After the VI century, with the Empi

After the VI century, with the Empire's decline, the Colosseum fell into disuse and its walls housed confraternities, hospitals, hermits and even a cemetery. From the Middle Ages onwards, the Colosseum has been one of Rome's and the world's greatest marvels, attracting hoards of visitors.

Threatened with demolition by Sixtus V for town-planning reasons, it was declared a sacred monument dedicated to the Passion of Christ by Benedict XIV, placing a cross on a pedestal, as a symbol of the sufferings of all Christian martyrs. This cross is still the starting point for the Stations of the Cross on Good Friday. Since then, it has become an object of worship for Christians and was protected from further destruction and ruin; in fact, Popes after that restored and consolidated it.

For a tourist today, seeing the Colosseum means, as Charles Dickens wrote, "seeing the ghost of old Rome floating over the places its people walk in".

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากศตวรรษ VI กับการปฏิเสธของจักรวรรดิ โคลอสเซียมตกลงไปใน disuse และกำแพงเอน confraternities โรงพยาบาล hermits และแม้แต่สุสาน จากยุคกลางเป็นต้นไป โคลอสเซียมได้รับหนึ่งของโรมและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสา ดึงดูดผู้เข้าชมภัตตาคารถูกคุกคาม ด้วยการรื้อถอน โดย Sixtus V สาเหตุวางแผนเมือง มันถูกประกาศอนุสาวรีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุ่มเทเพื่อความรักของพระคริสต์ โดยเบเนดิกต์ XIV วางกากบาทบนเชิงการ เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ของอนุสรณ์ผู้เสียสละคริสเตียนทั้งหมด ระหว่างนี้ยังคงเป็นสถานีของการข้ามจุดเริ่มต้นในวันศุกร์ดี หลังจากนั้น มันได้กลายเป็น วัตถุบูชาคริสเตียน และได้รับการป้องกันเพิ่มเติมทำลายและทำลาย ในความเป็นจริง พระสันตะปาปาหลังจากที่คืนค่า และรวมมันสำหรับนักท่องเที่ยว วันนี้ ดูวิธีการโคลอสเซียม เป็นชาร์ลส์ดิคเก้นเขียน "การเห็นผีของโรมที่ลอยผ่านสถานการเดินของคนใน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากศตวรรษที่หกกับการลดลงของจักรวรรดิ, โคลีเซียมลดลงไปใช้และผนังตั้ง confraternities โรงพยาบาลฤาษีและแม้กระทั่งสุสาน จากยุคกลางเป็นต้นไปโคลีเซียมได้รับหนึ่งในกรุงโรมและมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกดึงดูด hoards ของผู้เข้าชม. ถูกคุกคามด้วยการรื้อถอนโดย Sixtus V สำหรับเหตุผลที่การวางแผนเมืองมันถูกประกาศให้เป็นอนุสาวรีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุ่มเทให้กับความรักของพระเยซูคริสต์โดยเบเนดิกต์ สิบสี่วางไม้กางเขนบนแท่นเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ยากของโรคคริสเตียนทั้งหมด ข้ามนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสถานีแห่งกางเขนในวันศุกร์ดี ตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นวัตถุบูชาสำหรับชาวคริสต์และได้รับการคุ้มครองจากการถูกทำลายต่อไปและทำลาย; ในความเป็นจริงหลังจากนั้นพระสันตะปาปาบูรณะและรวมมัน. สำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้เห็นโคลีเซียมหมายความว่าชาร์ลส์ดิคเก้นเขียน "เห็นผีของกรุงโรมเก่าลอยอยู่เหนือสถานที่ที่ผู้คนที่เดินไปใน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากศตวรรษที่ 6 กับการลดลงของจักรวรรดิ , เลิกและผนังของโคลอสเซียม ตกไปอยู่ confraternities , โรงพยาบาล , ฤๅษีแม้แต่สุสานและ ตั้งแต่ยุคกลางเป็นต้นมา โคลอสเซียมได้รับหนึ่งของกรุงโรมและ marvels ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกดึงดูด hoards ของผู้เข้าชม

ถูกคุกคามด้วยการรื้อถอนโดยซิกส์ตุสที่เมืองเหตุผลวางแผนมันถูกประกาศให้เป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ทุ่มเทเพื่อความรักของพระคริสต์โดยเบเนดิกต์ที่วางไม้กางเขนบนแท่น เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ของ Martyrs คริสเตียนทั้งหมด กางเขนนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสถานีของ Cross ในวันศุกร์ ตั้งแต่นั้นมันได้กลายเป็นวัตถุของการเคารพบูชาคริสเตียนและได้รับการคุ้มครองจากการทำลายและทำลายต่อไป ในความเป็นจริงพระสันตะปาปาหลังจากการบูรณะและรวมมัน

สำหรับนักท่องเที่ยววันนี้เห็นโคลอสเซียม หมายความว่า เป็น ชาร์ลส์ ดิคเก้นส์ เขียนไว้ว่า " เห็นผีของกรุงโรมเก่าลอยอยู่เหนือสถานที่ที่ผู้คนเดินใน
"