Without polymorphism, the programme

Without polymorphism, the programmer would have to employ if statements or switch logic to test the type of the currently active object. This alternative would clearly be difficult to maintain as the size and diversity of the modeled system changes. Polymorphism allows the developer to process objects of related classes in a very general way by focusing on class similarities. Polymorphism accommodates implementation differences by automatically dispatching commands to the appropriate methods at execution time. This allows code to be far more flexible and extensible.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยโพลิมอร์ฟิซึม นักเขียนโปรแกรมจะต้องใช้ถ้างบหรือตรรกะสวิตช์ทดสอบชนิดของวัตถุที่กำลังทำงาน ทางเลือกนี้จะยากที่จะรักษาขนาดและความหลากหลายของระบบการสร้างแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โพลิมอร์ฟิซึมได้พัฒนากระบวนการวัตถุของคลาสที่เกี่ยวข้องในลักษณะโดยทั่วไป โดยเน้นความเหมือนชั้น โพลิมอร์ฟิซึมรองรับความแตกต่างในการดำเนินงาน โดยจัดส่งคำสั่งสำหรับวิธีการที่เหมาะสมในเวลาดำเนินการโดยอัตโนมัติ นี้รหัสจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถเพิ่มความสามารถได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยไม่ต้องมีความแตกต่างโปรแกรมเมอร์จะต้องจ้างถ้างบหรือสวิทช์ตรรกะในการทดสอบประเภทของวัตถุที่ใช้งานในปัจจุบัน ทางเลือกนี้จะเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องยากที่จะรักษาขนาดและความหลากหลายของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงระบบ ความแตกต่างช่วยให้นักพัฒนาในการประมวลผลวัตถุของการเรียนที่เกี่ยวข้องในลักษณะทั่วไปมากขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่ความคล้ายคลึงกันในชั้นเรียน polymorphism รองรับการใช้งานที่แตกต่างกันโดยอัตโนมัติการส่งคำสั่งไปยังวิธีการที่เหมาะสมในเวลาที่การดำเนินการ นี้จะช่วยให้รหัสที่จะมีมากขึ้นความยืดหยุ่นและขยาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มีความหลากหลาย , โปรแกรมเมอร์จะต้องใช้ถ้างบหรือเปลี่ยนตรรกะเพื่อทดสอบประเภทของวัตถุที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ทางเลือกนี้จะเป็นอย่างชัดเจนยากที่จะรักษาเป็นขนาดและความหลากหลายของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงระบบ จึงช่วยให้นักพัฒนากระบวนวิชาที่เกี่ยวข้องกับวัตถุในทางทั่วไปมาก โดยเน้นระดับความคล้ายคลึงกัน- รองรับการส่งคำสั่งโดยอัตโนมัติ ความแตกต่าง โดยวิธีการที่เหมาะสม ในเวลาที่การ นี้จะช่วยให้รหัสที่จะห่างไกลมากขึ้นมีความยืดหยุ่นและขยาย .