2 cells,with an earl ypeak in its expression at 4h,followed by another peak after 24h of incubation (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดึงศักยภาพของเฮกเซนที่จะทริกเกอร์การ apoptosis ของเซลล์ carcinoma ตับ HepG2 ผ่าน caspase-3 ยีนถูกตรวจสอบแล้วใช้ RT-PCR กึ่งเชิงปริมาณในการศึกษานี้ ทั้งหมดของ caspase ได้กลายเป็น ทางเดินที่แพร่หลายมากที่สุดสำหรับ apoptotic transduction สัญญาณในเซลล์มะเร็งตับ เปิดใช้งานของ caspase-3 เป็นคนกลางที่สำคัญของทั้งสองทางเดิน apoptotic สึกหรอ และ intrinsic และมักจะถือเป็นการจุดของไม่คืน apoptotic สัญญาณทั้งหมด เป็นเรื่องน่าสนใจ การศึกษาปัจจุบันเปิดเผยความผันผวนใน caspase-3 นิพจน์ในเซลล์ HepG2 บำบัด ด้วยการ ypeak เอิร์ลในนิพจน์ของที่ 4h ตาม ด้วยช่วงอื่นหลังจาก 24 ชมของคณะทันตแพทยศาสตร์ (p < 0.001) การทำเครื่องหมายก่อนเรียกใช้ยีนนี้จะต้องเรียกใช้ endonuclease ที่เรียก caspase DNase (CAD), ซึ่งรับผิดชอบโดยเฉพาะ cleaving DNA ระหว่าง apoptosis (Sakahira et al., 1998) กิจกรรมนี้นำไปสู่การขยายของการเรียงซ้อน caspases, proteolytic ซึ่งรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานของ apoptotic inducing เหนี่ยวนำปานกลางของยีนนี้สังเกตสำหรับระยะเวลาการรักษานานอาจเป็น เพราะการมีส่วนร่วมในระยะปลายของทางเดิน apoptotic เป็นเครื่องกระตุ้นปลายน้ำที่มีการเรียกใช้หลังจากชุดของกระบวนการที่เซลขั้นต้นน้ำระหว่าง apoptosis (Chowdhury et al., 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่อาจเกิดขึ้นของสารสกัดเฮกเซนที่จะก่อให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งตับเซลล์ HepG2 ผ่านการแสดงออกของยีน caspase-3 คือการตรวจสอบแล้วใช้กึ่งเชิงปริมาณ RT-PCR ในน้ำตก study.The caspase นี้ได้กลายเป็นทางเดินที่แพร่หลายมากที่สุดสำหรับสัญญาณ apoptotic ในตับ มะเร็ง cells.Activati​​on ของ caspase-3 เป็นสื่อกลางที่สำคัญของทั้งภายนอกและทางเดินภายใน apoptotic และมักจะคิดว่าเป็นจุดของการกลับมาใน apoptotic สัญญาณ cascade.Interestingly ไม่มีการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นความผันผวนในการแสดงออกของ caspase-3 ใน ได้รับการรักษาเซลล์ HepG2 มี ypeak ท่านเอิร์ลในการแสดงออกที่ 4h ตามจุดสูงสุดอีกครั้งหลังจาก 24 ชั่วโมงของการบ่ม (p <0.001) ได้โดยเริ่มต้นทำเครื่องหมายยืนยันการใช้งานเริ่มต้นของยีนนี้จำเป็นต้องมีการเปิดใช้งานเปิดใช้งาน caspase endonuclease DNase (CAD) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการฝ่าดีเอ็นเอโดยเฉพาะในช่วงการตายของเซลล์ (Sakahira et al., 1998) กิจกรรมการนี​​้จะนำไปสู่​​การขยายของน้ำตกโปรตีนของ caspases ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการกระตุ้น alterations.The ก้าน apoptotic เหนี่ยวนำปานกลางของยีนนี้สังเกตเห็นอีกต่อไป ระยะเวลาการรักษาอาจเกิดจากการมีส่วนร่วมในขั้นตอนปลายของทางเดิน apoptotic เป็นกระตุ้นต่อเนื่องที่มีการเปิดใช้งานหลังจากที่ชุดของกระบวนการต้นน้ำโทรศัพท์มือถือในระหว่างการตายของเซลล์ (ก่อสร้าง et al., 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศักยภาพของเฮกเซนสกัดเพื่อกระตุ้นเซลล์ของตับมะเร็งตับมะเร็งเซลล์ผ่านการศึกษาลักษณะการแสดงออกของยีนถูกตรวจสอบโดยใช้วิธีกึ่งปริมาณ ในการศึกษานี้ แคสเปสน้ำตกกลายเป็นทางเดินที่แพร่หลายมากที่สุดสำหรับการส่งสัญญาณในกลุ่มที่มีในตับ เซลล์มะเร็งการศึกษาลักษณะการเป็นสื่อกลางที่สำคัญทั้งภายในและภายนอก และกลุ่มที่มีแนวทางที่ถือว่าเป็นจุดของกลับไม่มีในกลุ่มที่มีสัญญาณน้ำตก น่าสนใจ การศึกษาปัจจุบันพบความผันผวนในการศึกษาลักษณะการแสดงออกในการรักษาเซลล์มะเร็งตับกับ เอิร์ล ypeak ในการแสดงออกที่ 4 ตามด้วยยอดอีกหลังจาก 24 ชั่วโมง 1 ( p < 0.001 )การเปิดใช้งานก่อนเครื่องหมายของยีนนี้จะต้องเปิดใช้งานตรวจหา ADNase เอนโดนิวคลีเอสแคสเปส ( CAD ) ซึ่งรับผิดชอบโดยเฉพาะดีเอ็นเอในเซลล์ ( สามารถ sakahira et al . , 1998 ) . กิจกรรมนี้นำไปสู่การเพิ่มปริมาณของน้ำตกระ caspases ซึ่งรับผิดชอบโดยกลุ่มที่มีลักษณะ การเปลี่ยนแปลงการใช้ยีนนี้สังเกตสำหรับระยะเวลาการรักษานานอาจจะเกิดจากการมีส่วนร่วมในขั้นตอนที่ล่าช้าของทางกลุ่มที่มีเป็นเครื่องกระตุ้นปลายน้ำที่ใช้งานหลังจากที่ชุดของกระบวนการ apoptosis ของเซลล์ในระหว่างต้นน้ำ ( Chowdhury et al . , 2008 )