1909 to 1954In May 1908 a group of

1909 to 1954
In May 1908 a group of British geologists discovered a large amount of oil at Masjid-i-Suleiman in Iran. It was the first commercially significant find of oil in the Middle East. The Shah of Iran granted a concession to William Knox D'Arcy to enable the British to drill for Iran's oil. On 14 April 1909, the Anglo-Persian Oil Company (APOC) was incorporated as a subsidiary of Burmah Oil Company. Some of the shares were sold to the public. The first chairman and minority shareholder of the company became Lord Strathcona.

Immediately after establishing the company, construction of the Abadan Refinery and the pipeline from Masjid to Abadan started. The refinery was commissioned in 1912. In 1913, the British Government acquired a controlling interest (50.0025%) in the company and at the suggestion of Winston Churchill, the British navy switched from coal to oil.The Royal Navy, which projected British power all over the world, came to be run 100% on oil from Iran. In 1915, APOC established its shipping subsidiary the British Tanker Company and in 1916 it acquired the British Petroleum Company which was a marketing arm of the German Europäische Petroleum Union in Britain. In 1919, the company became a shale-oil producer by establishing a subsidiary named Scottish Oils which merged remaining Scottish oil-shale industries.

After World War I, APOC started marketing its products in Continental Europe and acquired stakes in the local marketing companies in several European countries. Refineries were built in Llandarcy in Wales (the first refinery in the United Kingdom) and Grangemouth in Scotland. It also acquired the controlling stake in the Courchelettes refinery in France and formed with the Government of Australia a partnership named Commonwealth Oil Refineries, which built the Australian's first refinery in Laverton, Victoria.[31] In 1923, Burmah employed Winston Churchill as a paid consultant to lobby the British government to allow APOC have exclusive rights to Persian oil resources, which were subsequently granted by the Iranian monarchy.[40]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1909-1954พฤษภาคมค.ศ. 1908 ใน กลุ่มของนักธรณีวิทยาชาวอังกฤษค้นพบน้ำมันที่มัสยิด-i-โปรดในอิหร่านจำนวนมาก ค้นหาสำคัญในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกน้ำมันในตะวันออกกลางได้ ชาห์อิหร่านให้สัมปทานกับ William D'Arcy น็อกให้อังกฤษแนวน้ำมันของอิหร่าน บน 14 1909 เมษายน บริษัทน้ำมันสงครามอังกฤษ-เปอร์เซีย (APOC) ถูกรวมเป็นบริษัทในเครือของ บริษัทน้ำมัน Burmah ของหุ้นถูกขายให้กับประชาชน แรกประธานและชนกลุ่มน้อยผู้ถือหุ้นของบริษัทได้กลายเป็น พระสแตรทโคนาทันทีหลังจากจัดตั้งบริษัท ก่อสร้างโรงกลั่น Abadan และไลน์จากมัสยิดที่จะ Abadan เริ่ม โรงกลั่นที่ถูกมอบหมายอำนาจหน้าที่ในซาวน่า ในปี 1913 รัฐบาลอังกฤษมาเป็นการควบคุมการสนใจ (50.0025%) ในบริษัท และคำแนะนำของเคิร์ดโซว์วินสตัน กองทัพเรืออังกฤษที่สลับจากถ่านหินน้ำมัน ราชนาวี การคาดการณ์พลังงานอังกฤษทั่วโลก มาเรียกใช้ได้ 100% ในน้ำมันจากอิหร่าน ใน 1915, APOC ก่อตั้งบริษัทย่อยจัดส่ง บริษัทบรรทุกอังกฤษ และใน 1916 มา บริษัทบริติชปิโตรเลียมซึ่งเป็นแขนที่ตลาดของเยอรมัน Europäische ปิโตรเลียมร่วมในสหราชอาณาจักร ในค.ศ. 1919 บริษัทกลายเป็น ดินดานน้ำมันที่ผลิต โดยการสร้างบริษัทชื่อน้ำมันสกอตแลนด์ซึ่งผสานเหลือ อุตสาหกรรมน้ำมันดินดานสกอตแลนด์หลังจากสงครามโลก APOC เริ่มการตลาดของผลิตภัณฑ์ในทวีปยุโรป และได้มาอาศัยในบริษัทการตลาดท้องถิ่นในหลายประเทศในยุโรป Refineries ถูกสร้างขึ้นใน Llandarcy ในเวลส์ (กลั่นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร) และ Grangemouth ในสกอตแลนด์ ยังได้รับเงินเดิมพันควบคุมในโรงกลั่น Courchelettes ในประเทศฝรั่งเศส และเกิดความร่วมมือที่ชื่อว่าเครือจักรภพผนัง การสร้างโรงกลั่นแรกของออสเตรเลียใน Laverton วิคตอเรีย กับรัฐบาลออสเตรเลีย [31] ใน 1923, Burmah จ้างวินสตันเคิร์ดโซว์เป็นปรึกษาที่ได้รับค่าจ้างไปล็อบบี้รัฐบาลอังกฤษให้ APOC ได้สิทธิทรัพยากรน้ำมันเปอร์เซีย ซึ่งได้รับในเวลาต่อมา โดยพระมหากษัตริย์อิหร่าน [40]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1909-1954
ในพฤษภาคม 1908 กลุ่มของนักธรณีวิทยาชาวอังกฤษค้นพบเป็นจำนวนมากของน้ำมันที่มัสยิด-I-สุไลมานในอิหร่าน มันเป็นครั้งแรกพบที่สำคัญในเชิงพาณิชย์ของน้ำมันในตะวันออกกลาง ชาห์แห่งอิหร่านได้รับสัมปทานน็อกซ์วิลเลียม D'Arcy เพื่อให้ชาวอังกฤษที่จะขุดเจาะน้ำมันของอิหร่าน เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1909 บริษัท ฯ น้ำมันแองโกลเปอร์เซีย (APOC) จัดตั้งขึ้นเป็น บริษัท ย่อยของ บริษัท Burmah น้ำมัน บางส่วนของหุ้นที่ถูกขายให้กับประชาชน ประธานครั้งแรกและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ บริษัท กลายเป็นพระเจ้า Strathcona. ทันทีหลังจากที่การจัดตั้ง บริษัท การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันและท่ออบาดันจากมัสยิดเพื่อ Abadan เริ่มต้น โรงกลั่นได้รับมอบหมายในปี 1912 ในปี 1913 รัฐบาลอังกฤษได้รับความสนใจในการควบคุม (50.0025%) ใน บริษัท และคำแนะนำของ Winston Churchill ที่ราชนาวีอังกฤษเปลี่ยนจากถ่านหิน oil.The กองทัพเรือซึ่งคาดอำนาจอังกฤษ ทั่วโลกมาเป็นที่ทำงาน 100% ในน้ำมันจากอิหร่าน ในปี 1915 บริษัท ย่อยที่จัดตั้งขึ้น APOC การจัดส่งสินค้าของ บริษัท เรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษและในปี 1916 มันกลายเป็น บริษัท บริติชปิโตรเลียมซึ่งเป็นแขนตลาดของเยอรมันEuropäischeปิโตรเลียมยูเนี่ยนในสหราชอาณาจักร ในปี 1919 บริษัท ได้กลายเป็นผู้ผลิตหินน้ำมันโดยการจัดตั้ง บริษัท ย่อยชื่อน้ำมันสก็อตซึ่งรวมเหลืออุตสาหกรรมน้ำมันจากชั้นหินที่สก็อต. หลังจากสงครามโลกครั้งที่ APOC เริ่มต้นการตลาดผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ในทวีปยุโรปและได้รับเงินเดิมพันใน บริษัท การตลาดท้องถิ่นในหลาย ประเทศในยุโรป โรงกลั่นถูกสร้างขึ้นใน Llandarcy ในเวลส์ (โรงกลั่นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร) และ Grangemouth ในสกอตแลนด์ นอกจากนี้ยังได้มาดำเนินการควบคุมใน Courchelettes โรงกลั่นในประเทศฝรั่งเศสและเกิดขึ้นกับรัฐบาลของออสเตรเลียเป็นหุ้นส่วนชื่อโรงกลั่นเครือจักรภพน้ำมันซึ่งสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของออสเตรเลียใน Laverton วิกตอเรีย. [31] ในปี 1923, Burmah ลูกจ้างวินสตันเชอร์ชิลเป็นจ่าย ที่ปรึกษาด้านการล็อบบี้รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้ APOC มีสิทธิพิเศษในการแหล่งน้ำมันเปอร์เซียซึ่งได้รับภายหลังจากสถาบันพระมหากษัตริย์อิหร่าน. [40]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1909 ใน 1954
พฤษภาคม 1908 กลุ่มนักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ ค้นพบ จำนวนมากของน้ำมันที่ masjid-i-suleiman ในอิหร่าน มันเป็นครั้งแรกในเชิงพาณิชย์อย่างมีนัยสำคัญพบน้ำมันในตะวันออกกลาง อิหร่านในอิหร่านที่ได้รับสัมปทานให้วิลเลียมน็อกซ์กรรมการเพื่อให้ชาวอังกฤษที่จะขุดเจาะน้ำมันของอิหร่าน วันที่ 14 เมษายน 1909ส่วนบริษัทน้ำมันอังกฤษเปอร์เซีย ( apoc ) ได้จดทะเบียนเป็น บริษัท ย่อยของ บริษัท น้ำมัน burmah . บางส่วนของหุ้นที่ถูกขายให้กับประชาชน ประธานและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ บริษัท กลายเป็นลอร์ด Strathcona

ทันทีหลังจากจัดตั้ง บริษัท ก่อสร้างของ บาดันโรงกลั่นน้ำมันและท่อจาก Masjid บาดันเริ่ม โรงกลั่นที่ได้รับมอบหมาย ในปี 1912 ในปี 1913 ,รัฐบาลอังกฤษได้รับดอกเบี้ยการควบคุม ( 50.0025 % ) ในบริษัท และตามคำแนะนำของวินสตัน เชอร์ชิลล์ กองทัพเรืออังกฤษเปลี่ยนจากถ่านหิน น้ำมัน ราชนาวีอังกฤษ ซึ่งคาดว่าพลังงานทั่วโลก มาเป็นวิ่ง 100% ในน้ำมันจากอิหร่าน 1915apoc ก่อตั้งบริษัทจัดส่งของบริษัทน้ำมันอังกฤษและใน 1916 มันได้รับบริติช ปิโตรเลียม บริษัท ซึ่งเป็นตลาดที่แขนของเยอรมันและยุโรป ische ปิโตรเลียมสหภาพแรงงานในอังกฤษ 1919 บริษัทกลายเป็นหินน้ำมันผู้ผลิตโดยการจัดตั้ง บริษัท ย่อยที่ชื่อ สก็อต สก็อตซึ่งผสานน้ำมันที่เหลือหินน้ำมันอุตสาหกรรม .

หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งapoc เริ่มต้นการตลาดผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ในทวีปยุโรปและได้รับการเดิมพันในท้องถิ่น การตลาดของ บริษัท ในประเทศในยุโรปหลาย โรงแรมถูกสร้างขึ้นใน llandarcy ในเวลส์ ( โรงกลั่นแรกในสหราชอาณาจักร ) และ Westkapelle ในสกอตแลนด์นอกจากนี้ยังได้รับการควบคุมการเดิมพันใน courchelettes โรงกลั่นในฝรั่งเศส และเกิดขึ้นกับรัฐบาลออสเตรเลียเป็นหุ้นส่วนชื่อ โรงกลั่นน้ำมัน จักรภพ ซึ่งสร้างโรงกลั่นแห่งแรกของออสเตรเลียในลาเวอร์ตัน , วิคตอเรีย [ 31 ] ในปี 1923burmah ว่าจ้าง วินสตัน เชอร์ชิล ในฐานะเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลอังกฤษ apoc ล็อบบี้เพื่อให้ได้สิทธิในทรัพยากรน้ํามันเปอร์เซีย ซึ่งต่อมาได้รับโดยกษัตริย์อิหร่าน [ 40 ]