Breakwaters that were 40-m long, 60

Breakwaters that were 40-m long, 60-m apart, and 50-m
offshore (Fig. 7b and c) were proved by GENESIS to be effective in
protecting the beach (Fig. 7a). Due to the fact that shoreline along
the downdrift side of the last breakwater would inevitably experience
severe erosion, there was a need to locate the last breakwater
at a suitable location. Undeveloped land, especially at the tip
of the spit was considered the appropriate stop (Fig. 1).

Gaps between the breakwaters were wide enough to accommodate 2
boats sailing in the opposite direction. The breakwaters did not
prevent fishermen from moving their boats up the shore. They also
provided shelters from storm waves since their crest elevations
were þ3.70 m above the MSL (Fig. 7d).
and the disappearing sandy beach.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Breakwaters ที่ 40 เมตร ยาว 60-m อพาร์ท และ 50 เมตรต่างประเทศ (Fig. 7b และ c) ถูกพิสูจน์ โดยปฐมกาลจะมีประสิทธิภาพในการปกป้องชายหาด (Fig. 7a) เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าชายฝั่งตามแนวย่อมจะมีประสบการณ์ด้าน downdrift ของเขื่อนล่าสุดการกัดเซาะรุนแรง มีต้องไปหาเขื่อนล่าสุดในตำแหน่งที่เหมาะสม ที่ดิน undeveloped โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คำแนะนำของการแบ่งที่พิจารณาการหยุดที่เหมาะสม (Fig. 1)ช่องว่างระหว่างการ breakwaters ได้กว้างพอที่จะรองรับ 2เรือที่แล่นในทิศทางตรงกันข้าม Breakwaters ไม่ทำให้ชาวประมงย้ายเรือของพวกเขาขึ้นฝั่ง พวกเขายังให้พิงจากคลื่นพายุตั้งแต่ elevations ยอดของพวกเขาþ3.70 เมตรเหนือ MSL (Fig. 7 d) ได้และ disappearing ชายหาดทราย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขื่อนกันคลื่นที่มี 40 เมตรยาวห่างกัน 60 เมตรและ 50
เมตรในต่างประเทศ(รูป. 7b และค) ได้รับการพิสูจน์โดย GENESIS
จะมีประสิทธิภาพในการปกป้องชายหาด(รูป. 7a) เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าไปตามแนวชายฝั่งด้าน downdrift ของเขื่อนที่ผ่านมาย่อมจะได้สัมผัสกับการกัดเซาะอย่างรุนแรงมีความจำเป็นที่จะหาเขื่อนที่ผ่านมาในสถานที่ที่เหมาะสม ที่ดินรอการพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปลายของน้ำลายได้รับการพิจารณาจุดที่เหมาะสม (รูปที่ 1).. ช่องว่างระหว่างเขื่อนกันคลื่นก็กว้างพอที่จะรองรับ 2 เรือแล่นไปในทิศทางตรงกันข้าม เขื่อนกันคลื่นไม่ได้ป้องกันไม่ให้ชาวประมงจากการย้ายเรือของพวกเขาขึ้นฝั่ง พวกเขายังที่พักอาศัยให้จากคลื่นพายุตั้งแต่ระดับยอดของพวกเขาเป็นþ3.70เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง(รูป. 7d). และหาดทรายที่หายไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขื่อนกันคลื่นที่ 40-m ยาว 60-m ต่างหาก และ 50-m
OFFSHORE ( รูปที่ 7b และ C ) ถูกพิสูจน์โดยเจเนซิส มีประสิทธิภาพในการปกป้องชายหาด
( รูปที่ 68 ) เนื่องจากว่าชายฝั่งตาม
downdrift ด้านข้างของเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะรุนแรงย่อมมีประสบการณ์
สุดท้ายจะต้องมีหาเขื่อน
สุดท้ายที่สถานที่ที่เหมาะสม พัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปลาย
ของคายถือว่าหยุดที่เหมาะสม ( ภาพที่ 1 ) .

ช่องว่างระหว่างเขื่อนกันคลื่นก็กว้างพอที่จะรองรับ 2
เรือแล่นในทิศทางที่ตรงข้าม ที่เขื่อนกันคลื่นไม่ได้
ป้องกันชาวประมงจากการย้ายเรือขึ้นบนฝั่ง พวกเขายัง
ให้ที่พักอาศัยจากคลื่นพายุตั้งแต่พวกเขาเป็นยอดกว่า
þ 3.70 ม. เหนือ MSL ( ภาพ 7D ) .
และหายไปกับหาดทราย