Suicide RiskTwo prospective cohort

Suicide Risk
Two prospective cohort studies in the US found significant inverse associations between coffee consumption and the risk of suicide. 78 , 79 A 10-year study of more than 128,000 men and women participating in a California health plan found that the relative risk of suicide decreased by 13% for every cup of coffee consumed daily. Similarly, a 10-year study of more than 86,000 women found that those who drank at least 2 cups of coffee daily had a risk of suicide that was 50% lower than those who did not drink coffee. 78 Coffee consumption and suicide rates are higher in Finland than in the US. A prospective study that followed more than 43,000 Finnish men and women for an average of 14.6 years found that the relationship between coffee consumption and suicide risk was J-shaped. 80 Those who consumed at least 8 cups of coffee daily had a risk of suicide that was 58% higher than those with more moderate coffee consumption (0–7 cups/d). The reasons for the inverse association between moderate coffee consumption and the risk of suicide in these cohorts are not known. At present there is not enough evidence to support recommendations for coffee consumption in clinically depressed patients.
Prevention of Colorectal Cancer
Epidemiological Studies
In general, coffee consumption has been inversely associated with the risk of colon cancer in case-control studies, but not in prospective cohort studies. 81 , 82 A meta-analysis that combined the results of 12 case-control studies and five prospective cohort studies found that people who drank 4 or more cups of coffee daily had a risk of colorectal cancer that was 24% lower than that of nondrinkers. 82 However, coffee consumption was not associated with colorectal cancer risk when the results of only the prospective cohort studies were combined. Although case-control studies usually include more cancer cases than prospective cohort studies, they may be subject to recall bias with respect to coffee consumption and selection bias with respect to the control group. Similarly, a more recent review of epidemiological studies found evidence of an inverse association between coffee consumption and colon cancer risk from case-control studies but no evidence of such an association from prospective cohort studies. 81 No overall associations between coffee and rectal cancer emerged in this review. In contrast, the two largest prospective cohort studies to examine the relationship between coffee and colorectal cancer to date found that American men and women who regularly consumed 2 or more cups of decaffeinated coffee daily had a risk of rectal cancer that was 48% lower than those who never consumed caffeinated coffee. 83 Consumption of caffeinated coffee, tea, and caffeine were not associated with either colon or rectal cancer risk. Case-control studies have not generally found coffee consumption to be inversely associated with the risk of colorectal adenoma, 84 , 85 , 86 and coffee consumption was not associated with the risk of recurrent colorectal adenomas over a 4-year period. 87

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสี่ยงฆ่าตัวตายสองงานผู้สนใจศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบความสัมพันธ์ผกผันที่สำคัญระหว่างการบริโภคกาแฟและความเสี่ยงของการฆ่าตัวตาย 78, 79 A 10 ปีศึกษา 128,000 กว่าผู้ชายและผู้หญิงที่เข้าร่วมในการวางแผนสุขภาพแคลิฟอร์เนียพบว่า ความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายลดลง 13% สำหรับทุกถ้วยของกาแฟที่บริโภคทุกวัน ในทำนองเดียวกัน การศึกษา 10 ปีของผู้หญิงมากกว่า 86,000 พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 ถ้วยทุกวันมีความเสี่ยงฆ่าตัวตายที่ 50% ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ การบริโภคและการฆ่าตัวตายที่กาแฟ 78 ราคาพิเศษสูงกว่าในฟินแลนด์กว่าในสหรัฐอเมริกา การศึกษาอนาคตที่ 43,000 กว่าคนฟินแลนด์และผู้หญิงค่าเฉลี่ย 14.6 ปี พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟและเสี่ยงฆ่าตัวตายรูป J 80 คนใช้เวลาอย่างน้อย 8 ถ้วยกาแฟทุกวันมีความเสี่ยงฆ่าตัวตายที่สูงกว่าผู้ที่มีการบริโภคกาแฟมากขึ้นเป็น 58% (0-7 ถ้วย/d) ไม่ใช้เหตุผลสัมพันธ์ผกผันระหว่างการบริโภคกาแฟปานกลางและเสี่ยงฆ่าตัวตายในรุ่นเหล่านี้กัน ปัจจุบัน ไม่มีหลักฐานเพียงพอเพื่อสนับสนุนคำแนะนำสำหรับการบริโภคกาแฟในผู้ป่วยหดหู่ทางคลินิกการป้องกันมะเร็งจากการศึกษาทั่วไป การบริโภคกาแฟได้รับ inversely ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในการควบคุมกรณีศึกษา แต่ไม่ใช่ ในงานผู้สนใจศึกษา 81, 82 การ meta-วิเคราะห์ที่รวม 12 ควบคุมกรณีศึกษาและห้างานผู้สนใจศึกษาที่พบว่าผู้ที่ดื่ม น้อย 4 ถ้วยกาแฟทุกวัน มีความเสี่ยงของมะเร็งที่ 24% ต่ำกว่าที่ของ nondrinkers 82 การบริโภคกาแฟก็ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงมะเร็งผลเฉพาะงานที่ผู้ศึกษาได้รวม แม้ว่าการควบคุมกรณีศึกษามักรวมกรณีมะเร็งกว่าอนาคตงานศึกษา พวกเขาอาจจะต้องเรียกคืนอคติเกี่ยวกับกาแฟการใช้และเลือกอคติกับกลุ่มควบคุม ในทำนองเดียวกัน เห็นล่าสุดของการศึกษาพบหลักฐานความสัมพันธ์ผกผันระหว่างการบริโภคกาแฟ และเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่จากการควบคุมกรณีศึกษา แต่ไม่มีหลักฐานความสัมพันธ์ดังกล่าวจากงานผู้สนใจศึกษา 81 ไม่มีความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างกาแฟและโรคมะเร็งทวารหนักโผล่ออกมาในบทความนี้ เปรียบ สองที่ใหญ่ที่สุดงานผู้สนใจศึกษาการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างกาแฟและมะเร็งวันที่พบว่า ผู้ชายอเมริกันและผู้หญิงที่เป็นประจำใช้ น้อย 2 ถ้วยกาแฟไม่มีกาเฟอีนทุกวัน มีความเสี่ยงของโรคมะเร็งทวารหนักที่ 48% ต่ำกว่าผู้ที่ไม่เคยบริโภคกาแฟมีคาเฟอีน การใช้ 83 มีคาเฟอีน ชา และกาแฟคาเฟอีนไม่ได้เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งทวารหนัก ควบคุมกรณีศึกษาได้โดยทั่วไปพบว่าการบริโภคกาแฟจะ inversely ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของเนื้องอกต่อม colorectal, 84, 85, 86 และกาแฟไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของการเกิดซ้ำ colorectal adenomas ในระยะเวลา 4 ปี 87

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเสี่ยงฆ่าตัวตาย
สองการศึกษาการศึกษาในอนาคตในสหรัฐอเมริกาพบสมาคมผกผันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการบริโภคกาแฟและความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย 78, 79 การศึกษา 10 ปีมากกว่า 128,000 ผู้ชายและผู้หญิงมีส่วนร่วมในแผนสุขภาพแคลิฟอร์เนียพบว่าความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายลดลง 13% สำหรับถ้วยกาแฟทุกการบริโภคในชีวิตประจำวัน ในทำนองเดียวกันการศึกษา 10 ปีของผู้หญิงมากกว่า 86,000 พบว่าผู้ที่ดื่มอย่างน้อย 2 ถ้วยกาแฟทุกวันมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเป็น 50% ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ 78 คอฟฟี่การบริโภคและการฆ่าตัวตายสูงกว่าอัตราการอยู่ในฟินแลนด์กว่าในสหรัฐอเมริกา การศึกษาในอนาคตที่ตามมามากกว่า 43,000 คนฟินแลนด์และหญิงสำหรับค่าเฉลี่ย 14.6 ปีพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟและความเสี่ยงการฆ่าตัวตายเป็นรูปตัวเจ 80 บรรดาผู้บริโภคไม่น้อยกว่า 8 ถ้วยกาแฟทุกวันมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายที่ 58% สูงกว่าผู้ที่มีการบริโภคกาแฟในระดับปานกลางมากขึ้น (0-7 ถ้วย / D) สาเหตุของการสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างการบริโภคกาแฟในระดับปานกลางและความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายในผองเพื่อนเหล่านี้จะไม่เป็นที่รู้จัก ในปัจจุบันมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนข้อเสนอแนะสำหรับการบริโภคกาแฟในผู้ป่วยซึมเศร้าทางคลินิก.
การป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และ
ระบาดวิทยาการศึกษา
โดยทั่วไปการบริโภคกาแฟได้รับการเชื่อมโยงผกผันกับความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ในการศึกษากรณีการควบคุม แต่ไม่ได้อยู่ในหมู่คนที่คาดหวัง การศึกษา 81, 82 meta-analysis ที่รวมผล 12 กรณีศึกษาการควบคุมและห้าศึกษาการศึกษาในอนาคตพบว่าคนที่ดื่ม 4 หรือมากกว่าถ้วยกาแฟทุกวันมีความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ 24% ต่ำกว่าที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 82 อย่างไรก็ตามการบริโภคกาแฟไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อผลของการเพียงศึกษาการศึกษาในอนาคตร่วมกัน ถึงแม้ว่าการศึกษากรณีการควบคุมมักจะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งมากกว่าศึกษาการศึกษาในอนาคตพวกเขาอาจจะจำอคติส่วนที่เกี่ยวกับการบริโภคกาแฟและอคติเลือกที่เกี่ยวกับกลุ่มควบคุม ในทำนองเดียวกันการตรวจสอบล่าสุดเพิ่มเติมจากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟและความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่จากการศึกษากรณีการควบคุม แต่หลักฐานดังกล่าวเชื่อมโยงจากการศึกษาการศึกษาในอนาคตไม่มี 81 ไม่มีสมาคมโดยรวมระหว่างกาแฟและมะเร็งทวารหนักโผล่ออกมาในการทบทวนนี้ ในทางตรงกันข้ามสองที่ใหญ่ที่สุดศึกษาการศึกษาในอนาคตเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกาแฟและโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่วันที่พบว่าคนอเมริกันและหญิงที่ประจำการบริโภค 2 หรือมากกว่าถ้วยกาแฟไม่มีคาเฟอีนในชีวิตประจำวันมีความเสี่ยงของมะเร็งทวารหนักว่า 48% ต่ำกว่าเหล่านั้น ที่ไม่เคยบริโภคกาแฟมีคาเฟอีน 83 การบริโภคคาเฟอีนกาแฟ, ชา, และคาเฟอีนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือลำไส้ใหญ่ทวารหนักความเสี่ยงโรคมะเร็ง กรณีศึกษาการควบคุมไม่ได้พบโดยทั่วไปการบริโภคกาแฟที่จะเชื่อมโยงผกผันกับความเสี่ยงของการ adenoma ลำไส้ใหญ่, 84, 85, 86 และการบริโภคกาแฟไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของเนื้องอกลำไส้ใหญ่เกิดขึ้นอีกเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี 87