CMost cancer patients combine CAM (

CMost cancer patients combine CAM (herbal remedies) with conventional therapy in the hope of boosting the effect of conventional medicine [22,27]. A study of women being treated for early stage breast cancer showed that 10.6% had been using one or more CAM at the time of diagnosis, while an additional 28.1%began using CAM (including herbal remedies) after surgery [11]. Similarly a multinational survey found that 35.9% of cancer patients were either past or present users of complementary and alternative medicine. Herbal medicines were by far the most commonly used group of treatments, escalating in use from 5.3% before the diagnosis of cancer to 13.9% after the diagnosis of cancer [24].

Generally, herbal products are utilized for two reasons, first, to lessen symptoms of disease and second to prevent sickness. Examples include palliative use of St. John’s Wort (Hypericum perforatum) for relief of acute depression, the use of Ginkgo biloba for enhancement in perception/understanding and the use of Echinacea for improving cold symptoms [28]. In the second circumstance, herbal supplements are taken especially in the anticipation of averting disease or modifying the effects of threat for certain illnesses. Such as intake of green tea and other ?avonoid rich botanicals to yield benefit of the natural antioxidants in them and the consumption of garlic because of the high organo-sulfur compounds that have been experimentally proven to prevent cancer in animals [28].

In the domain of cancer prevention, herbs may performance through numerous mechanisms to shield the body. Initiation of phase I and phase II metabolic enzymes by herbal supplements is quite typical and maybe liable for some of this action [28]. These phase I and II enzymes provide major protection against carcinogenesis, mutagenesis, and other forms of toxicity mediated by carcinogens through initiation of their metabolism, particularly phase 2 enzymes such as glutathione S-transferases (GSTs), UDP-glucuronosyl transferases, and quinone reductases [29]. Taking example of garlic, its intake and supplement use is prevalent in both, Eastern and Western cultures [30]. Garlic along with numerous other organo-sulfur compounds derived from garlic demonstrate robust chemo-preventive action against experimentally induced cancers of the mammary gland as well as esophagus, stomach, colon, liver and lungs [28]. Initiation of phase I and phase II enzymes, nonetheless, can result in a likely significant side effect of herbal products. Such as St. John’s Wort that is extensively utilized, has been shown to encourage the CYP3A family of activation enzymes, through which half of current medications are also metabolized, hence offering the likelihood of herb-drug interactions [28].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ป่วยโรคมะเร็ง CMost รวม CAM (สมุนไพรเยียวยา) ด้วยการรักษาทั่วไปในหวังของการเพิ่มผลของยาทั่วไป [22,27] การศึกษาของผู้หญิงที่ได้รับการรักษาในมะเร็งเต้านมระยะแรกพบว่า 10.6% มีการใช้ CAM อย่าง น้อยหนึ่งในการวินิจฉัย ในขณะที่ 28.1%began เพิ่มเติมการใช้ CAM (รวมทั้งสมุนไพรเยียวยา) หลังการผ่าตัด [11] ในทำนองเดียวกัน การสำรวจชาติพบว่า 35.9% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งมีผู้ผ่านมา หรือปัจจุบันการแพทย์เสริม และทางเลือก ยาสมุนไพรได้โดยการใช้กลุ่มการรักษา ดังใช้จาก 5.3% ก่อนการวินิจฉัยโรคมะเร็ง 13.9% หลังจากการวินิจฉัยโรคมะเร็ง [24] ทั่วไป ผลิตภัณฑ์สมุนไพรถูกนำมาใช้ด้วยเหตุผลสองประการ ครั้งแรก เพื่อลดอาการของโรค และประการที่สอง เพื่อป้องกันโรค ตัวอย่างเช่นใช้ palliative Wort เซนต์จอห์น (Hypericum perforatum) สำหรับบรรเทาโรคซึมเศร้าเฉียบพลัน การใช้แปะก๊วยสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้/ความเข้าใจและการใช้เอ็กไคนาเซียสำหรับอาการเย็น [28] ในสถานการณ์ที่สอง อาหารเสริมสมุนไพรถูกนำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในความคาดหมายของ averting โรค หรือปรับเปลี่ยนผลกระทบของภัยคุกคามสำหรับบางโรค เช่นการบริโภคชาเขียวและอื่น ๆ ? avonoid botanicals รวยให้ผลประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติได้และปริมาณของกระเทียม เพราะสารประกอบกำมะถันชำนาญสูงที่ได้รับการพิสูจน์ experimentally เพื่อป้องกันมะเร็งในสัตว์ [28]ในโดเมนของการป้องกันโรคมะเร็ง สมุนไพรอาจประสิทธิภาพการทำงานผ่านกลไกต่าง ๆ เพื่อป้องกันตัว ระยะเริ่มต้นของฉัน และเอนไซม์เผาผลาญ II ระยะ โดยอาหารเสริมสมุนไพรค่อนข้างปกติ และอาจจะรับผิดชอบสำหรับการดำเนินการนี้ [28] ระยะนี้ฉันและเอนไซม์ II ป้องกันสำคัญ carcinogenesis, mutagenesis และแบบฟอร์มอื่น ๆ ของ mediated โดยสารก่อมะเร็งผ่านเริ่มต้นของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นพิษระยะเอนไซม์ 2 เช่นไธ S transferases (GSTs), UDP glucuronosyl transferases และ reductases quinone [29] ตัวอย่างการกระเทียม ใช้บริโภคและอาหารเสริมเป็นแพร่หลายในทั้ง ตะวันออกและตะวันตกวัฒนธรรม [30] กระเทียมกับสารประกอบกำมะถันชำนาญมากมายอื่น ๆ มาจากกระเทียมสาธิตประสิทธิภาพ chemo ป้องกันกระทำกับมะเร็งอาจ experimentally ของต่อมน้ำนมรวมทั้งหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ตับ และปอด [28] ระยะเริ่มต้นของฉัน และเอนไซม์เฟสทู กระนั้น สามารถทำให้ผลข้างเคียงสำคัญมีแนวโน้มของผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่นเซนต์จอห์น Wort ที่ใช้อย่างกว้างขวาง ได้รับการแสดงเพื่อส่งเสริมให้ครอบครัว CYP3A เปิดใช้งานเอนไซม์ ซึ่งครึ่งหนึ่งของยาปัจจุบันจะยัง metabolized ดังนั้นจึงของสมุนไพรยาโต้ [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ป่วยโรคมะเร็ง CMost รวม CAM (สมุนไพร) กับการรักษาแบบดั้งเดิมในความหวังของการส่งเสริมผลของยาทั่วไป [22,27] การศึกษาของผู้หญิงที่ได้รับการรักษาโรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นแสดงให้เห็นว่า 10.6% เคยใช้หนึ่งหรือ CAM มากขึ้นในเวลาของการวินิจฉัยในขณะที่อีก 28.1% เริ่มใช้ CAM (รวมทั้งสมุนไพร) หลังการผ่าตัด [11] ในทำนองเดียวกันการสำรวจข้ามชาติพบว่า 35.9% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งมีทั้งผู้ใช้ในอดีตหรือปัจจุบันของแพทย์ทางเลือก ยาสมุนไพรได้ไกลโดยที่กลุ่มที่ใช้บ่อยที่สุดของการรักษาที่เพิ่มขึ้นในการใช้งานจาก 5.3% ก่อนที่จะวินิจฉัยโรคมะเร็ง 13.9% หลังการวินิจฉัยของโรคมะเร็ง [24]. โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้ด้วยเหตุผลสองประการแรกที่จะช่วยลด อาการของโรคและครั้งที่สองเพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย ตัวอย่างเช่นการใช้งานแบบประคับประคองของสาโทเซนต์จอห์น (Hypericum perforatum) เพื่อบรรเทาอาการของภาวะซึมเศร้าเฉียบพลันใช้แปะก๊วย biloba สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้ความเข้าใจ / และการใช้ Echinacea สำหรับการปรับปรุงอาการเย็น [28] ในกรณีที่สองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรที่นำมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในความคาดหมายของการป้องกันโรคหรือแก้ไขผลกระทบของภัยคุกคามสำหรับการเจ็บป่วยบางอย่าง เช่นการบริโภคชาเขียวและอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยพืช avonoid เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติในพวกเขาและการบริโภคกระเทียมเพราะสารอินทรีย์กำมะถันสูงที่ได้รับการพิสูจน์ทดลองเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งในสัตว์ [28]. ใน โดเมนของการป้องกันโรคมะเร็ง, สมุนไพรอาจประสิทธิภาพการทำงานผ่านกลไกต่าง ๆ นานาเพื่อป้องกันร่างกาย การเริ่มต้นของเฟสและเฟสที่สองเอนไซม์การเผาผลาญโดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรค่อนข้างปกติและอาจจะต้องรับผิดสำหรับบางส่วนของการกระทำนี้ [28] ขั้นตอนเหล่านี้ I และ II เอนไซม์ให้การป้องกันที่สำคัญกับการเกิดมะเร็ง, ฉับและรูปแบบอื่น ๆ ของความเป็นพิษสารก่อมะเร็งไกล่เกลี่ยโดยผ่านการเริ่มต้นของการเผาผลาญอาหารของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟส 2 เอนไซม์กลูตาไธโอนเช่น S-ราน (GSTs) ราน UDP-glucuronosyl และ reductases quinone [29] ตัวอย่างเช่นการใช้ของกระเทียม, การบริโภคและการใช้อาหารเสริมที่เป็นที่แพร่หลายทั้งในวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก [30] กระเทียมจำนวนมากพร้อมกับสารอินทรีย์กำมะถันอื่น ๆ ที่ได้มาจากการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงกระเทียมคีโมป้องกันที่แข็งแกร่งกับการเกิดโรคมะเร็งเหนี่ยวนำให้เกิดการทดลองของต่อมน้ำนมเช่นเดียวกับหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้ตับและปอด [28] การเริ่มต้นของเฟสและเฟสที่สองเอนไซม์กระนั้นอาจส่งผลให้แนวโน้มผลข้างเคียงที่สำคัญของผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่นสาโทเซนต์จอห์นที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางได้รับการแสดงเพื่อส่งเสริมให้ครอบครัว CYP3A ของเอนไซม์ยืนยันการใช้งานผ่านที่ครึ่งหนึ่งของยาในปัจจุบันจะยังเผาผลาญจึงนำเสนอโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์สมุนไพรยาเสพติด [28]