This study focuses on investigating

This study focuses on investigating effect of modified N-metiloldihidroksietilen üre (DMDHEU) and softener type (fatty acid,
macro and micro polysiloxane, wax, and polyethylene) on properties of cotton fabric. The ether linkages between hydroxyl groups of
DMDHEU and cellulose were confirmed by appearance of corresponding absorbance at 1730 and 1250 cm−1 in the FTIR spectrum
after finishing. Both resins and softeners had extremely low formaldehyde release according to Oeko-Tex 100 standard. It is found that
various softener types have significant effect on color evaluation and breaking strength of fabrics and the difference in electrical charge
of same type softener is also an important parameter; hence such an investigation should be made to choose the suitable softener type
for industrial applications. It is concluded that the softeners based on non-ionic wax and non-ionic polyethylene are the most suitable for
softening application on cotton woven fabrics when considering the properties we examined.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้มุ่งเน้นการตรวจสอบผลของการปรับเปลี่ยน üre N metiloldihidroksietilen (DMDHEU) และชนิดนุ่ม (กรดไขมันแมโครและไมโคร polysiloxane ขี้ผึ้ง และเอทิลีน) ในคุณสมบัติของผ้าฝ้าย เชื่อมโยงอีเทอร์ระหว่างกลุ่มไฮดรอกซิลDMDHEU และเซลลูโลสถูกยืนยัน โดยลักษณะของ absorbance ที่สอดคล้องกันที่ 1730 และ 1250 cm−1 ในสเปคตรัม FTIRหลังจากเสร็จสิ้นการ เรซิ่นและระบบมีฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำมากปล่อยตามมาตรฐาน Oeko Tex 100 จะพบว่านุ่มต่าง ๆ มีผลสำคัญในประเมินสีและความทนทานของผ้าและความแตกต่างของประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน นุ่มเป็นพารามิเตอร์สำคัญ ดังนั้น ควรทำการสอบสวนเพื่อเลือกชนิดนุ่มที่เหมาะสมสำหรับงานอุตสาหกรรม จะสรุปได้ว่า ระบบ ionic ไม่ใช่ขี้ผึ้งและเอทิลีนไม่ใช่ ionic จะเหมาะที่สุดสำหรับโปรแกรมประยุกต์ที่นุ่มนวลบนผ้าฝ้ายทอผ้าเมื่อพิจารณาคุณสมบัติที่เราตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบผลกระทบของการปรับเปลี่ยน ure N-metiloldihidroksietilen (DMDHEU) และชนิดอ่อน (กรดไขมัน
polysiloxane มหภาคและจุลภาคขี้ผึ้งและเอทิลีน) คุณสมบัติของผ้าฝ้าย ความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มอีเธอร์มักซ์พลังค์ของ
DMDHEU และเซลลูโลสได้รับการยืนยันโดยการปรากฏตัวของการดูดกลืนแสงที่เกี่ยวข้องที่ 1,730 และ 1,250 เซนติเมตร-1 ในสเปกตรัม FTIR
หลังจากจบ ทั้งเม็ดและน้ำยาปรับผ้านุ่มมีการปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำมากตาม Oeko-Tex 100 มาตรฐาน นอกจากนี้ยังพบว่า
ประเภทน้ำยาปรับต่างๆมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการประเมินผลของสีและความแข็งแรงทำลายของเนื้อผ้าและความแตกต่างในค่าใช้จ่ายไฟฟ้า
ของยาละลายชนิดเดียวกันนี้ยังมีตัวแปรที่สำคัญ; ด้วยเหตุดังกล่าวการตรวจสอบควรจะทำเพื่อเลือกชนิดนุ่มเหมาะ
สำหรับงานอุตสาหกรรม มันเป็นข้อสรุปว่าน้ำยาปรับขึ้นอยู่กับขี้ผึ้งที่ไม่อิออนและเอทิลีนที่ไม่เป็นอิออนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ
การชะลอตัวโปรแกรมประยุกต์บนผ้าฝ้ายทอเมื่อพิจารณาคุณสมบัติของเราตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาผลของการแก้ไข n-metiloldihidroksietilen ü re ( dmdheu ) และชนิดนุ่ม ( กรดไขมัน
Macro และ Micro polysiloxane ขี้ผึ้งและพลาสติก ) คุณสมบัติของผ้าฝ้าย อีเทอร์เชื่อมโยงระหว่างหมู่ไฮดรอกซิลของ
dmdheu เซลลูโลสและได้รับการยืนยันโดยการปรากฏตัวของการดูดกลืนแสงที่สอดคล้องกันระหว่าง 1 , 250 ซม. และ− 1 ( +
หลังจากเสร็จสิ้นทั้งเรซิ่นและ softeners มีต่ำมากปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ตาม Oeko tex 100 มาตรฐาน พบว่า มีชนิดต่าง ๆ
กระด้างมีผลต่อสีและการประเมินผล ทำให้ความแข็งแรงของผ้าและความแตกต่างของประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน
ของกระด้างเป็นพารามิเตอร์ที่สำคัญเช่นการตรวจสอบ ดังนั้นจึงควรที่จะเลือกที่เหมาะสมนุ่มชนิด
สำหรับงานอุตสาหกรรม สรุปได้ว่า ขึ้นอยู่กับระดับแคลเซียมและ softeners ไข Polyethylene เป็นเหมาะสมที่สุดสำหรับโปรแกรมอาศัยบน
ฝ้ายทอผ้าเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติที่เราตรวจสอบ