Photographs illustrating a section

Photographs illustrating a section of the pipe where perforation occurred are shown in Fig. 1. Corrosion product was observed at the outer bottom surface in the vicinity of the perforation; however, the internal surface was relatively clean.
This is further illustrated in the optical macrographs of Figure 2 indicating that the pipe was corroded by interaction between the bottom surface and the surrounding environment particularly in those regions where the insulating coating was damaged.
Figure 3 summarizes typical microstructure and composition of a sound section of the pipe. As shown in the secondary electron image of Fig.
3(a), the microstructure revealed by etching was comparable to that of 304 stainless steel in the annealed condition (Ref 10).
A corresponding energy dispersive spectrum illustrating the elemental composition of the pipe
is shown in Fig. 3(b) consistent with an alloy based upon the Fe-Cr-Ni system.
Figure 3(c) summarizes the results of measuring the chemical composition by inductively coupled plasma atomic energy spectroscopy (ICP-AES) in comparison with the nominal composition of 304 stainless steel verifying that the pipe was manufactured according to specifications.
Consistent with the above results, examination of a cross section of the pipe indicated that the tube wall thinning eventually leading to perforation was initiated from the outer
pipe surface as demonstrated in the secondary electron image of Fig. 4(a).
Evidence for intergranular cracking at the outer surface was observed in the vicinity of the perforation as shown in Fig. 4(b).
In contrast, there was no evidence for such cracking at the inner surface (Fig. 4c) suggesting that the cracking was also initiated at the outer surface of the pipe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพแสดงส่วนของท่อที่เกิด perforation แสดงใน Fig. 1 ผลิตภัณฑ์การกัดกร่อนถูกสังเกตที่พื้นภายนอกดี perforation อย่างไรก็ตาม ผิวภายในค่อนข้างต่อไปนี้จะแสดงใน macrographs แสงของรูปที่ 2 แสดงว่า ท่อถูก corroded โดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างพื้นและสิ่งแวดล้อมโดยรอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคดังกล่าวที่เคลือบฉนวนเสียหายรูปที่ 3 สรุปทั่วไปต่อโครงสร้างจุลภาคและองค์ประกอบของส่วนของท่อเสียง ดังแสดงในรูปสองอิเล็กตรอนของฟิก 3(a) ต่อโครงสร้างจุลภาคที่เปิดเผย โดยการแกะสลักได้เปรียบกับเหล็กกล้าไร้สนิม 304 ในเงื่อนไข annealed (อ้างอิงที่ 10) คำที่เกี่ยวข้องพลังงาน dispersive สเปกตรัมแสดงองค์ประกอบธาตุของท่อแสดงในสอดคล้องกับโลหะผสมที่ยึดตามระบบ Fe Cr Ni 3(b) Fig. รูป 3(c) สรุปผลของการวัดองค์ประกอบทางเคมีโดยท่านพลาสมาอะตอมพลังงานก (ICP-AES) เมื่อเปรียบเทียบกับองค์ประกอบระบุ 304 สแตนเลสตรวจสอบว่า ท่อที่ผลิตขึ้นตามข้อกำหนดสอดคล้องกับผลลัพธ์ข้างต้น ตรวจสอบข้ามส่วนของท่อบ่งชี้ว่า ผนังหลอดผอมบางในที่สุดนำไปสู่ perforation เริ่มจากภายนอกผิวท่อดังที่แสดงในภาพอิเล็กตรอนรอง Fig. 4(a) หลักฐานสำหรับถอด intergranular ที่พื้นผิวภายนอกที่สังเกตนัก perforation ที่มาก Fig. 4(b) ในทางตรงกันข้าม มีไม่มีหลักฐานในการถอดรหัสดังกล่าวที่ผิวภายใน (Fig. 4 c) แนะนำให้ ถอดที่ยังเริ่มที่พื้นผิวภายนอกของท่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาพที่แสดงส่วนของท่อที่เจาะที่เกิดขึ้นจะถูกแสดงในรูป 1. ผลิตภัณฑ์กัดกร่อนเป็นข้อสังเกตที่ด้านล่างพื้นผิวด้านนอกในบริเวณใกล้เคียงถึงขั้นนั้น แต่พื้นผิวภายในสะอาดค่อนข้าง.
นี่คือตัวอย่างต่อไปใน macrographs แสงของรูปที่ 2 แสดงให้เห็นว่าท่อได้รับการสึกกร่อนจากการทำงานร่วมกันระหว่างพื้นผิวด้านล่างและสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเหล่านั้นที่เคลือบฉนวนได้รับความเสียหาย.
รูปที่ 3 สรุป จุลภาคทั่วไปและองค์ประกอบของส่วนเสียงของท่อ ดังแสดงในภาพอิเล็กตรอนที่สองของรูปที่.
3 (ก), จุลภาคเปิดเผยโดยการแกะสลักเป็นเทียบเท่ากับที่ของ 304 สแตนเลสในสภาพอบ (Ref 10).
พลังงานที่สอดคล้องกันสเปกตรัมกระจายแสดงองค์ประกอบธาตุของท่อเป็น
แสดงในรูป 3 (ข) ที่สอดคล้องกับโลหะผสมตามระบบ Fe-Cr-Ni.
รูปที่ 3 (ค) สรุปผลการตรวจวัดองค์ประกอบทางเคมีโดย inductively คู่พลาสม่าสเปคโทรพลังงานปรมาณู (ICP-AES) ในการเปรียบเทียบกับองค์ประกอบเล็กน้อย 304 สแตนเลสตรวจสอบว่าท่อที่ผลิตตามข้อกำหนด.
สอดคล้องกับผลการดังกล่าวข้างต้นการตรวจสอบของภาคตัดขวางของท่อชี้ให้เห็นว่าหลอดผอมบางผนังที่สุดนำไปสู่การเจาะเป็นจุดเริ่มต้นจากด้านนอกพื้นผิวท่อที่แสดงให้เห็นในอิเล็กตรอนทุติยภูมิ
ภาพของรูป 4 (ก).
หลักฐานขอบเกรนแตกที่พื้นผิวด้านนอกพบว่าในบริเวณใกล้เคียงของการเจาะตามที่แสดงในรูป 4 (ข).
ในทางตรงกันข้ามมีหลักฐานดังกล่าวแตกที่พื้นผิวด้านในไม่มี (รูป. 4c) ชี้ให้เห็นว่าแตกได้ริเริ่มยังพื้นผิวด้านนอกของท่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพแสดงส่วนของท่อที่รั่วเกิดขึ้นจะแสดงในรูปที่ 1 ผลิตภัณฑ์การกัดกร่อนได้สังเกตที่ผิวด้านล่างด้านนอกบริเวณรั่ว อย่างไรก็ตาม พื้นผิวภายในค่อนข้างสะอาด
นี้จะแสดงต่อไปใน macrographs แสงของรูปที่ 2 แสดงให้เห็นว่าท่อสึกกร่อนโดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างพื้นผิวด้านล่าง และสภาพแวดล้อมรอบๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เหล่านั้นที่ฉนวนเคลือบเสียหาย .
รูปที่ 3 สรุปโครงสร้างทั่วไปและองค์ประกอบของมาตราเสียงของท่อ ตามที่แสดงในรูปของภาพอิเล็กตรอนทุติยภูมิ
3 ( )โครงสร้างจุลภาคพบโดยแกะสลักเป็นเทียบเท่ากับที่ของเหล็กกล้าไร้สนิม 304 ในอบเงื่อนไข ( อ้างอิงที่ 10 )
ที่สอดคล้องกันพลังงานกระจายตัวสเปกตรัมแสดงองค์ประกอบธาตุของท่อ
จะแสดงในรูปที่ 3 ( B ) สอดคล้องกับโลหะผสมเหล็ก CR ฉันตามระบบ
รูปที่ 3 ( C ) สรุปผลการตรวจวัดองค์ประกอบทางเคมีโดยอุปนัยคู่พลาสมาอะตอมพลังงาน spectroscopy ( เทคนิค ) ในการเปรียบเทียบกับองค์ประกอบในเหล็กกล้าไร้สนิม 304 ที่ตรวจสอบว่าท่อผลิตตามข้อกําหนด .
สอดคล้องกับผลดังกล่าวการสอบของภาคตัดขวางของท่อพบว่าผนังท่อบางจนทะลุ คือเริ่มจากด้านนอก
พื้นผิวท่อดังที่แสดงในรูปของรูปที่ 4 รองอิเล็กตรอน ( )
หลักฐานตามขอบเกรนแตกที่ผิวภายนอก พบว่าในบริเวณรั่วดังแสดงในรูปที่ 4 ( B )
ในความคมชัดมันไม่มีหลักฐาน เช่นการแตกร้าวที่ผิวด้านใน ( ภาพที่ 4C ) แนะนำว่า แตกก็เริ่มที่ผิวภายนอกของท่อ .