Scientific evidence suggests that h

Scientific evidence suggests that humans have a biological desire to help others, including strangers. Altruistic behavior towards strangers is uniquely human and observed at a very young age. Dr. Felix ken and Dr. Michael Tomasello Germany's Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology have shown that children as young as 18 months want to help strangers. When their 18-month-old subjects saw a stranger throw a pencil on the floor, none of them picked it up. However, when the same subjects saw someone"accidentally" drop a pencil, nearly all the children picked it up in the first ten seconds. Says Dr. Warneken, "The results were astonishing because these children are so young. They still wear diapers and are barely able to use language, but they already show helping behavior." Because altruistic behavior. appears in ehildren so young, Dr. Warneken and other scientists hypothesize that the human brain is designed to be altruistic.

Mirror Neurons
By using brain scans, neuroscientists are making new discoveries about the biology of the human brain. The recent discovery of mirror neurons in humans leads to scientists' belief that the brain can influence altruistic behavior. Mirror neurons are ordinary brain cells located throughout the brain. They"light up" when a person is performing an action or observing someoneelse doing a similar action. Mirror neurons make us cry when we see someone else cry or smile when someone smiles at us. our mirror neurons actually feel what they feel. They cry and smile along with them.

How, then, can mirror neurons bring about altruistic behavior? By helping us feel what others feel, mirror neurons naturally make us feel compassionate. They allow us to put ourselves in someone else's situation; without them, we would not understand or care about other people's emotions. Would we help hurricane victims? Give moneyto the poor? Save lives? Probably not, says Marco Iacoboni, a leading neuroscientist"We are good because our biology drives us to be good." In other words, mirror neurons seem to prepare us to be altruistic.

Neuroeconomics
Neuroeconomist Bill Harbaugh and his team at the University of Oregon study the biology of altruism. They look specifically at neuroeconomics, or the connection between the brain and economic decisions. In one of their experiments, the researchers tried seeing if people's donations to charity were affected by neurons. Nineteen women were given $100 to play a charity game on the computer. They could choose to donate or not to a charity, each decision leading to other situations where they could gain or lose money. At the end of the game the subjects were able to keep all the money that was left in their accounts.

As the subjects played the game, the scientists scanned their brains. They looked at the brain's"pleasure center," which controls how good people feel. When most subjects donated money to a charity, their pleasure centers lit up on the brain scan. Some even lit up when the subjects were taxed on their donation. Both results suggest that the brain's pleasure center is rewarded for altruistic acts. In addition, the more people donated, the more their pleasure centers lit up. For some, the pleasure center lit up more when the computer gave the charity extra moneythan when they received extra money keep for themselves. The scientists point out that this was"the first neural evidence for... pure altruism," meaning that altruism may indeed have a biological connection.

Unanswered Questions
Why would our brains be biologically prepared to help others? What benefit does it have for each of us and for human beings as a whole? One popular scientific theory suggests that being natural helpers improves our chances of survival. Humans are social creatures, dependent on family, friends, governments, and strangers. Babies need food to survive, but they also need someone there to feed them. Larger social groups also rely on our help, such as when we pay taxes or donate money to charities. Without a"helping brain," humans would have a much harder time trying to survive.

The study of the biology of altruism still has a long way to go, however. Many questions have grown out of these initial studies. For instance, if humans are born with a"helping" brain, why do we also have the ability to hurt others? Why are some of us more altruistic than others? How much control does the brain have on altruistic behavior? How much influence does society have? As technology advances, scientists hope to find answers to these questions and increase our understanding of ourselves.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์มีความต้องการทางชีวภาพเพื่อช่วยผู้อื่น รวมถึงคนแปลกหน้า ลักษณะ altruistic ต่อคนแปลกหน้าเป็นมนุษย์ และพบเฉพาะที่อายุยังน้อยมาก เฟลิกซ์ดร.เคนและดร. Michael Tomasello เยอรมนีสูงสุดของพลังค์ สถาบันมานุษยวิทยาวิวัฒนาการได้แสดงที่เด็กเป็น 18 เดือนต้องการช่วยเหลือคนแปลกหน้า เมื่อเรื่องของอายุ 18 เดือนเห็นโยนคนแปลกหน้าดินสอบนพื้น ไม่มีพวกเขารับมัน อย่างไรก็ตาม เมื่อหัวข้อเดียวกันเห็นคน "ตั้งใจ" วางดินสอ เด็กเกือบทุกคนรับได้ในสิบวินาทีแรก กล่าวว่า ดร. Warneken "ผลลัพธ์ได้น่าอัศจรรย์เนื่องจากเด็กเป็นหนุ่มสาวดังนั้น พวกเขายังสวมใส่ผ้าอ้อม และแทบไม่สามารถใช้ภาษา แต่พวกเขาแสดงพฤติกรรมช่วยแล้ว" เนื่องจากลักษณะ altruistic ปรากฏใน ehildren เพื่อเด็ก ดร. Warneken และนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ hypothesize ว่า สมองมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ altruisticกระจก Neurons โดยใช้การสแกนสมอง neuroscientists จะทำการค้นพบใหม่เกี่ยวกับชีววิทยาของสมองมนุษย์ การค้นพบล่าสุดของ neurons กระจกในมนุษย์ที่นำไปสู่ความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่ว่า สมองสามารถมีอิทธิพลต่อลักษณะ altruistic กระจก neurons อยู่ทั่วสมองเซลล์สมองที่ปกติได้ พวกเขา "สว่างขึ้น" เมื่อผู้ดำเนินการดำเนินการ หรือสังเกต someoneelse ที่ทำการดำเนินการคล้ายกัน Neurons กระจกทำให้เราร้องไห้เมื่อเห็นคนอื่นร้องไห้ หรือยิ้มเมื่อคนยิ้มที่เรา neurons กระจกของเราจะรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขารู้สึก พวกเขาร้อง และยิ้มพร้อมกับพวกเขาอย่างไร แล้ว สามารถ neurons กระจกนำลักษณะ altruistic โดยช่วยให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่คนอื่นรู้สึก neurons กระจกตามธรรมชาติทำให้เรารู้สึกสังเวช พวกเขาช่วยให้เราสามารถวางตนเองในผู้อื่นของสถานการณ์ ไม่ได้ เราจะไม่เข้าใจ ขึ้นดูแลเกี่ยวกับอารมณ์ของคนอื่น เราจะช่วยผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคน ให้ moneyto คนจน บันทึกชีวิต คงไม่ ว่า Marco Iacoboni, neuroscientist ชั้นนำ "ได้ดี เพราะชีววิทยาของไดรฟ์เราจะดี" ในคำอื่น ๆ neurons กระจกดูเหมือนเตรียมการ altruisticNeuroeconomics Neuroeconomist ตั๋ว Harbaugh และทีมงานของเขาที่มหาวิทยาลัยออริกอนศึกษาชีววิทยาของ altruism พวกเขาดูเฉพาะ neuroeconomics หรือการเชื่อมต่อระหว่างสมองและตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ในการทดลองของพวกเขา นักวิจัยพยายามดูว่าประชาชนบริจาคเพื่อการกุศลได้รับผลกระทบ โดย neurons ผู้หญิงทส่วนได้รับ $100 ในการเล่นเกมการกุศลบนคอมพิวเตอร์ พวกเขาสามารถเลือกที่จะบริจาค หรือไม่เพื่อการกุศล การตัดสินใจแต่ละนำไปสู่สถานการณ์อื่น ๆ ที่พวกเขาสามารถได้รับ หรือสูญเสียเงินได้ จบเกม เรื่องก็สามารถเก็บเงินเหลือในบัญชีเป็นเรื่องการเล่นเกม นักวิทยาศาสตร์การสแกนสมองของพวกเขา พวกเขามองที่สมองของ"ความสุข ซึ่งควบคุมอย่างไรดีรู้สึก เมื่อเรื่องส่วนใหญ่บริจาคเงินเพื่อการกุศล ศูนย์ความสุขความสว่างขึ้นในการสแกนสมอง บางส่วนแม้จะสว่างขึ้นเมื่อมีคิดหัวข้อในการบริจาค ผลลัพธ์ทั้งสองแนะนำว่า ศูนย์ของสมองความสุขเป็นรางวัลการกระทำ altruistic นอกจากนี้ คนบริจาค ยิ่งศูนย์ความสุขของพวกเขาสว่างขึ้น สำหรับบางคน ตัวความสุขสว่างขึ้นมากกว่าเมื่อคอมพิวเตอร์ให้กุศลเสริม moneythan เมื่อได้รับเงินพิเศษให้ด้วยตนเอง นักวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่า นี้คือ "ที่แรกหลักฐานประสาทกัน... บริสุทธิ์ altruism หมายความ ว่า altruism แน่นอนอาจมีการเชื่อมต่อทางชีวภาพยังไม่ได้ตอบคำถาม ทำไมจะสมองของเราได้ชิ้นเตรียมที่จะช่วยให้ผู้อื่น ประโยชน์อะไรไม่มี สำหรับเราแต่ละคน และ สำหรับมนุษย์ทั้งหมดไหม ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์นิยมหนึ่งแนะนำว่า เป็นตัวช่วยจากธรรมชาติช่วยเพิ่มโอกาสอยู่รอดของเรา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ขึ้นอยู่กับครอบครัว เพื่อน รัฐบาล และคนแปลกหน้า ทารกต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอด แต่พวกเขายังต้องคนมีฟีดของพวกเขา กลุ่มสังคมใหญ่ยังพึ่งพาความช่วยเหลือของเรา เช่นเมื่อเราชำระภาษี หรือบริจาคเงินให้องค์กรการกุศล โดยไม่มีการ "ช่วยสมอง มนุษย์จะมีเวลายากมากพยายามที่จะอยู่รอดการศึกษาชีววิทยาของ altruism ยังเป็นทางยาวไป อย่างไรก็ตาม หลายคำถามได้เติบโตจากการศึกษาเบื้องต้นนี้ ตัวอย่าง ถ้ามนุษย์เกิดมา มีสมองที่ "ช่วย" ทำไมเรายังมีความสามารถในการทำร้ายผู้อื่น เหตุใดเรา altruistic ยิ่งกว่าผู้อื่น ควบคุมจำนวนไม่สมองมีลักษณะ altruistic สังคมมีอิทธิพลมาก เป็นเทคโนโลยีความก้าวหน้า นักวิทยาศาสตร์หวังว่าการค้นหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ และเพิ่มความเข้าใจของเราเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีความปรารถนาทางชีวภาพที่จะช่วยให้คนอื่น ๆ รวมถึงคนแปลกหน้า พฤติกรรมเห็นแก่ผู้อื่นที่มีต่อคนแปลกหน้าเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์และตั้งข้อสังเกตในวัยหนุ่มสาวมาก ดร. เฟลิกซ์เคนและไมเคิลของเยอรมนี Tomasello แม็กซ์พลังค์สถาบันมานุษยวิทยาวิวัฒนาการได้แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นสาวเป็น 18 เดือนต้องการที่จะช่วยคนแปลกหน้า เมื่ออาสาสมัคร 18 เดือนเก่าของพวกเขาได้เห็นคนแปลกหน้าโยนดินสอบนพื้นไม่มีของพวกเขาหยิบมันขึ้นมา แต่เมื่อเรื่องเดียวกันเห็นคน "ตั้งใจ" วางดินสอเกือบทั้งหมดเด็กหยิบมันขึ้นมาในช่วงสิบวินาทีแรก ดร Warneken "ผลการวิจัยพบที่น่าอัศจรรย์เพราะเด็กเหล่านี้เป็นเด็กมาก. พวกเขายังคงสวมผ้าอ้อมและแทบจะไม่สามารถใช้ภาษา แต่พวกเขาได้แสดงพฤติกรรมที่ช่วยให้." เพราะพฤติกรรมที่เห็นแก่ผู้อื่น ปรากฏใน ehildren หนุ่มดังนั้นดร. Warneken และนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ตั้งสมมติฐานว่าสมองของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้เห็นแก่ผู้อื่น. กระจกเซลล์ประสาทโดยใช้การสแกนสมองประสาทวิทยาจะทำให้การค้นพบใหม่เกี่ยวกับชีววิทยาของสมองมนุษย์ การค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ของเซลล์ประสาทกระจกในมนุษย์จะนำไปสู่ความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ว่าสมองสามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมเห็นแก่ผู้อื่น เซลล์ประสาทกระจกเป็นเซลล์สมองสามัญตั้งอยู่ทั่วสมอง พวกเขา "ไฟ" เมื่อคนมีประสิทธิภาพการดำเนินการหรือการสังเกต someoneelse ทำกระทำที่คล้ายกัน เซลล์ประสาทกระจกทำให้เราร้องไห้เมื่อเราเห็นคนอื่นร้องไห้หรือยิ้มเมื่อคนยิ้มให้เรา เซลล์ประสาทกระจกของเรารู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่า พวกเขาร้องไห้และรอยยิ้มพร้อมกับพวกเขา. วิธีการนั้นสามารถสะท้อนเซลล์ประสาทนำมาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เห็นแก่ผู้อื่น? โดยช่วยให้เรารู้สึกว่าคนอื่นรู้สึกเซลล์ประสาทกระจกธรรมชาติที่ทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจ พวกเขาช่วยให้เราสามารถใส่ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ของคนอื่น; โดยที่พวกเขาเราจะไม่เข้าใจหรือสนใจเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่น เราจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคน? ให้ moneyto ยากจน? ชีวิตบันทึก? อาจจะไม่ได้มาร์โก Iacoboni, ประสาทวิทยาชั้นนำกล่าวว่า "เรามีความดีเพราะชีววิทยาไดรฟ์ของเราให้เราเป็นดี." ในคำอื่น ๆ เซลล์ประสาทกระจกดูเหมือนจะเตรียมความพร้อมให้เราเป็นเห็นแก่ผู้อื่น. Neuroeconomics Neuroeconomist บิล Harbaugh และทีมงานของเขาที่มหาวิทยาลัยโอเรกอนศึกษาชีววิทยาของบริสุทธิ์ใจ พวกเขามีลักษณะเฉพาะที่ Neuroeconomics หรือการเชื่อมต่อระหว่างสมองและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ในตอนหนึ่งของการทดลองนักวิจัยพยายามที่เห็นว่าการบริจาคของประชาชนเพื่อการกุศลได้รับผลกระทบจากเซลล์ประสาท เก้าผู้หญิงได้รับ $ 100 ในการเล่นเกมการกุศลในคอมพิวเตอร์ พวกเขาสามารถเลือกที่จะบริจาคหรือไม่เพื่อการกุศลในแต่ละการตัดสินใจที่นำไปสู่สถานการณ์อื่น ๆ ที่พวกเขาจะได้รับหรือเสียเงิน ในตอนท้ายของเกมที่อาสาสมัครมีความสามารถที่จะเก็บเงินทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้ในบัญชีของพวกเขา. ในฐานะที่เป็นอาสาสมัครที่เล่นเกมนักวิทยาศาสตร์สแกนสมองของพวกเขา พวกเขามองไปที่สมองของ "ศูนย์ความสุข" ซึ่งควบคุมวิธีการที่คนรู้สึกดี เมื่ออาสาสมัครส่วนใหญ่บริจาคเงินเพื่อการกุศล, ศูนย์สุขของพวกเขาสว่างขึ้นในการสแกนสมอง บางคนแม้กระทั่งสว่างขึ้นเมื่อเรื่องถูกเก็บภาษีในการบริจาคของพวกเขา ผลการชี้ให้เห็นว่าทั้งสองศูนย์ความสุขของสมองเป็นรางวัลสำหรับการกระทำที่เห็นแก่ผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากบริจาคที่มากกว่าศูนย์สุขของพวกเขาสว่างขึ้น สำหรับบางคน, ศูนย์ความสุขสว่างขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์ให้การกุศล moneythan พิเศษเมื่อพวกเขาได้รับเงินพิเศษให้สำหรับตัวเอง นักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่านี่คือ "หลักฐานประสาทเป็นครั้งแรกสำหรับความบริสุทธิ์ใจบริสุทธิ์ ... " หมายความว่าความบริสุทธิ์ใจแน่นอนอาจมีการเชื่อมต่อทางชีวภาพ. คำถามที่ยังไม่มีคำตอบทำไมสมองของเราจะเตรียมความพร้อมทางชีวภาพที่จะช่วยให้คนอื่น ๆ ? สิ่งที่ได้รับประโยชน์ไม่ได้มีสำหรับเราแต่ละคนและสำหรับมนุษย์รวม? หนึ่งในทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่นิยมแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ช่วยเหลือธรรมชาติช่วยเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของเรา มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทางสังคมขึ้นอยู่กับครอบครัว, เพื่อน, รัฐบาลและคนแปลกหน้า ทารกต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอด แต่พวกเขายังต้องการคนที่มีให้อาหารพวกเขา กลุ่มทางสังคมขนาดใหญ่ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของเราเช่นเมื่อเราจ่ายภาษีหรือบริจาคเงินเพื่อการกุศล โดยไม่ต้องมี "สมองช่วยให้" มนุษย์จะมีช่วงเวลาที่ยากมากที่พยายามที่จะอยู่รอด. การศึกษาชีววิทยาของความบริสุทธิ์ใจที่ยังคงมีทางยาวไป แต่ คำถามที่หลายคนมีการเติบโตจากการศึกษาเริ่มต้นเหล่านี้ ตัวอย่างเช่นถ้ามนุษย์เกิดมาพร้อมกับ "ช่วย" สมองทำไมเรายังมีความสามารถที่จะทำร้ายคนอื่น ๆ ? ทำไมบางส่วนของเราเห็นแก่ผู้อื่นมากกว่าคนอื่น ๆ ? วิธีการควบคุมมากไม่ได้มีสมองที่มีต่อพฤติกรรมเห็นแก่ผู้อื่น? วิธีอิทธิพลเท่าไหร่สังคมมี? เป็นความก้าวหน้าเทคโนโลยีนักวิทยาศาสตร์หวังที่จะหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้และเพิ่มความเข้าใจของตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีความปรารถนาที่จะช่วยคนอื่นแท้ๆ ทั้งคนแปลกหน้า พฤติกรรมเอื้อเฟื้อต่อคนแปลกหน้าอย่างมนุษย์ และสังเกตที่อายุยังน้อยมาก ดร. เฟลิกซ์ เคน และ ดร. ไมเคิล tomasello เยอรมันมักซ์พลังค์สถาบันมานุษยวิทยาวิวัฒนาการได้แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นสาวเป็น 18 เดือน อยากช่วยคนแปลกหน้าเมื่อ 18 เดือนเก่าวิชาของพวกเขาเห็นคนแปลกหน้าโยนดินสอลงบนพื้น ไม่มีใครรับสาย อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มเดียวกันเห็นบางคน " บังเอิญ " วางดินสอ เกือบทั้งหมดเป็นเด็กรับในสิบวินาทีก่อน ดร. warneken " ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ เพราะเด็กเหล่านี้เป็นเด็กมาก พวกเขายังใส่ผ้าอ้อม และแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาแต่พวกเขาได้แสดงพฤติกรรมการช่วยเหลือ เนื่องจากพฤติกรรมเอื้อเฟื้อ . ปรากฏใน ehildren โซยอง ดร. warneken และนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆพบว่า สมองของมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อเห็นแก่ผู้อื่น


โดยใช้เซลล์ประสาทกระจกสแกนสมอง neuroscientists มีการค้นพบใหม่เกี่ยวกับชีววิทยาของสมองมนุษย์ล่าสุดการค้นพบเซลล์ประสาทกระจกในมนุษย์ ไปสู่ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สมองสามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมเอื้อเฟื้อ . เซลล์ประสาทกระจกจะปกติเซลล์สมองอยู่ทั่วสมอง พวกเขา " ไฟ " เมื่อบุคคลแสดงการกระทำหรือสังเกต someoneelse ทำการกระทำที่คล้ายกัน เซลล์ประสาทกระจกทำให้เราร้องไห้เมื่อเราเห็นคนอื่นร้องไห้ หรือ ยิ้มเมื่อมีคนยิ้มให้เราเซลล์ประสาทกระจกของเราจริง ๆ รู้สึกว่ามันรู้สึกยังไง พวกเขาร้องไห้ และยิ้มตามไปด้วย

ยังไงก็สามารถสะท้อนเซลล์ประสาทนำพฤติกรรมการช่วยเหลือ ? โดยช่วยให้เรารู้สึกว่าคนอื่นรู้สึกยังไง เซลล์ประสาทกระจกตามธรรมชาติทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจ . พวกเขาอนุญาตให้เราใส่ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่คนอื่น โดยไม่ได้ เราก็จะไม่เข้าใจ หรือแคร์ความรู้สึกของคนอื่นเราจะช่วยผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคน ? ให้เงินแก่คนยากจน บันทึกชีวิต ? อาจจะไม่ ว่า มาร์โค iacoboni , นักประสาทวิทยา " ผู้นําเราเป็นคนดี เพราะชีววิทยาของเราทำให้เราเป็นคนดี . " ในคำอื่น ๆที่เซลล์ประสาทกระจกดูเหมือนจะเตรียมให้เราเสียสละ


neuroeconomist ประสาทเศรษฐศา ร์บิลฮาร์บอและทีมงานของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน ศึกษาด้านชีววิทยา .พวกเขามองเฉพาะที่ประสาทเศรษฐศา ร์ หรือการเชื่อมต่อระหว่างสมองและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ในการทดลองของพวกเขา นักวิจัยพยายามดูว่าประชาชนบริจาคเพื่อการกุศลได้รับผลกระทบโดยเซลล์ประสาท 19 ผู้หญิงได้รับ $ 100 เพื่อเล่นเกมการกุศลบนคอมพิวเตอร์ พวกเขาสามารถเลือกที่จะบริจาคหรือไม่บริจาคเพื่อการกุศลการตัดสินใจแต่ละครั้งนำไปสู่สถานการณ์อื่น ๆที่พวกเขาจะได้รับหรือสูญเสียเงิน ในตอนท้ายของเกมจำนวนสามารถเก็บเงินทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้ในบัญชีของตน .

เป็นคนเล่นเกมนักวิทยาศาสตร์สแกนสมองของพวกเขา พวกเขามองไปที่ศูนย์ความสุขของ " สมอง " ซึ่งควบคุมวิธีที่ดีที่ประชาชนรู้สึกได้ เมื่อคนส่วนใหญ่บริจาคเงินเพื่อการกุศลศูนย์ความสุขของพวกเขาสว่างขึ้นบนเข้าสแกนสมอง บ้างก็สว่างขึ้นเมื่อถูกหักภาษีจากการบริจาคของพวกเขา ทั้งสองพบว่าสมองของศูนย์สุขเป็นรางวัลสำหรับการช่วยเหลือการกระทำ . นอกจากนี้ คนที่บริจาค เพิ่มเติมความสุขและสว่างขึ้น สำหรับบางคนศูนย์สุขสว่างขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์ให้องค์กรการกุศลพิเศษ moneythan เมื่อพวกเขาได้รับเงินพิเศษให้สำหรับตัวเอง นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า นี่เป็น " แรกประสาทหลักฐาน . . . . . . . บริสุทธิ์คือ " ความหมายว่า altruism แน่นอนอาจมีการเชื่อมต่อทางชีวภาพ ตอบคําถาม


ทำไมสมองของเราจะได้เตรียมที่จะช่วยให้คนอื่น ๆ ?สิ่งที่เป็นประโยชน์มีสำหรับเราแต่ละคนและมนุษย์เป็นทั้ง ? ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่นิยมแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ช่วยธรรมชาติช่วยเพิ่มโอกาสของการอยู่รอด มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องไปพึ่งเพื่อน , ครอบครัว , รัฐบาล , และคนแปลกหน้า ทารกต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอด แต่พวกเขายังต้องการคนที่ให้อาหารมัน กลุ่มสังคมมีขนาดใหญ่ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเราเช่น เมื่อเราจ่ายภาษี หรือบริจาคเงินเพื่อการกุศล โดยไม่ต้อง " ช่วยให้สมอง " มนุษย์จะหนักมากเวลาที่พยายามเอาตัวรอด

ศึกษาชีววิทยาคือยังคงมีหนทางอีกยาวไกล แต่ คำถามมากมายได้เติบโตออกของการศึกษาเริ่มต้นเหล่านี้ ตัวอย่าง ถ้ามนุษย์เกิดมาพร้อมกับ " ช่วย " สมอง ทำไมเรายังมีความสามารถที่จะทำร้ายคนอื่นทำไมบางคนมากกว่าเห็นแก่ผู้อื่นมากกว่าคนอื่น ๆ ? วิธีการควบคุมเท่าไหร่ สมองมีพฤติกรรมเสียสละ ? มีอิทธิพลต่อสังคมมากแค่ไหน ? เป็นความก้าวหน้าเทคโนโลยี นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้และเพิ่มความเข้าใจของเราเอง