TruckingFalling oil prices have the

Trucking

Falling oil prices have the potential to benefit trucking companies significantly in both the short and long term. Tractor-trailers generally run at five to seven miles per gallon. Assuming an oil price of $60 to $80 per barrel, the line-haul cost per container mile is $1.82 for trucks versus $0.37 for rail, according to the U.S. Department of Transportation. Lower oil prices, however, will narrow that relative price gap.

In the short term, operators stand to gain higher margins while passing some of the savings on to customers. For example, National Delivery Systems levies a fuel surcharge on customers that is updated weekly to reflect changes in the national average fuel index. In addition, as noted, reduced fuel costs allow trucking to be more competitive compared with rail. As a result, trucking companies should look to recapture customers they may have previously lost when oil prices were higher. That’s already happening. In fact, according to the Journal of Commerce, a set of U.S. shippers surveyed during the third quarter of 2014 decided to shift freight from intermodal trains to trucks, rather than the reverse, for the first time in five years. Some of the shift was due to rail congestion caused by surging traffic in 2014, but lower diesel prices accelerated the shift, especially among the more frustrated shippers. Trucking companies should seek to further exploit this trend by highlighting the stronger speed/cost trade-off available to customers today.

Lower fuel costs also allow trucking companies to streamline operations around demand, rather than fuel savings. In particular, these companies can adjust their networks and routes to better serve their customers on the basis of speed and convenience. Finally, lower fuel costs could also allow trucking companies to keep older, less fuel efficient vehicles on the road longer (assuming they are compliant with emissions standards—see “Secondary Impacts: LNG”).

Secondary Impacts: LNG

All modes of transportation are being hit with greater emissions regulations, especially involving nitrogen and sulfur oxides (NOx and SOx) and particulates. Transportation companies had been considering liquefied natural gas (LNG) as an alternative to after-treatment technologies with diesel. Until recently, conventional wisdom held that LNG offered both lower particulate levels and (more importantly) lower fuel prices. Based on that thinking, most major railroads and many of the trucking OEMs have developed pilot LNG fuel programs. These programs looked very logical when oil was well over $70 per barrel, but are less attractive as oil prices drop. Transportation companies will need to balance investment in LNG programs if oil prices stay low for the long term.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รถขนส่งราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์บริษัทรถขนส่งอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น และระยะยาวทั้ง Tractor-trailers โดยทั่วไปรันที่ห้าถึงเจ็ดไมล์ต่อแกลลอน สมมติว่ามีราคาน้ำมันของ $60-$80 ต่อบาร์เรล คอนเทนเนอร์ไมล์ทุนระยะบรรทัดเป็น $1.82 สำหรับรถบรรทุกเทียบกับ $0.37 ราง ตามที่กรมการขนส่งแห่งสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันลด อย่างไรก็ตาม จะแคบที่ช่องว่างของราคาสัมพัทธ์ในระยะสั้น ผู้ประกอบการยืนเข้าขอบสูงขณะผ่านบางประหยัดลูกค้า เช่น ระบบขนส่งแห่งชาติ levies ค่าเชื้อเพลิงในลูกค้าที่มีการปรับปรุงรายสัปดาห์การเปลี่ยนแปลงในดัชนีน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยชาติ นอกจากนี้ ดังที่ ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงให้การรถขนส่งที่จะแข่งขันเมื่อเทียบกับรถไฟ เป็นผล รถขนส่งบริษัทควรมีลักษณะเพื่อเรียกคืนลูกค้าอาจได้ก่อนหน้านี้หายไปเมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ที่จะเกิดขึ้น ในความเป็นจริง ตามสมุดพาณิชย์ ชุดของผู้ขนส่งของสหรัฐอเมริกาที่สำรวจในช่วงไตรมาสสามของปีตัดสินใจจะเปลี่ยนค่าขนส่งจากรถไฟสร้างรถบรรทุก มากกว่าย้อนกลับ เป็นครั้งแรกในรอบห้าปี บางกะก็เนื่องจากความหนาแน่นของรถไฟที่เกิดจากการจราจรที่เพิ่มขึ้นในปี 2014 แต่ราคาดีเซลที่ลดลงเร่งการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ขนส่งผิดหวังมาก บริษัทรถขนส่งควรแสวงหาเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้เพิ่มเติม โดยเน้นความเร็ว/ต้นทุนปิดแข็งแกร่งที่พร้อมใช้กับลูกค้าปัจจุบันลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยังอนุญาตให้รถขนส่งบริษัทเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานรอบต้อง แทนที่ประหยัดเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทเหล่านี้สามารถปรับการเครือข่ายและเส้นทางการให้บริการที่ดีลูกค้าตามสะดวกรวดเร็ว ในที่สุด ลดต้นทุนเชื้อเพลิงยังให้รถขนส่งบริษัทให้มากกว่า น้อยกว่าประหยัดเชื้อเพลิงยานพาหนะบนท้องถนนอีกต่อไป (โดยสมมติว่าจะปล่อยมาตรฐาน — ดู "รองผลกระทบ: LNG")ผลกระทบรอง: LNGทุกโหมดการขนส่งจะถูกตี ด้วยระเบียบปล่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวข้องกับซัลเฟอร์และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx และ SOx) และฝุ่นละออง การขนส่งบริษัทได้รับพิจารณาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นทางเลือกเทคโนโลยีการบำบัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ภูมิปัญญาทั่วไปจัดว่า LNG มีทั้งลดระดับฝุ่นและราคาน้ำมันที่ต่ำกว่า (สำคัญ) คิดว่า รถไฟสำคัญมากที่สุด และรถขนส่งที่มากมาย Oem ได้พัฒนาโปรแกรมน้ำมัน LNG นำร่อง โปรแกรมเหล่านี้มองแบบลอจิคัลมากเมื่อน้ำมันถูกกว่า $70 ต่อบาร์เรล แต่จะน่าสนใจน้อยกว่าเป็นการลดลงของราคาน้ำมัน บริษัทขนส่งจะต้องสมดุลการลงทุนในโปรแกรม LNG ถ้าราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รับจ้างราคาน้ำมันที่ลดลงมีศักยภาพที่จะเป็นประโยชน์ต่อ บริษัท ขนส่งอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รถแทรกเตอร์รถพ่วงทั่วไปทำงานที่ 5-7 ไมล์ต่อแกลลอน สมมติว่าราคาน้ำมันของ $ 60 ถึง $ 80 ต่อบาร์เรลเป็นค่าใช้จ่ายสายลากตู้คอนเทนเนอร์ต่อไมล์เป็น $ 1.82 สำหรับรถบรรทุกเมื่อเทียบกับ $ 0.37 สำหรับรถไฟตามที่กระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ ราคาน้ำมันที่ลดลง แต่จะแคบ ๆ ที่ช่องว่างราคาญาติ. ในระยะสั้นผู้ประกอบการยืนได้รับอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นในขณะที่ผ่านบางส่วนของเงินฝากออมทรัพย์ให้กับลูกค้า ยกตัวอย่างเช่นระบบการส่งแห่งชาติครัวเรือนคิดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของลูกค้าที่มีการปรับปรุงทุกสัปดาห์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในดัชนีน้ำมันเฉลี่ยแห่งชาติ นอกจากนี้ตามที่ระบุไว้ลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ช่วยให้รถบรรทุกจะมีการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเทียบกับรถไฟ เป็นผลให้ บริษัท ขนส่งควรจะดูเพื่อรำลึกลูกค้าพวกเขาอาจจะหายไปก่อนหน้านี้เมื่อราคาน้ำมันที่สูงขึ้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ในความเป็นจริงตามที่วารสารพาณิชย์ชุดของสหรัฐส่งสินค้าทางเรือสำรวจในช่วงไตรมาสที่สามปี 2014 ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนการขนส่งสินค้าจากรถไฟขนส่งรถบรรทุกมากกว่ากลับเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่ผ่านมา บางส่วนของการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการรถไฟแออัดที่เกิดจากการจราจรที่เพิ่มขึ้นในปี 2014 แต่ราคาดีเซลต่ำกว่าเร่งการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ส่งสินค้าทางเรือผิดหวังมากขึ้น บริษัท ขนส่งสินค้าควรแสวงหาเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้โดยไฮไลต์แข็งแกร่งความเร็ว / ค่าใช้จ่ายในการออกให้บริการแก่ลูกค้าในวันนี้. ค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงยังช่วยให้ บริษัท ขนส่งเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานรอบความต้องการมากกว่าการประหยัดเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท เหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนเครือข่ายและเส้นทางของพวกเขาเพื่อให้บริการลูกค้าของพวกเขาบนพื้นฐานของความเร็วและความสะดวกสบาย สุดท้ายลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยังสามารถช่วยให้ บริษัท ขนส่งเพื่อให้เก่าน้ำมันน้อยลงยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพบนท้องถนนอีกต่อไป (สมมติว่าพวกเขามีความสอดคล้องกับการปล่อยก๊าซมาตรฐานดู "ผลกระทบรอง: LNG"). ผลกระทบรอง: LNG ทุกโหมดของการขนส่งที่ถูก ตีด้วยหลักเกณฑ์การปล่อยมลพิษมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับไนโตรเจนและซัลเฟอร์ออกไซด์ (NOx และ SOx) และอนุภาค บริษัท ขนส่งได้รับการพิจารณาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นทางเลือกให้เทคโนโลยีหลังการรักษาด้วยดีเซล จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ ภูมิปัญญาดั้งเดิมถือได้ว่าแอลเอ็นจีที่นำเสนอทั้งในระดับอนุภาคที่ลดลงและ (ที่สำคัญกว่า) ที่ลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่ารถไฟที่สำคัญมากที่สุดและอีกหลายกลุ่ม OEM รับจ้างได้มีการพัฒนาโปรแกรมเชื้อเพลิงนักบิน LNG โปรแกรมเหล่านี้มองตรรกะมากเมื่อน้ำมันดีกว่า $ 70 ต่อบาร์เรล แต่มีความน่าสนใจน้อยลงเช่นราคาน้ำมันที่ลดลง บริษัท ขนส่งจะต้องรักษาความสมดุลของการลงทุนในโปรแกรม LNG หากราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รถบรรทุกลดลงของราคาน้ำมันมีศักยภาพที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากใน trucking บริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว รถพ่วงรถแทรกเตอร์โดยทั่วไปวิ่งได้ห้าถึงเจ็ดไมล์ต่อแกลลอน ถ้าน้ำมันราคา $ 60 ถึง $ 80 ต่อบาร์เรล , สายลากต้นทุนต่อตู้ไมล์เป็น $ 1.82 สำหรับรถบรรทุกเมื่อเทียบกับ $ 0.37 สำหรับรถไฟ ตามที่สหรัฐอเมริกากรมขนส่ง ลดราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม จะให้ญาติที่ราคาช่องว่างในระยะสั้นผู้ประกอบการยืนที่จะได้รับอัตราที่สูงขึ้นในขณะที่ผ่านบางส่วนของเงินฝากออมทรัพย์ให้กับลูกค้า . ตัวอย่างเช่น ระบบการส่งเชื้อเพลิงในครัวเรือนแห่งชาติเพิ่มลูกค้าที่มีการปรับปรุงรายสัปดาห์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีแห่งชาติเชื้อเพลิงเฉลี่ย นอกจากนี้ตามที่ระบุไว้ ลดต้นทุนเชื้อเพลิงให้รถบรรทุกที่จะแข่งขันได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรถไฟ เป็นผลให้ บริษัท รถบรรทุกควรดูเพื่อยึดลูกค้าที่พวกเขาอาจจะทำหายไปเมื่อราคาน้ำมันสูงกว่า มันเกิดขึ้นแล้ว ในความเป็นจริงตามที่วารสารพาณิชย์ ชุดของสหรัฐอเมริกาขนส่ง การสำรวจในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2014 เลยตัดสินใจเปลี่ยนจากรถไฟ intermodal ขนส่งสินค้ารถบรรทุก แทนที่จะกลับ เป็นครั้งแรกในรอบห้าปี บางกะเนื่องจากความแออัดที่เกิดจากการจราจรทางรถไฟพล่านในปี 2014 แต่ราคาดีเซลลดลง เร่งทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ยิ่งหงุดหงิดส่งสินค้าทางเรือ บริษัท รถบรรทุกควรแสวงหาเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ต่อไป โดยเน้นแข็งแกร่งความเร็ว / ทุนแลกเปลี่ยนของลูกค้าวันนี้เชื้อเพลิง ลดต้นทุนให้บริษัท รถบรรทุกเพื่อปรับปรุงการประมาณความต้องการ แทนที่จะประหยัดเชื้อเพลิง . โดย บริษัท เหล่านี้สามารถปรับปรุงเครือข่ายและเส้นทางของพวกเขาเพื่อตอบสนองลูกค้าของพวกเขาบนพื้นฐานของความเร็วและความสะดวกสบาย สุดท้าย ลดต้นทุนเชื้อเพลิงยังสามารถช่วยให้ บริษัท รถบรรทุกเก็บเก่าน้อยกว่ายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพน้ำมันเชื้อเพลิงบนถนนอีกต่อไป ( สมมติว่าพวกเขาจะเข้ากันได้กับมาตรฐานการปล่อยเห็นผลกระทบ : รอง LNG " )ผลกระทบทุติยภูมิ : LNGทุกโหมดการขนส่งที่ถูกตีด้วยการปล่อยมากกว่ากฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับไนโตรเจนและซัลเฟอร์ออกไซด์ ( NOx และ Sox ) และอนุภาค บริษัทได้พิจารณาการขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG ) เป็นทางเลือกให้ หลังการรักษา เทคโนโลยี กับ ดีเซล จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ , ภูมิปัญญาดั้งเดิมกล่าวว่า LNG ให้ทั้งลดระดับฝุ่นละอองและ ( ที่สำคัญ ) ราคาเชื้อเพลิงลดลง จากที่คิดว่า รถไฟใหญ่ที่สุดและหลายของสินค้า OEM ได้พัฒนาต้นแบบ LNG เชื้อเพลิงโปรแกรม โปรแกรมเหล่านี้ดูเหมือนตรรกะมากเมื่อน้ำมันได้ดีกว่า 70 เหรียญต่อบาร์เรล แต่จะน่าสนใจน้อยลงเมื่อราคาน้ำมันลดลง บริษัท ขนส่งจะต้องสมดุลของการลงทุนในโครงการ LNG หากราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ สำหรับในระยะยาว