Asymmetric information in the workp

Asymmetric information in the workplace is associated with moral hazard problems since individuals
are assumed to act in their own self-interest (Baiman, 1982; Holstrum, 1979). Owners are unable to
perfectly observe individuals’ actions and thus cannot contract on the basis of those actions (Holstrum,
1979). Instead, owners must monitor and control individuals’ actions by collecting appropriate information
in an attempt to align objectives between parties. The informativeness principle suggests that
principles, when designing executive compensation, will include non-financial measures if they provide
information beyond that provided by traditional financial accounting measures. This is consistent with
Holstrum (1979) who analytically demonstrates that an optimal contract can include multiple measures,
regardless of the measure’s noise, as long as each measure provides incremental information.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูล asymmetric ในทำงานที่สัมพันธ์กับปัญหาศีลธรรมอันตรายตั้งแต่บุคคล
จะดำเนินการในตัวเอง self-interest (Baiman, 1982 Holstrum, 1979) เจ้าของไม่สามารถ
สมบูรณ์สังเกตการกระทำของบุคคล และจึง ไม่สามารถสัญญาตามการกระทำเหล่านั้น (Holstrum,
1979) แทน เจ้าของต้องตรวจสอบ และควบคุมการกระทำของบุคคล โดยการรวบรวมข้อมูลที่เหมาะสม
ในความพยายามที่จะจัดตำแหน่งวัตถุประสงค์ระหว่างฝ่าย แนะนำหลัก informativeness ที่
หลัก เมื่อค่าตอบแทนผู้บริหาร การออกแบบจะรวมมาตรการการให้
ข้อมูลนอกเหนือจากนั้นโดยมาตรการบัญชีทางการเงินแบบดั้งเดิม โดยสอดคล้องกับ
Holstrum (1979) ที่ analytically แสดงให้เห็นว่า สัญญาที่เหมาะสมสามารถรวมหลายมาตรการ,
โดยไม่คำนึงถึงของการวัดเสียง ตราบใดที่แต่ละวัดให้ข้อมูลเพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลที่ไม่สมดุลในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาศีลธรรมเสี่ยงตั้งแต่บุคคลที่
จะถือว่าทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจของตนเอง (Baiman 1982; Holstrum, 1979) เจ้าของไม่สามารถที่จะ
สมบูรณ์แบบสังเกตการกระทำของประชาชนจึงไม่สามารถทำสัญญาบนพื้นฐานของการกระทำเหล่านั้น (Holstrum,
1979) แต่เจ้าของจะต้องตรวจสอบและควบคุมการกระทำของแต่ละบุคคลโดยการจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสม
ในความพยายามที่จะปรับวัตถุประสงค์ระหว่างคู่สัญญา หลักการ informativeness แสดงให้เห็นว่า
หลักการเมื่อมีการออกแบบการบริหารค่าตอบแทนจะรวมถึงมาตรการที่ไม่ใช่ทางการเงินถ้าพวกเขาให้
ข้อมูลนอกเหนือจากที่ระบุไว้ตามมาตรการบัญชีแบบดั้งเดิมการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับ
Holstrum (1979) ที่วิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าสัญญาที่ดีที่สุดที่สามารถรวมถึงมาตรการหลาย
โดยไม่คำนึงถึงเสียงของวัดตราบใดที่แต่ละมาตรการให้ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อสมมาตรสารสนเทศในที่ทำงานเกี่ยวข้องกับปัญหาภาวะภัยทางศีลธรรมเนื่องจากบุคคล
จะสมมติให้ กระทำในประโยชน์ของตนเอง ( ไบมัง , 1982 ; holstrum , 1979 ) เจ้าของไม่สามารถสังเกตการกระทำของบุคคล
สมบูรณ์และดังนั้นจึงไม่สามารถสัญญาบนพื้นฐานของการกระทำเหล่านั้น ( holstrum
, 1979 ) แทนเจ้าของจะต้องตรวจสอบและควบคุมการกระทำของบุคคล โดยการรวบรวม
ข้อมูลที่เหมาะสมในการพยายามที่จะจัดวัตถุประสงค์ระหว่างทั้งสองฝ่าย มีสารประโยชน์หลักการบ่งบอกว่า
หลักการ เมื่อออกแบบค่าตอบแทนผู้บริหาร , จะรวมถึงมาตรการทางการเงินหากพวกเขาให้
ข้อมูลเกิน โดยมาตรการบัญชีแบบดั้งเดิม ซึ่งสอดคล้องกับ
holstrum ( 1979 ) ที่วิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าสัญญาที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการหลาย
โดยไม่คำนึงถึงเสียงของวัด ตราบใดที่แต่ละวัดให้ข้อมูลเพิ่ม .