Induction motors are the simplest a

Induction motors are the simplest and most rugged electric motor and consists of two basic electrical assemblies: the wound stator and the rotor assembly. The induction motor derives its name from currents flowing in the secondary member (rotor) that are induced by alternating currents flowing in the primary member (stator). The combined electromagnetic effects of the stator and rotor currents produce the force to create rotation.

Rotors typically consist of a laminated, cylindrical iron core with slots for receiving the conductors. The most common type of rotor has cast-aluminum conductors and short-circuiting end rings. This "squirrel cage" rotates when the moving magnetic field induces a current in the shorted conductors. The speed at which the magnetic field rotates is the synchronous speed of the motor and is determined by the number of poles in the stator and the frequency of the power supply: ns = 120f/p, where ns = synchronous speed, f = frequency, and p = the number of poles.

Synchronous speed is the absolute upper limit of motor speed. If the rotor turns exactly as fast as the rotating magnetic field, then no lines of force are cut by the rotor conductors, and torque is zero. When running, the rotor always rotates slower than the magnetic field. The rotor speed is just slow enough to cause the proper amount of rotor current to flow, so that the resulting torque is sufficient to overcome windage and friction losses, and drive the load. The speed difference between the rotor and magnetic field, called slip, is normally referred to as a percentage of synchronous speed: s = 100 (ns - na)/ns, where s = slip, ns = synchronous speed, and na = actual speed

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มอเตอร์เหนี่ยวนำเป็นที่ง่ายที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดมอเตอร์ไฟฟ้าและประกอบด้วยสองประกอบไฟฟ้าพื้นฐาน: สเตเตอร์แผลและการประกอบใบพัด มอเตอร์เหนี่ยวนำล้วนมาจากชื่อกระแสน้ำไหลในสมาชิกรอง (ใบพัด) ที่เกิดจากกระแสน้ำไหลสลับในสมาชิกหลัก (สเตเตอร์) ผลกระทบแม่เหล็กไฟฟ้ารวมของสเตเตอร์และโรเตอร์กระแสแรงผลิตเพื่อสร้างการหมุน. ใบพัดมักจะประกอบด้วยลามิเนต, แกนเหล็กทรงกระบอกที่มีช่องสำหรับรับตัวนำ ชนิดที่พบมากที่สุดของใบพัดมีตัวนำอลูมิเนียมและลัดวงจรแหวนปลาย นี้ "กรงกระรอก" หมุนเมื่อสนามแม่เหล็กย้ายก่อให้เกิดกระแสในตัวนำ shorted ความเร็วที่สนามแม่เหล็กหมุนคือความเร็วซิงโครของมอเตอร์และถูกกำหนดโดยจำนวนของเสาในสเตเตอร์และความถี่ของแหล่งจ่ายไฟ: NS = 120F / p ที่ NS = ความเร็วซิงโคร f = ความถี่ และ p = จำนวนเสา. ความเร็วในการซิงโครเป็นขีด จำกัด บนแน่นอนของความเร็วของมอเตอร์ ถ้าใบพัดเปลี่ยนตรงตามที่เร็วที่สุดเท่าที่สนามแม่เหล็กหมุนแล้วเส้นของแรงไม่มีการตัดโดยตัวนำโรเตอร์และแรงบิดเป็นศูนย์ เมื่อใช้ใบพัดเสมอหมุนช้ากว่าสนามแม่เหล็ก ความเร็วโรเตอร์เป็นเพียงการชะลอตัวมากพอที่จะก่อให้เกิดปริมาณที่เหมาะสมของใบพัดให้กระแสไหลเพื่อให้แรงบิดที่เกิดจะเพียงพอที่จะเอาชนะ windage และแรงเสียดทานการสูญเสียและการขับรถโหลด ความแตกต่างระหว่างความเร็วใบพัดและสนามแม่เหล็กที่เรียกว่าลื่นเป็นปกติจะเรียกว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของความเร็วในการซิงโคร A: s = 100 (NS - na) / NS ที่ s = ลื่น NS = ความเร็วซิงโครและ na = ความเร็วจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มอเตอร์เหนี่ยวนำจะง่ายที่สุด ทนทานที่สุด มอเตอร์ไฟฟ้า และประกอบด้วยสองส่วนประกอบไฟฟ้าพื้นฐาน : แผลที่สเตเตอร์และโรเตอร์ ประกอบ มอเตอร์มาจากชื่อของกระแสที่ไหลในสมาชิกมัธยม ( โรเตอร์ ) ที่กระตุ้นด้วยไฟฟ้ากระแสสลับไหลในสมาชิกหลัก ( stator ) แม่เหล็กไฟฟ้าผลรวมของกระแสสเตเตอร์และโรเตอร์ สร้างพลังเพื่อสร้างการหมุนใบพัดโดยทั่วไปประกอบด้วยลามิเนตทรงกระบอก แกนเหล็กกับสล็อตได้รับตัวนํา ชนิดที่พบมากที่สุดของใบพัดได้โยนตัวนำอลูมิเนียมและแหวนจบ circuiting สั้น " กรงกระรอก " หมุนเมื่อสนามแม่เหล็กเคลื่อนที่ ทำให้ปัจจุบันในช๊อตไฟฟ้า . ความเร็วที่สนามแม่เหล็กหมุนของมอเตอร์มีความเร็วซิงโครนัส และถูกกำหนดโดยจำนวนของเสาใน stator และความถี่ของแหล่งจ่ายไฟ : ns = 120f / P ที่ ns = ความเร็ว synchronous , F = ความถี่และ P = จำนวนของเสาความเร็วซิงโครนัสเป็นจำนวนสูงสุดสัมบูรณ์ของความเร็วมอเตอร์ ถ้าใบพัดเปลี่ยนตรงเป็นอย่างรวดเร็วเป็นสนามแม่เหล็กหมุน แล้วไม่มีเส้นแรงแม่เหล็กตัดใบพัดไฟฟ้าและแรงบิดศูนย์ เมื่อรัน ใบพัดก็หมุนช้ากว่าสนามแม่เหล็ก ความเร็วโรเตอร์มันช้า จนทำให้ปริมาณที่เหมาะสมของใบพัดปัจจุบันไหล เพื่อให้เกิดแรงบิดเพียงพอที่จะเอาชนะวัดแรงลมที่และการสูญเสียแรงเสียดทาน และขับโหลด ความเร็วแตกต่างระหว่างโรเตอร์และสนามแม่เหล็ก เรียกว่า สลิป จะเรียกว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของความเร็วซิงโคร : S = 100 ( NS - นา ) / NS ที่ S = ลื่น , NS = ความเร็วซิงโครนัส และนา = ความเร็วที่เกิดขึ้นจริง