The aim of the present study was to

The aim of the present study was to investigate the effect of a
14-week moderate intensity RT program on the maintenance
of BP and HGS during an extended detraining period in
older hypertensive sedentary women. Confirming the initial
hypothesis, after 14 weeks of detraining, SBP and MBP
remained statistically significant compared to pre-training
values, while the absolute HGS remained statistically significant
compared to the pre-training values. Besides, the
clinical significance demonstrated by the effect size remained
above 0.5 for the SBP, MBP, HGS, and HGS/kg. Only for
DBP was the effect small.
Although the ES is a measure of importance, it may
not be clinically relevant.34 We previously commented
that an ES above 0.5 was observed for SBP among other
variables, while a small ES was found for DBP. Despite the
low magnitude of DBP effect sizes during the detraining
period when compared to post-training, a small reduction
of 2 mmHg in the DBP and SBP could help prevent CAD
and stroke events.35,36
To the best of our knowledge, no previous study has
evaluated the effect of RT followed by a detraining period
on BP and HGS in elderly hypertensive sedentary women.
The results of the present study revealed that even after a
14-week detraining period following RT, hypertensive older
women were able to maintain the benefits on BP and muscular
strength. Recently, Moraes et al15 found a decrease of
16 mmHg in SBP of hypertensive middle-aged men after
12 weeks of RT. Moreover, the benefits of BP reduction
achieved with RT training were sustained for up to 4 weeks
without exercise. However, in contrast to the present study,
the population was middle-aged men (46±3 years), with a
shorter detraining period of 4 weeks and participants had all
antihypertensive medications gradually withdrawn. The study
by Moraes et al15 is the only one that evaluated the effects
of detraining (4 weeks) on BP in hypertensive individuals.
Despite the clinical effect found (decreased BP sustained),
the effects of RT cessation on BP without a washout period
(medication withdraw) in elderly hypertensive women were
poorly understood


The potential mechanisms underlying the reduction and
maintenance of BP following the detraining period have been
previously studied. Some proposals indicate that reduction
in peripheral vascular resistance by a decline in cardiac output,
a release of vasoactive factors, an increase in baroreflex
sensibility, and greater participation in physical activities
unrelated to RT might be involved.16
For muscular strength, although measured by hand grip,
our results are in accordance with previous results that
show elderly individuals display decreased neuromuscular
performance after a period of detraining, but retain higher
values than pre-training levels. Correa et al37 performed
a similar longitudinal protocol using elderly women that
consisted of twelve weeks of an RT program twice a week
followed by twelve weeks of detraining. The results of this
study found that strength gains were partially maintained
following the detraining period. Lovell et al38 found similar
results in older men following four weeks of detraining.
Furthermore, previous studies have shown that the muscular
strength of elderly individuals, when subjected to
RT of moderate to high intensity, can be maintained above
baseline levels during 12 to 48 weeks of detraining.16,17
Although, similar results were found for muscular strength,



it is difficult to compare the data collected in this study
with other studies because tests that involve one or more
maximum repetitions were not utilized and the intensity
control during the training period was made by participant
self-report using an RPE scale, which results in higher
intersubject variability.
The accurate measurement of muscle strength requires
expensive equipment, and the results have low applicability
when compared to simple measures of muscle strength
utilizing HGS. HGS is strongly associated with muscle power
and force of the lower limbs in older persons, and is relatively
practical, reproducible, and inexpensive.13 In addition, HGS
is considered an important predictor of functional capacity,
cardiovascular disease, cancer, mortality, dementia, and
nutritional state in elderly people.8,11,39
The present study has some limitations. According to
Lauretani et al,13 HGS is appropriate to monitor the effectiveness
of systemic treatments, both pharmacological and
nonpharmacological, aimed to improve muscular strength.
However, exercise interventions may have a more variable
impact on different muscle groups and should be monitored
with appropriate regional measures. Additionally, our analysis
was made in the absence of a control group, so flaws in the
causal relationships should be considered. Moreover, salt
intake and hydration status were not controlled, although participants
were advised to maintain their normal dietary habits
during the study. During the training period, the intensity of
RT was individually controlled by the participants utilizing an
RPE scale. This strategy may not have normalized the relative
effort in the group, because each participant has a different
interpretation of their exertion level. Furthermore, the presence
of heterogeneity in medications used by our subjects
might have introduced bias in our hemodynamic results.
Despite the limitations, our findings raise interesting
ideas for future research trials, such as the investigation
of periodization, volume, intensity, and training frequency
which may contribute to the maintenance and control of
muscular streng

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาปัจจุบันมีการ ตรวจสอบผลของการโปรแกรมความเข้มปานกลาง 14 สัปดาห์ RT ในการบำรุงรักษาBP และ HGS ในระหว่างรอบระยะเวลา detraining ในเก่า hypertensive ผู้หญิงแย่ ๆ ยืนยันการเริ่มต้นสมมติฐาน หลังจากสัปดาห์ที่ 14 ของ detraining, SBP และ MBPยังคงเปรียบเทียบกับก่อนฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติค่า ขณะ HGS แน่นอนยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับค่าฝึกอบรมล่วงหน้า สำรอง การยังคงความสำคัญทางคลินิกโดยขนาดผลด้านบน 0.5 สำหรับ SBP, MBP, HGS, HGS กิโลกรัม เฉพาะสำหรับDBP มีผลขนาดเล็กแม้ว่า ES เป็นวัดสำคัญ มันอาจทางคลินิกไม่ relevant.34 เราความเห็นก่อนหน้านี้ที่มีสังเกตการ ES เหนือ 0.5 สำหรับ SBP อื่น ๆตัวแปร ในขณะที่ ES ขนาดเล็กพบใน DBP แม้มีการขนาดต่ำขนาดผล DBP ระหว่างที่ detrainingรอบระยะเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับหลังฝึกอบรม ลดขนาดเล็กของ 2 mmHg SBP และ DBP สามารถป้องกัน CADและโรคหลอดเลือดสมอง events.35,36ส่วนความรู้ของเรา การศึกษาก่อนหน้านี้ไม่มีประเมินผลของ RT ตามด้วย detrainingBP และ HGS ในผู้หญิงแย่ ๆ hypertensive ผู้สูงอายุเปิดเผยผลการศึกษาปัจจุบันที่แม้หลังจาก14 สัปดาห์ detraining รอบต่อ RT, hypertensive เก่าผู้หญิงสามารถที่จะรักษาผลประโยชน์ใน BP และกล้ามเนื้อความแข็งแรง ล่าสุด Moraes et al15 พบการลดลงของ16 mmHg ใน SBP hypertensive วัยกลางคนหลังสัปดาห์ที่ 12 ของ RT. นอกจากนี้ ประโยชน์ของ BP ลดลงประสบความสำเร็จกับ RT ฝึกได้ยั่งยืนถึง 4 สัปดาห์โดยไม่ต้องออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม ตรงข้ามการศึกษาปัจจุบันประชากรเป็นชายวัยกลางคน (ปี 46±3), มีการระยะ detraining สั้นกว่า 4 สัปดาห์และผู้เข้าร่วมได้ทั้งหมดยาลดความดันค่อย ๆ ถอน การศึกษาโดย Moraes et al15 เป็นเพียงหนึ่งที่ประเมินผลของ detraining (4 สัปดาห์) ใน BP ในบุคคล hypertensiveแม้ มีผลทางคลินิกพบ (BP ลดลงที่ยั่งยืน),ผลกระทบของ RT ยุติใน BP ไม่ มีรอบระยะเวลาไปกวาดออก(ยาถอน) ในผู้สูงอายุ hypertensive ผู้หญิงเข้าใจงานกลไกเป็นต้นการลด และการบำรุงรักษาตามระยะ detraining BPศึกษาไว้ก่อนหน้านี้ ข้อเสนอบางอย่างบ่งชี้ที่ลดในการต้านทานของหลอดเลือดต่อพ่วงโดยลดลงผลผลิตของหัวใจปล่อยของ vasoactive ปัจจัย การเพิ่มขึ้นใน baroreflexอย่างทัน และมีส่วนร่วมมากขึ้นในกิจกรรมทางกายภาพไม่เกี่ยวข้องกับ RT อาจ involved.16สำหรับความแรงของกล้ามเนื้อ แม้ว่าวัดด้วยมือ จับผลของเราตรงกับก่อนหน้านี้ผลที่ดูที่แสดงแก่บุคคลลดกล้ามประสิทธิภาพการทำงานหลังจากช่วง detraining แต่ยังคงสูงกว่าค่ามากกว่าก่อนการฝึกอบรมระดับ ต่อ et al37 ที่ดำเนินการรโทคอระยะยาวคล้ายใช้ผู้หญิงสูงอายุที่ประกอบด้วยสิบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาของโปรแกรม RT สองสัปดาห์ตาม ด้วยสัปดาห์ที่ 12 ของ detraining ผลลัพธ์นี้การศึกษาพบว่า เก็บรักษาแรงกำไรบางส่วนต่อระยะเวลา detraining โลเวลลอด์จ et al38 พบคล้ายกันผลในผู้ชายอายุ 4 สัปดาห์ของ detraining ต่อไปนี้นอกจากนี้ การศึกษาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นที่ที่กล้ามเนื้อความแข็งแรงของบุคคลผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ภายใต้การสามารถรักษา RT ของปานกลางถึงเข้มข้นสูง ข้างต้นระดับพื้นฐานระหว่าง 12-48 สัปดาห์ของ detraining.16,17ถึงแม้ว่า พบผลลัพธ์ที่คล้ายกันสำหรับความแรงของกล้ามเนื้อเป็นการยากที่จะเปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บรวบรวมในการศึกษานี้กับการศึกษาอื่น ๆ เนื่องจากการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือมากกว่าไม่ได้ใช้การทำซ้ำสูงสุด และความเข้มทำการควบคุมในระหว่างรอบระยะเวลาการฝึกอบรม โดยผู้เข้าร่วมรายงานการใช้สเกล RPE มีผลสูงกว่าตนเองintersubject สำหรับความผันผวนต้องการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างถูกต้องอุปกรณ์ราคาแพง และผลมีความเกี่ยวข้องของต่ำเมื่อเทียบกับการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างใช้ HGS HGS จะสัมพันธ์อย่างยิ่งกับพลังกล้ามเนื้อและล่างแรงแขนขาในผู้สูงอายุ และเป็นค่อนข้างจริง จำลอง และ inexpensive.13 นอกจากนี้ HGSจะถือว่าจำนวนประตูที่สำคัญกำลังทำงานโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง การตาย สมอง เสื่อม และสภาวะทางโภชนาการในผู้สูงอายุ people.8,11,39การศึกษาปัจจุบันมีข้อจำกัดบางประการ ตามที่Lauretani et al, 13 HGS เหมาะสมที่จะตรวจสอบประสิทธิภาพระบบบำบัด ทั้ง pharmacological และnonpharmacological มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างไรก็ตาม มาตรการการออกกำลังกายอาจมีตัวแปรเพิ่มเติมส่งผลกระทบต่อกลุ่มกล้ามเนื้อต่าง ๆ และควรจะตรวจสอบมีมาตรการระดับภูมิภาคที่เหมาะสม นอกจากนี้ การวิเคราะห์ของเราทำของกลุ่มควบคุม ข้อบกพร่องอื่น ๆ ในการควรพิจารณาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ นอกจากนี้ เกลือสถานะและการไล่น้ำไม่ได้ควบคุม ถึงแม้ว่าผู้เข้าร่วมได้แนะนำให้รักษาอุปนิสัยของตนปกติในระหว่างการศึกษา ในระหว่างรอบระยะเวลาการฝึกอบรม ความเข้มของRT ถูกควบคุม โดยผู้เรียนใช้เป็นRPE สเกล กลยุทธ์นี้อาจไม่ได้ตามปกติญาติความพยายามในกลุ่ม เนื่องจากผู้เรียนแต่ละที่แตกต่างกันการตีความของระดับกำลังที่ต้องใช้ นอกจากนี้ การของ heterogeneity ในยาที่ใช้เรื่องของเราอาจมีนำอคติในผลแสดงความดันโลหิตของเราแม้ มีข้อจำกัด การค้นพบของเรายกที่น่าสนใจแนวคิดสำหรับการทดลองวิจัยในอนาคต เช่นการสอบสวนperiodization ปริมาณ ความเข้ม และความถี่ในการฝึกอบรมซึ่งอาจนำไปสู่การบำรุงรักษาและควบคุมstreng กล้ามเนื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาผลกระทบของการ
14 สัปดาห์ปานกลางเข้มโปรแกรม RT ในการบำรุงรักษา
ของความดันโลหิตและ HGS ในช่วงระยะเวลา detraining ขยายใน
ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าความดันโลหิตสูงอยู่ประจำ เริ่มต้นการยืนยัน
สมมติฐานหลังจาก 14 สัปดาห์ของการ detraining, SBP MBP และ
ยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับก่อนการฝึกอบรม
ค่าในขณะที่ยังคงอยู่แน่นอน HGS นัยสำคัญทางสถิติ
เมื่อเทียบกับค่าก่อนการฝึกอบรม นอกจากนี้ยัง
แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางคลินิกตามขนาดผลยังคงอยู่
เหนือ 0.5 สำหรับ SBP, MBP, HGS และ HGS / กก เฉพาะ
DBP เป็นผลขนาดเล็ก.
แม้ว่า ES เป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญก็อาจ
ไม่เป็นคลินิก relevant.34 เราแสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้
ที่ 0.5 ES ข้างต้นเป็นข้อสังเกตสำหรับ SBP ในหมู่อื่น ๆ
ตัวแปรในขณะที่ขนาดเล็ก ES ถูกพบ DBP แม้จะมี
ขนาดต่ำของ DBP ขนาดอิทธิพลในช่วง detraining
ระยะเวลาเมื่อเทียบกับการโพสต์การฝึกอบรมการลดขนาดเล็ก
2 มิลลิเมตรปรอทใน DBP และ SBP จะช่วยป้องกันไม่ให้ CAD
และ events.35,36 จังหวะ
ที่ดีที่สุดของความรู้ของเราไม่มีก่อนหน้านี้ การศึกษา
การประเมินผลกระทบของ RT ตามระยะเวลา detraining
ในความดันโลหิตและ HGS ในผู้หญิงสูงอายุประจำความดันโลหิตสูง.
ผลของการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้หลังจาก
ระยะเวลา detraining 14 สัปดาห์ต่อ RT, ความดันโลหิตสูงที่มีอายุมากกว่า
ผู้หญิงที่มีความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ เกี่ยวกับความดันโลหิตและกล้ามเนื้อ
มีความแข็งแรง เมื่อเร็ว ๆ นี้ Moraes et AL15 พบลดลง
16 มิลลิเมตรปรอทใน SBP ของชายวัยกลางคนความดันโลหิตสูงหลังจาก
12 สัปดาห์ RT นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการลดความดันโลหิตที่
ประสบความสำเร็จกับการฝึกอบรมได้รับ RT ไว้ได้นานถึง 4 สัปดาห์
โดยไม่ต้องออกกำลังกาย แต่ในทางตรงกันข้ามกับการศึกษาปัจจุบัน
มีประชากรที่เป็นชายวัยกลางคน (46 ± 3 ปี) โดยมี
ระยะเวลาที่สั้นกว่า detraining 4 สัปดาห์และผู้เข้าร่วมได้ทั้งหมด
ยาลดความดันโลหิตค่อยๆถอนออก การศึกษา
โดย Moraes et AL15 เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการประเมินผลกระทบ
ของ detraining (4 สัปดาห์) ใน BP ในบุคคลที่ความดันโลหิตสูง.
แม้จะมีผลกระทบทางคลินิกพบ (ลดลงความดันโลหิตอย่างยั่งยืน)
ผลกระทบจากการหยุดชะงักใน BP RT โดยไม่ต้องมีระยะเวลาการชะล้าง
(ยา ถอนตัว) ความดันโลหิตสูงในสตรีผู้สูงอายุได้รับการ
เข้าใจกลไกที่มีการลดลงและการบำรุงรักษาของ BP ต่อไประยะเวลา detraining ได้รับการศึกษาก่อนหน้านี้ บางข้อเสนอที่บ่งบอกถึงการลดความต้านทานหลอดเลือดจากการลดลงในการส่งออกการเต้นของหัวใจ, การเปิดตัวของปัจจัย vasoactive เพิ่มขึ้นใน baroreflex ความรู้สึกและการมีส่วนร่วมมากขึ้นในกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่เกี่ยวข้องกับ RT อาจจะ involved.16 สำหรับความแรงของกล้ามเนื้อแม้ว่าวัดด้วยมือ จับผลของเราเป็นไปตามผลการก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นการแสดงผลผู้สูงอายุลดลงกล้ามเนื้อประสิทธิภาพการทำงานหลังจากระยะเวลาของการ detraining แต่ยังคงมีสูงค่ากว่าระดับก่อนการฝึกอบรม กอร์ et al37 ดำเนินโปรโตคอลยาวคล้ายกันโดยใช้ผู้หญิงสูงอายุที่ประกอบด้วยสิบสองสัปดาห์ของโปรแกรม RT สัปดาห์ละสองครั้งตามด้วยสิบสองสัปดาห์ของการ detraining ผลจากการนี้การศึกษาพบว่าความแข็งแรงกำไรบางส่วนได้รับการดูแลตามระยะเวลา detraining โลเวลล์ et al38 พบคล้ายผลในผู้ชายที่มีอายุมากกว่าต่อไปนี้สี่สัปดาห์ของ detraining. นอกจากนี้การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่ากล้ามเนื้อแข็งแรงของผู้สูงอายุเมื่อยัดเยียดให้RT ปานกลางถึงความเข้มสูงสามารถรักษาเหนือระดับพื้นฐานในช่วง 12-48 สัปดาห์ที่ผ่านมา ของ detraining.16,17 แม้ว่าผลที่คล้ายกันพบว่ามีความแข็งแรงกล้ามเนื้อมันเป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบข้อมูลที่รวบรวมในการศึกษาครั้งนี้กับการศึกษาอื่น ๆ เพราะการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือมากกว่าซ้ำสูงสุดไม่ถูกนำมาใช้และความรุนแรงการควบคุมในช่วงระยะเวลาการฝึกอบรม ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้เข้าร่วมรายงานตนเองโดยใช้ขนาด RPE ซึ่งส่งผลให้สูงกว่าความแปรปรวน intersubject. วัดที่ถูกต้องของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพงและผลที่มีการบังคับใช้ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับมาตรการที่เรียบง่ายของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใช้ HGS HGS มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการใช้พลังงานของกล้ามเนื้อและแรงของแขนขาที่ต่ำกว่าในผู้สูงอายุและเป็นความจริงที่เที่ยงตรงและ inexpensive.13 นอกจากนี้ HGS ถือว่าเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่สำคัญของความสามารถในการทำงาน, โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคมะเร็งตายภาวะสมองเสื่อม และรัฐทางโภชนาการในผู้สูงอายุ people.8,11,39 การศึกษาครั้งนี้มีข้อ จำกัด บาง ตามLauretani et al, 13 HGS มีความเหมาะสมในการตรวจสอบประสิทธิภาพของการรักษาระบบทั้งทางเภสัชวิทยาและnonpharmacological มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ. อย่างไรก็ตามการแทรกแซงการออกกำลังกายอาจจะมีตัวแปรมากขึ้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มกล้ามเนื้อแตกต่างกันและควรจะตรวจสอบกับความเหมาะสมในระดับภูมิภาค มาตรการ นอกจากนี้การวิเคราะห์ของเราถูกสร้างขึ้นมาในกรณีที่ไม่มีกลุ่มควบคุมดังนั้นข้อบกพร่องในความสัมพันธ์เชิงสาเหตุควรได้รับการพิจารณา นอกจากนี้เกลือบริโภคและสถานะความชุ่มชื้นไม่ได้ถูกควบคุมแม้ว่าผู้เข้าร่วมได้รับคำแนะนำในการรักษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารของพวกเขาตามปกติในระหว่างการศึกษา ในช่วงระยะเวลาการฝึกอบรมเข้มของRT ถูกควบคุมเป็นรายบุคคลโดยผู้เข้าร่วมใช้ขนาด RPE กลยุทธ์นี้อาจจะไม่ได้ปกติญาติพยายามในกลุ่มเพราะผู้เข้าร่วมแต่ละคนมีความแตกต่างกันความหมายของระดับการออกแรงของพวกเขา นอกจากนี้การปรากฏตัวของเซลล์สืบพันธุ์ในยาที่ใช้โดยวิชาของเราอาจจะมีการแนะนำให้รู้จักกับอคติในผลการไหลเวียนโลหิตของเรา. แม้จะมีข้อ จำกัด ในการค้นพบที่น่าสนใจของเราระดมความคิดในการทดลองวิจัยในอนาคตเช่นการตรวจสอบของ periodization ปริมาณความเข้มและความถี่ในการฝึกอบรมที่ อาจนำไปสู่การบำรุงรักษาและการควบคุมของstreng กล้ามเนื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาผลของความเข้มปานกลางครับ
14 สัปดาห์โปรแกรมการบำรุงรักษา
ของ BP และ HGS ในระหว่างการขยายระยะเวลาใน detraining
แก่ความดันโลหิตสูง ออกกำลังกายผู้หญิง ยืนยันสมมติฐานเบื้องต้น
หลังจาก 14 สัปดาห์ และ detraining SBP , MBP
ยังคงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับก่อนฝึก
ค่าในขณะที่ HGS แน่นอนยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเทียบกับการฝึกอบรมก่อนค่า นอกจากนี้ ทางคลินิกแสดงให้เห็นผล

ขนาดยังคงเหนือ 0.5 สำหรับ SBP MBP , HGS และ HGS กิโลกรัม แต่เมื่อได้รับผลกระทบเล็ก ๆ
.
แม้ว่าและเป็นวัดสำคัญ มันอาจจะไม่เข้า relevant.34 เรา

ว่าก่อนหน้านี้เห็น ES เหนือ 05 ) เงินเดือนระหว่างตัวแปรอื่น
ในขณะที่ขนาดเล็กและพบ DBP . แม้จะมีขนาดของค่าขนาดอิทธิพลต่ำ

detraining DBP ในช่วงระยะเวลาเมื่อเทียบกับหลังการฝึกอบรม , การลดขนาดเล็ก
2 มิลลิเมตรปรอทใน DBP SBP และอาจช่วยป้องกันโรคและ 35,36

กิจกรรมจังหวะเพื่อที่ดีที่สุดของความรู้ของเรา ไม่มีการศึกษาก่อนหน้ามี
ประเมินผลของ RT ตาม detraining ระยะเวลา
ใน BP และ HGS ในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มผู้หญิง
ผลการศึกษาพบว่าแม้หลังจาก
14 สัปดาห์ detraining ระยะเวลาต่อไปนี้ RT , ความดันโลหิตสูงเก่า
ผู้หญิงสามารถที่จะรักษาประโยชน์ใน BP และผึ่ง
ความแข็งแรง เมื่อเร็วๆ นี้ al15 มอเรียนและพบการลดลงของ
16 มิลลิเมตรปรอทในเงินเดือนของความดันโลหิตสูงที่ชายวัยกลางคนหลังจาก
12 สัปดาห์ของ RT . นอกจากนี้ประโยชน์ของการลดความดันโลหิต
ได้รับการฝึกอบรม RT ถูกรักษาถึง 4 สัปดาห์
โดยไม่ต้องออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้ามกับการศึกษา
ประชากรวัยกลางคน ( 46 ± 3 ปี ) กับ
สั้น detraining ระยะเวลา 4 สัปดาห์และผู้เข้าร่วมทั้งหมด
ความดันโลหิตสูงโรคค่อยๆถอนออก การศึกษา
โดย มอเรียนและ al15 เท่านั้นที่จะประเมินผล
ของ detraining ( 4 สัปดาห์ ) ใน BP ในบุคคลที่โรคความดันโลหิตสูง
แม้จะมีผลทางคลินิกที่พบ ( ลดลง BP ยั่งยืน )
ผลของการ RT ใน BP โดยโดยเว้นระยะเวลา
( ยาถอน ) ในผู้หญิงโรคความดันโลหิตสูงได้



ไม่ค่อยเข้าใจศักยภาพกลไกพื้นฐานและการบำรุงรักษาของ BP ลด
ต่อไปนี้ การ detraining ระยะเวลาได้รับ
ศึกษาก่อนหน้านี้ .ข้อเสนอบางอย่างบ่งชี้ว่า การลดความต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย
จากการลดลงของผลผลิตของหัวใจ
ปล่อยปัจจัยของกาย การเพิ่ม baroreflex
ความรู้สึกและการมีส่วนร่วมมากขึ้นในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางกายภาพ

16 RT อาจเกี่ยวข้อง เพื่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่วัดด้วยการจับมือ
ผลลัพธ์ของเรา สอดคล้องกับ
ผลก่อนหน้านี้ที่แสดงแก่บุคคลและแสดงประสิทธิภาพลดลง
หลังจากระยะเวลาของ detraining แต่เก็บค่าสูงกว่า
กว่าก่อนการฝึกอบรมระดับ . Correa et al37 ปฏิบัติ
คล้ายกันตามยาวโปรโตคอลใช้ผู้สูงอายุหญิงที่
ประกอบด้วย 12 สัปดาห์ของ RT โปรแกรมสองสัปดาห์
ตามด้วยสิบสองสัปดาห์ของ detraining . ผลของสิ่งนี้
การศึกษาพบว่ายังคงได้รับแรง detraining บางส่วน
ตามระยะเวลา al38 โลเวลล์และพบผลลัพธ์ที่คล้ายกัน
ในชายสูงอายุต่อไปนี้สี่สัปดาห์ของ detraining .
นอกจากนี้ การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งผึ่ง
ของผู้สูงอายุ เมื่อถูก
RT ของปานกลางถึงความเข้มสูงสามารถรักษาข้างต้น
พื้นฐานระดับในระหว่าง 12 ถึง 48 สัปดาห์ detraining .อันเป็น
ถึงแม้ว่าผลที่คล้ายกันคือ พบว่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ



มันเป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบข้อมูลในปีการศึกษานี้
กับการศึกษาอื่น ๆ เพราะการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่ง
สูงสุด repetitions ไม่ได้ใช้ความรุนแรง
ควบคุมในระหว่างระยะเวลาการฝึกอบรมได้โดยผู้เข้าร่วม
5 ใช้บ่งชี้ขนาด ซึ่งผลในการ intersubject สูง

การวัดที่ถูกต้องของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้องใช้
อุปกรณ์ราคาแพง และผลลัพธ์ได้
ความเกี่ยวข้องน้อยเมื่อเทียบกับมาตรการที่เรียบง่ายของการใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
HGS . HGS เกี่ยวข้องอย่างมากกับ
พลังกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของแขนขาลดลงในผู้สูงอายุ และค่อนข้าง
ปฏิบัติ ) และ inexpensive.13 นอกจากนี้ HGS
ถือเป็นตัวแปรสำคัญของความจุของการทำงาน ,
โรค มะเร็ง อัตราการตาย เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดและรัฐ
โภชนาการผู้สูงอายุ 8,11,39
ปัจจุบันการศึกษามีข้อจำกัด ตาม
lauretani et al , 13 HGS เหมาะสมเพื่อตรวจสอบประสิทธิผลของการรักษาทางเภสัชวิทยา

nonpharmacological ทั้งสองและมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ .
อย่างไรก็ตาม