Chest physiotherapies for cystic fi

Chest physiotherapies for cystic fibrosis, acute bronchiolitis and
patients undergoing mechanical ventilation have been reviewedFlenady 2010; Roqué i Figuls 2012; Van der Schans 2009).However,
the clinical effectiveness of chest physiotherapy for pneumonia
is controversial. Some clinical studies have concluded that
chest physiotherapy did not hasten the resolution of pneumonia
(Graham 1978) or was not useful (Britton 1983; Britton
1985). Two studies suggested that larger or multi-centre trials
were needed to confirm the findings (Ntoumenopoulos 2002;
Tydeman 1989). Others concluded that chest physiotherapy had
beneficial effects in patients with pulmonary infection (Hanying
2005). However, chest physiotherapy may be ineffective and
even harmful. It may cause an increase in oxygen consumption
(Horiuchi 1997; Weissman 1991; Weissman 1993), bronchospasm
(Campbell 1975), induce hypertension, increase oxygen
demand (Horiuchi 1997;Weissman 1993), cause hypoxaemia
(Connors 1980; Poelaert 1991) and even lead to rib fractures
(Chalumeau 2002).
To our knowledge, no systematic review or meta-analysis of chest
physiotherapy for pneumonia has been published. This review
aims to systematically review all randomised controlled trials
(RCTs) which examine the effectiveness of chest physiotherapy for
pneumonia in adults.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

physiotherapies หน้าอกโรคปอดเรื้อรังหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันและ
ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจได้รับ reviewedFlenady 2010; Roque ฉัน Figuls 2012; แวนเดอร์ Schans 2009) อย่างไรก็ตาม
ประสิทธิภาพทางคลินิกกายภาพบำบัดหน้าอกโรคปอดบวม
คือการโต้เถียง บางการศึกษาทางคลินิกได้ข้อสรุปว่า
กายภาพบำบัดหน้าอกไม่ได้เร่งความละเอียดของโรคปอดบวม
(เกรแฮม 1978) หรือไม่ได้ประโยชน์ (บริท 1983; บริท
1985) สองการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการทดลองขนาดใหญ่หรือศูนย์หลาย
เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อยืนยันการค้นพบ (Ntoumenopoulos 2002;
Tydeman 1989) อื่น ๆ ได้ข้อสรุปว่ากายภาพบำบัดหน้าอกมี
ผลประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในปอด (Hanying
2005) อย่างไรก็ตามกายภาพบำบัดหน้าอกอาจจะไม่ได้ผลและ
เป็นอันตรายได้ มันอาจจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการใช้ออกซิเจน
(Horiuchi 1997; Weissman 1991; Weissman 1993), หลอดลม
(แคมป์เบล 1975) กระตุ้นให้ความดันโลหิตสูงเพิ่มออกซิเจน
ความต้องการ (Horiuchi 1997; Weissman 1993) สาเหตุ hypoxaemia
(คอนเนอร์ 1980; Poelaert 1991) และแม้กระทั่ง นำไปสู่การเกิดกระดูกหักกระดูกซี่โครง
(Chalumeau 2002).
เพื่อความรู้ของเราไม่มีระบบตรวจสอบหรือวิเคราะห์ข้อมูลของหน้าอก
กายภาพบำบัดสำหรับโรคปอดบวมได้รับการตีพิมพ์ ตรวจสอบนี้
มีเป้าหมายที่จะเป็นระบบตรวจสอบการควบคุมการทดลองสุ่มทั้งหมด
(RCTs) ซึ่งตรวจสอบประสิทธิผลของการกายภาพบำบัดหน้าอก
โรคปอดอักเสบในผู้ใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หน้าอก physiotherapies สำหรับ Cystic Fibrosis หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันและ
, ผู้ป่วยผ่าตัดเครื่องช่วยหายใจได้ reviewedflenady 2010 roqu ) ผม figuls 2012 ; ฟาน เดอร์ schans 2009 ) อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลทางคลินิกของการทำกายภาพบำบัดทรวงอก

สำหรับโรคปอดบวมจะขัดแย้ง บางการศึกษาทางคลินิกได้สรุปว่า
กายภาพบำบัดทรวงอกไม่เร่งความละเอียดของโรคปอดบวม
( เกรแฮม 1978 ) หรือเป็นประโยชน์ ( บริทบริท ค.ศ. 1983 ;
) สองการศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีขนาดใหญ่หรือหลายศูนย์การทดลอง
ถูกต้องเพื่อยืนยันการค้นพบ ( ntoumenopoulos 2002 ;
tydeman 1989 ) คนอื่น ๆพบว่า กายภาพบำบัดทรวงอกได้ผลประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อที่ปอด ( hanying
2005 ) อย่างไรก็ตาม กายภาพบำบัดทรวงอกอาจจะไม่ได้ผลและ
แม้จะเป็นอันตรายมันอาจจะทำให้มีการเพิ่มปริมาณการใช้ออกซิเจน (
โฮริ ชิ 1997 ; Weissman 1991 ; Weissman ( 1993 ) , ร้านขายหนังสือ
- 1975 ) ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความต้องการออกซิเจน
( โฮริ ชิ 1997 ; Weissman 2536 ) เพราะ hypoxaemia
( Connors 1980 ; poelaert 1991 ) และยังทำให้ซี่โครงหัก
( ชาลูโม 2002 )
ความรู้ ไม่มีระบบตรวจสอบหรือการวิเคราะห์อภิมานอก
กายภาพบำบัดสำหรับโรคปอดบวมที่ได้รับการตีพิมพ์ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวน
อย่างเป็นระบบทบทวนการทดลองควบคุม Randomised
( RCTs ) ซึ่งศึกษาถึงประสิทธิผลของการทำกายภาพบำบัดทรวงอกสำหรับ
โรคปอดบวมในผู้ใหญ่