iiABSTRACTThe objective of this stu

ii
ABSTRACT
The objective of this study was to find out which of the three indicators i.e.
social influence, domestic responsibility and personal aspiration, is the most
influential factor contributing to the phenomenon of the glass ceiling towards
women’s career advancement in local petrochemical companies and foreign
transportation companies. The study was a combination of quantitative and
qualitative data collection. An interview was conducted with four representatives of
female white collar workers who work in different levels; staff, supervisory, manager
and director, in two local petrochemical companies and two foreign transportation
companies located in the Sathorn area. A survey was conducted, based on the oneshot
contact with the study population. The questionnaire was distributed to one
hundred female white-collar workers currently working in these companies.
The interviewing results indicated that married female white-collar workers
believed that domestic responsibility is the main obstacle towards their career
advancement while single female white-collar workers viewed social influence as the
most influential factor towards their career progression. The survey results revealed
different findings from the interview i.e. female white-collar workers who work in
these companies did not weigh any of these factors as barriers for their career
advancement. They are in fact uncertain if these assumptions contribute to the glass
ceiling phenomenon. However, among the three, personal aspiration reflected the
highest mean at 3.04 followed by domestic responsibility at 2.22 and social influence
at 1.94.
When the results were broken down into industries, it was found that 30 per
cent of female white-collar workers in petrochemical companies agreed that domestic
responsibility is a barrier towards their career. The results in transportation
companies showed that there is no significance among these three factors. However,
the demographic background of the respondents in these companies is different.
Most of the female white-collar workers in local petrochemical companies are
married while a majority of female white-collar workers are new graduates and
single.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2

บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อหาที่สามตัวชี้วัดเช่น
มีอิทธิพลต่อสังคม ความรับผิดชอบในประเทศและความทะเยอทะยานส่วนตัว เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุด
เกิดปรากฏการณ์ของเพดานแก้วต่อ
ความก้าวหน้าในอาชีพของผู้หญิงในประเทศและ บริษัท ขนส่ง บริษัท ปิโตรเคมีต่างประเทศ

การศึกษาคือการรวมกันของปริมาณและ
การเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์กับกลุ่มสี่ตัวแทนของ
หญิงสีขาวปกคนงานที่ทำงานในระดับต่าง ๆ พนักงาน หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้อำนวยการ
, สอง บริษัท ปิโตรเคมีและการขนส่งท้องถิ่นสอง
บริษัทต่างประเทศตั้งอยู่ในพื้นที่สาทร โดยการสำรวจตามวันช๊อต
ติดต่อกับประชากรศึกษาแบบสอบถามจำนวนหนึ่ง
ร้อยหญิงแรงงานปกขาวปัจจุบันทำงานใน บริษัท เหล่านี้
สัมภาษณ์พบว่าแรงงานปกขาวแต่งหญิง
เชื่อว่าความรับผิดชอบในประเทศเป็นหลัก อุปสรรคต่อความก้าวหน้าในอาชีพของตน ในขณะที่หญิงคนงานปกขาวเดียว

ดูอิทธิพลของสังคม เช่นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อความก้าวหน้าในอาชีพของพวกเขา ผลการสำรวจเปิดเผยข้อมูลจากการสัมภาษณ์
แตกต่างกันเช่นหญิงแรงงานปกขาวที่ทำงานใน บริษัท เหล่านี้ไม่ได้ชั่ง
ใด ปัจจัยเหล่านี้เป็นอุปสรรคสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพ
. พวกเขาอยู่ในความเป็นจริงไม่แน่ใจว่าสมมติฐานเหล่านี้ส่งผลให้เพดานแก้ว
ปรากฏการณ์ อย่างไรก็ตาม ระหว่างสามความทะเยอทะยานส่วนตัวสะท้อน
เฉลี่ยสูงสุดที่ 3.04 ตามความรับผิดชอบในประเทศที่ 2.22 และอิทธิพลทางสังคมที่ 1.94
.
เมื่อผลการวิจัยแบ่งออกเป็นอุตสาหกรรม พบว่า ร้อยละ 30 ต่อ
ของหญิงแรงงานปกขาวในบริษัทปิโตรเคมีเห็นว่าประเทศ
รับผิดชอบคือ อุปสรรค ต่อการทำงานของพวกเขา ผลลัพธ์ในการขนส่ง
บริษัท พบว่าไม่มีความสำคัญในหมู่เหล่านี้สามปัจจัย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภูมิหลังของกลุ่มตัวอย่าง

ใน บริษัท เหล่านี้จะแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ของแรงงานปกขาวหญิงในบริษัทปิโตรเคมีท้องถิ่น
แต่งงานในขณะที่ส่วนใหญ่ของแรงงานปกขาวหญิงเป็นบัณฑิตจบใหม่และ
โสด