The innermost layer of a woman's cl

The innermost layer of a woman's clothing was a linen or woolen chemise or smock, some fitting the figure and some loosely garmented, although there is some mention of a "breast girdle" or "breast band" which may have been the precursor of a modern bra.[24]

Women also wore hose or stockings, although women's hose generally only reached to the knee.[15]

All classes and both sexes are usually shown sleeping naked—special nightwear only became common in the 16th century[25]—yet some married women wore their chemises to bed as a form of modesty and piety. Many in the lower classes wore their undergarments to bed because of the cold weather at night time and since their beds usually consisted of a straw mattress and a few sheets, the undergarment would act as another layer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชั้นที่สุดของเสื้อผ้าของผู้หญิงถูกเป็นผ้าลินิน หรือ woolen chemise หรือ smock บางรูปเหมาะสม และบางสถาน garmented แม้จะมีการพูดถึงบางส่วนของ "เต้านมเปรี้ยว" หรือ "อกวง" ซึ่งอาจมีสารตั้งต้นของชุดชั้นในที่ทันสมัย [24]ผู้หญิงยังสวมท่อหรือถุงน่อง แม้ว่าท่อของผู้หญิงโดยทั่วไปเท่านั้นถึงเข่า [15]เรียนทั้งหมดและทั้งสองเพศมักแสดงนอนเปลือยกาย — ชุดนอนพิเศษจะกลายเป็นในศตวรรษ 16 [25] — แต่ผู้หญิงบางคนแต่งงานสวม chemises การนอนเป็นแบบของโมเดสตี้และความยำเกรง หลายในชนชั้นล่างสวม undergarments ของพวกเขาเตียงเนื่องจากอากาศเย็นในเวลากลางคืน และเนื่องจากเตียงของพวกเขามักจะประกอบด้วยที่นอนฟางและกี่แผ่น การสวมชุดชั้นในจะทำหน้าที่เป็นชั้นอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชั้นในสุดของเสื้อผ้าของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผ้าลินินหรือสตรีทำด้วยผ้าขนสัตว์หรือผ้ากันเปื้อนบางกระชับรูปและบาง garmented คับถึงแม้จะมีการกล่าวถึงเป็น "เอวเต้านม" เป็นบางส่วนหรือ "วงเต้านม" ซึ่งอาจจะเป็นสารตั้งต้นของที่ทันสมัยที่ ชุดชั้นใน. [24] ผู้หญิงยังสวมสายยางหรือถุงน่องแม้ว่าท่อของผู้หญิงโดยทั่วไปถึงเท่านั้นที่จะเข่า. [15] ทุกชั้นเรียนและทั้งสองเพศจะแสดงมักจะนอนชุดนอนเปลือยกายพิเศษเพียงกลายเป็นเรื่องธรรมดาในศตวรรษที่ 16 [25] -yet บางส่วนผู้หญิงที่แต่งงานแล้วสวม chemises ของพวกเขาไปที่เตียงเป็นรูปแบบของความพอประมาณและความกตัญญู จำนวนมากในชั้นต่ำสวมชั้นในของพวกเขาไปที่เตียงเพราะสภาพอากาศหนาวเย็นในเวลากลางคืนและตั้งแต่เตียงของพวกเขามักจะประกอบด้วยที่นอนฟางและแผ่นไม่กี่ชั้นจะทำหน้าที่เป็นอีกชั้นหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชั้นในสุดของเสื้อผ้าของผู้หญิงมีซับในผ้าขนสัตว์หรือผ้าป่านหรือสม็อก บางกระชับร่างบางเอาไว้หลวมๆ garmented แม้ว่ามีบางคนพูดถึง " หน้าอกเอว " หรือ " เต้านมวงดนตรี " ซึ่งอาจเป็นสารตั้งต้นของบราสมัยใหม่ [ 24 ]

ผู้หญิงก็ใส่ท่อหรือถุงน่อง แม้ว่าท่อของผู้หญิงโดยทั่วไปเท่านั้นถึงเข่า [ 15 ]

ทุกชั้นและทั้งสองเพศมักจะแสดงนอนเปลือยกายพิเศษชุดนอนกลายเป็นทั่วไปในศตวรรษที่ 16 [ 25 ] - ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วบางคนยังใส่จำนวนมากของเตียงเป็นรูปแบบของหิริและกตัญญู . หลายชนชั้น สวมชุดชั้นในของพวกเขาไปที่เตียง เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเวลากลางคืน และเพราะเตียงของพวกเขามักจะประกอบด้วยที่นอนฟางและไม่กี่แผ่นชุดชั้นใน จะทำหน้าที่เป็นชั้นอื่น