5. SummaryIn this paper, four const

5. Summary
In this paper, four constructs related to organizational learning (knowledge acquisition,
information distribution, information interpretation, and organizational memory)
were examined, and the literature related to each was described and critiqued.
Because the literature on knowledge acquisition is voluminous and multi-faceted, the
process was portrayed as consisting of five subconstructs or subprocesses: (1) congenital
learning, (2) experiential learning, (3) vicarious learning, (4) grafting, and (5)
searching or noticing. Examination of the related literatures indicated that, while
much has been learned about experiential learning, there is a lack of cumulative work
and a lack of synthesis of work from different research groups. Similarly, it was found
that much has been learned about organizational search, but that there is a lack of
conceptual work and a lack both of continuing empirical work and of integration with
which to create a more mature literature. Congenital learning, vicarious learning, and
grafting were found to be information acquisition subprocesses about which relatively
little has been learned beyond the fact that they occur.
The literature concerning information distribution was found to be rich and mature.
However, a key aspect of information distribution, namely how organizational units
possessing information and units needing this information can find each other quickly
and with a high likelihood, was found to be unexplored. Information interpretation, as
an organizational process rather than as an individual process, was found to require
empirical work for further advancement. Finally, organizational memory, as a determinant
of organizational learning and decision making, was found to be much in need
of systematic investigation.
A number of conclusions follow from this examination of organizational learning.
One is that the organizational processes and subprocesses that contribute to changes
in the range of an organization's potential behaviors are more numerous and varied
than a small sampling of the organizational science literature might suggest. While
any one research group can ignore this fact with little peril to itself, the field as a
whole cannot. A second conclusion is that, with few exceptions (e.g., experience-based
learning curves and information distribution), there is little in the way of substantiated
theory concerning organizational learning and there is considerable need and
opportunity to fill in the many gaps.
The third conclusion flies in the face of the normal science paradigm and contributes
to the just-noted lack of substantiated theory-the researchers who have
studied organizational learning apparently have, to a surprising degree, not used the
results from previous research to design or interpret their own research. Another
conclusion, also contrary to the advice that scientists frequently give to each other, is
that there is little cross-fertilization or synthesis of work done by different research
groups or on different but related aspects of organizational learning. (An exception to this conclusion is that James G. March has made important contributions in a
number of areas and has provided a number of integrative works.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. สรุปในกระดาษนี้ 4 โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ขององค์กร (การซื้อความรู้การกระจายข้อมูล การตีความข้อมูล และหน่วยความจำขององค์กร)ถูก examined และอธิบาย และวิเคราะห์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับแต่ละเนื่องจากวรรณกรรมการซื้อความรู้มากมาย และหลายเหลี่ยมเพชร พลอย การกระบวนการแก้ไขภาพเป็นประกอบด้วยห้า subconstructs หรือ subprocesses: (1) แต่กำเนิดการเรียนรู้, (2) ประสบการณ์การเรียนรู้ เรียนกิยามะฮ์ดัง (3), (4) การปลูกถ่าย และ (5)ค้นหา หรือสังเกตเห็น ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องระบุว่า ในขณะที่มากได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ มีการขาดของงานสะสมและการขาดการทำงานจากกลุ่มวิจัยต่าง ๆ สังเคราะห์ ในทำนองเดียวกัน พบว่า มากได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการค้นหาองค์กร แต่ว่ามีการขาดแนวคิดงานและขาด การดำเนินงานเชิงประจักษ์ และ การบูรณาการกับซึ่งการสร้างวรรณกรรมผู้ใหญ่มากขึ้น การเรียนรู้แต่กำเนิด กิยามะฮ์ดังเรียน และการปลูกถ่ายพบจะ ซื้อข้อมูลขั้นตอนย่อยขั้นที่ค่อนข้างน้อยได้รับการเรียนรู้นอกเหนือจากความจริงที่ว่า พวกเขาเกิดขึ้นวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระจายข้อมูลพบจะรวย และผู้ใหญ่อย่างไรก็ตาม เป็นประเด็นสำคัญของการกระจายข้อมูล หน่วยงานวิธีคือมีข้อมูลและหน่วยที่ต้องการข้อมูลนี้สามารถหากันได้อย่างรวดเร็วและ มีโอกาสสูง พบว่ามีการสังเกต การตีความข้อมูล เป็นกระบวนการขององค์กรแทนที่เป็นกระบวนการแต่ละ พบว่าต้องงานเชิงประจักษ์สำหรับความก้าวหน้าต่อไป ในที่สุด หน่วยความจำขององค์กร เป็นดีเทอร์มิแนนต์เป็นการเรียนรู้ขององค์กรและการตัดสินใจ พบว่ามีมากในความต้องของการตรวจสอบอย่างเป็นระบบหมายเลขบทสรุปตามจากการตรวจสอบการเรียนรู้ขององค์กรคือว่า องค์กรกระบวนการและ subprocesses ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในช่วงของศักยภาพขององค์กรพฤติกรรมมีจำนวนมากขึ้น และแตกต่างกันกว่าตัวอย่างขนาดเล็กของวรรณกรรมวิทยาศาสตร์องค์กรอาจแนะนำ ในขณะที่การวิจัยหนึ่งกลุ่มสามารถละเว้นข้อเท็จจริงนี้ มีอันตรายน้อยตัวเอง ฟิลด์เป็นการทั้งหมดไม่ได้ สองสรุปว่า มีข้อยกเว้นน้อย (เช่น ตามประสบการณ์การเรียนรู้และการกระจายข้อมูล), มีน้อยขวางพิสูจน์ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ขององค์กร และมีความสำคัญจำเป็น และโอกาสจะเติมช่องว่างจำนวนมากสรุปสามบินในหน้าของกระบวนทัศน์วิทยาศาสตร์ปกติ และก่อให้เกิดการสังเกตเพียงขาดพิสูจน์ทฤษฎีที่นักวิจัยที่มีศึกษาองค์กรเรียนรู้ที่เห็นได้ชัดว่า ในระดับที่น่าแปลกใจ ไม่ได้ใช้การผลจากผลงานวิจัยการออกแบบ หรือการตีความงานวิจัยของตนเอง อื่นข้อสรุป ยังขัดกับคำแนะนำที่นักวิทยาศาสตร์ให้กันบ่อย เป็นที่มีปฏิสนธิข้ามน้อยหรือการสังเคราะห์งานวิจัยต่าง ๆ โดยของกลุ่ม หรือในแง่มุมที่แตกต่างกัน แต่ที่เกี่ยวข้องขององค์กรเรียนรู้ (ข้อยกเว้นการข้อสรุปนี้คือ ว่า James G. มีนาคมได้มีส่วนสำคัญในการหมายเลขของพื้นที่ และมีจำนวนของผลงานการบูรณาการ.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. สรุป
ในบทความนี้สี่โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ขององค์กร (ความรู้การซื้อ,
การกระจายข้อมูลการตีความหมายข้อมูลและหน่วยความจำองค์กร)
มีการตรวจสอบและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับแต่ละได้รับการอธิบายและการวิเคราะห์
เพราะหนังสือที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการความรู้คือขนาดใหญ่และหลายเหลี่ยมเพชรพลอยที่
กระบวนการเป็นภาพที่ประกอบด้วยห้า subconstructs หรือกระบวนการย่อย (1) แต่กำเนิด
การเรียนรู้ (2) เรียนรู้จากประสบการณ์ (3) การเรียนรู้ที่เป็นตัวแทน (4) การรับสินบนและ ( 5)
การค้นหาหรือสังเกตเห็น การตรวจสอบของวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชี้ให้เห็นว่าในขณะที่
มากได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้มีการขาดการทำงานที่มีการสะสม
และการขาดการสังเคราะห์งานจากกลุ่มวิจัยที่แตกต่างกัน ในทำนองเดียวกันก็พบ
ว่ามากได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการค้นหาขององค์กร แต่ที่มีคือการขาดการ
ทำงานความคิดและการขาดทั้งสองอย่างต่อเนื่องในการทำงานเชิงประจักษ์และบูรณาการกับ
การที่จะสร้างวรรณกรรมผู้ใหญ่มากขึ้น การเรียนรู้ที่มีมา แต่กำเนิด, การเรียนรู้ชะลอและ
การปลูกถ่ายอวัยวะพบว่ามีกระบวนการย่อยเข้าซื้อกิจการข้อมูลเกี่ยวกับการที่ค่อนข้าง
น้อยได้รับการเรียนรู้ที่นอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกเขาเกิดขึ้น
การกระจายข้อมูลเกี่ยวกับวรรณกรรมถูกพบว่าเป็นที่อุดมไปด้วยและเป็นผู้ใหญ่
แต่เป็นลักษณะสำคัญของการกระจายข้อมูลคือวิธีการที่หน่วยงาน
เจ้าของข้อมูลและหน่วยงานต้องการข้อมูลนี้สามารถหาแต่ละอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
และมีโอกาสสูงที่ถูกพบว่ามีการสำรวจ การตีความข้อมูลเป็น
กระบวนการขององค์กรมากกว่าที่จะเป็นกระบวนการที่บุคคลพบว่าจำเป็นต้องมี
การทำงานเชิงประจักษ์เพื่อความก้าวหน้าต่อไป ในที่สุดหน่วยความจำขององค์กรเป็นปัจจัย
ของการเรียนรู้ขององค์กรและการตัดสินใจก็จะพบว่ามีมากในความต้องการ
ของการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
จำนวนของข้อสรุปจากการติดตามตรวจสอบการเรียนรู้ขององค์กรนี้
หนึ่งคือการที่กระบวนการขององค์กรและกระบวนการย่อยที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ในช่วงของพฤติกรรมที่มีศักยภาพขององค์กรมีมากขึ้นมากมายและหลากหลาย
กว่าตัวอย่างเล็ก ๆ ของวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ขององค์กรอาจแนะนำ ในขณะ
ใดกลุ่มวิจัยหนึ่งสามารถละเลยความจริงนี้กับอันตรายของเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองฟิลด์เป็น
ทั้งไม่สามารถ ข้อสรุปที่สองก็คือว่ามีข้อยกเว้นบางประการ (เช่นประสบการณ์ตาม
เส้นโค้งการเรียนรู้และการกระจายข้อมูล) มีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทางของการพิสูจน์
ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ขององค์กรและมีความจำเป็นมากและ
มีโอกาสที่จะกรอกในช่องว่างจำนวนมาก
สรุปสามบินในใบหน้าของกระบวนทัศน์วิทยาศาสตร์ปกติและก่อ
จะขาดเพียงแค่ตั้งข้อสังเกตของทฤษฎีที่นักวิจัยยืนยันที่ได้
ศึกษาองค์กรการเรียนรู้ที่เห็นได้ชัดว่ามีในระดับที่น่าแปลกใจไม่ได้ใช้
ผลจากการวิจัยก่อนหน้านี้ในการออกแบบหรือตีความ การวิจัยของตนเอง อีก
ข้อสรุปยังขัดกับคำแนะนำว่านักวิทยาศาสตร์บ่อยให้กับแต่ละอื่น ๆ คือ
ว่ามีน้อยข้ามปฏิสนธิหรือการสังเคราะห์ของงานที่ทำโดยการวิจัยที่แตกต่างกัน
ในกลุ่มหรือในที่แตกต่างกัน แต่ด้านที่เกี่ยวข้องของการเรียนรู้ขององค์กร (ข้อยกเว้นข้อสรุปนี้คือเจมส์กรัมมีนาคมได้ทำผลงานที่สำคัญใน
จำนวนของพื้นที่และได้จัดให้มีจำนวนของผลงานแบบบูรณาการ.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . สรุปในกระดาษนี้ , สี่โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ขององค์กร ( เก็บเกี่ยวความรู้การตีความข้อมูลข้อมูลกับหน่วยความจำ )ศึกษาและวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับแต่ละคนได้อธิบาย และของเพราะวรรณกรรมแสวงหาความรู้อยู่มากมาย และวันนี้ ,กระบวนการถูก portrayed เป็นประกอบด้วยห้า subconstructs subprocesses ( 1 ) แต่กำเนิดหรือการเรียนรู้ ( 2 ) เรียน ( 3 ) แบบอ้อม ( 4 ) การกราฟต์ ( 5 )ค้นหา หรือสังเกต การตรวจสอบของวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องพบว่า ในขณะที่มากได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ มีการขาดของงานสะสมและการขาดของการสังเคราะห์ของงานจากกลุ่มงานวิจัยต่างๆ ในทํานองเดียวกัน พบว่ามาก ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการค้นหาขององค์กร แต่เป็นว่ามีการขาดของงานความคิดและขาดทั้งต่อเนื่องและบูรณาการกับงานเชิงประจักษ์ซึ่งสร้างขึ้นเป็นผู้ใหญ่วรรณกรรม แต่กำเนิดแบบอ้อมและการเรียนรู้การกราฟต์ พบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อ subprocesses ซึ่งค่อนข้างเล็ก ๆน้อย ๆได้เรียนรู้นอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกเขาเกิดขึ้นวรรณคดี เรื่อง การเผยแพร่สารสนเทศพบว่า รวย และ ผู้ใหญ่อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักของการกระจายข้อมูล ได้แก่วิธีองค์กรหน่วยมีข้อมูลและหน่วยงานที่ต้องการข้อมูลนี้สามารถค้นหาแต่ละอื่น ๆได้อย่างรวดเร็วและมีความเป็นไปได้สูง พบว่าเป็น unexplored . การตีความข้อมูล เช่นกระบวนการขององค์กร มากกว่ากระบวนการ พบว่า มีบุคคลผลงานเชิงประจักษ์เพื่อความก้าวหน้าต่อไป ในที่สุดองค์กรหน่วยความจำ เป็นดีเทอร์มิแนนต์การเรียนรู้ขององค์กรและการตัดสินใจ พบว่า มีมากในความต้องการการสืบสวนอย่างเป็นระบบจํานวนตามข้อสรุปจากการตรวจนี้ การเรียนรู้ขององค์กรหนึ่งคือว่า องค์การและกระบวนการที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง subprocessesในช่วงของการเป็นองค์กรที่มีศักยภาพ พฤติกรรม มีมากและหลากหลายกว่าเล็กตัวอย่างของวรรณกรรมวิทยาศาสตร์องค์การอาจแนะนำ ในขณะที่กลุ่มงานวิจัยหนึ่ง ๆสามารถละเว้นข้อเท็จจริงนี้มีน้อยอันตรายกับตัวเอง ฟิลด์เป็นทั้งหมดไม่ได้ รุปที่สอง คือ มีข้อยกเว้นบางอย่าง ( เช่น ตามประสบการณ์เส้นโค้งการเรียนรู้และการเผยแพร่สารสนเทศ ) , มีน้อยในทางของคาทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ขององค์กร และมีความต้องการมาก และโอกาสที่จะกรอกในช่องว่างมากมายสรุปสามแมลงวันในหน้าของกระบวนทัศน์วิทยาศาสตร์ปกติและมีส่วนช่วยให้เพียงกล่าวขาดนักวิจัยที่ได้พิสูจน์ทฤษฎีศึกษาการเรียนรู้ขององค์กร ปรากฏว่ามี ปริญญา แปลก ใจ ไม่ ใช้ผลจากการวิจัยก่อนหน้าที่จะออกแบบหรือแปลงานวิจัยของตนเอง อื่นสรุป ยังขัดกับคำแนะนำของนักวิทยาศาสตร์บ่อยให้กับแต่ละอื่น ๆ คือว่ามีคอเลสเตอรอลน้อย หรือการสังเคราะห์ของงานวิจัยต่าง ๆกลุ่มหรือในที่แตกต่างกัน แต่เกี่ยวข้องกับด้านของการเรียนรู้ขององค์การ ( ยกเว้นเพื่อสรุปนี้คือ James G . มีนาคม ทำให้ผลงานที่สำคัญในจำนวนพื้นที่ และได้ให้หมายเลขของการทำงานแบบบูรณาการ )