ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช เป็นความเห็นแตกต่างของมหาช การแปล - ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช เป็นความเห็นแตกต่างของมหาช ไทย วิธีการพูด

ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศร

ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช เป็นความเห็นแตกต่างของมหาชนชาวนครศรีธรรมราช เอง ฝ่ายหนึ่ง เห็นว่ามีมาก่อนแล้วปรักหักพังไป เพราะเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองสำคัญ เป็นเมืองแม่ของเมืองแม่ของเมืองบริวาร 12 เมือง (เมืองสิบสองนักษัตร) จะต้องมีหลักเมืองเป็นศักดิ์ศรี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองสมบูรณ์แบบตามโบราณประเพณี ฝ่ายนี้เห็นว่าควรสร้างหลักเมือง และขยายความด้วยเหตุผลตามหลักโหราศาสตร์ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชได้สืบทอดประวัติมาเป็นเวลาอันยาวนาน เป็นมหานครทางภาคใต้และเป็นบ่อเกิดของศิลปวัฒนธรรมสำคัญของชนขาติไทย โดยมีพระบรมธาตุเป็นหลักชัยของชาวพุทธ เป็นศูนย์รวมศรัทธาศาสนาและความเชื่อต่างๆ แต่สำหรับการสร้างบ้านเมือง จะต้องมีเสาหลักเมืองอันเป็นหลักชัยของบ้านเมืองและอยู่ควบคู่กับศาสนสถาน ซึ่งจากการศึกษาพบว่าชะตาเมืองของนครศรีธรรมราชได้สร้างขึ้น ณ วันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ศก 649 พ.ศ. 1830 ตรงกับสมัยกรุงสุโขทัยมีอำนาจ
ดวงชะตาเมืองนครศรีธรรมราชที่กำหนดขึ้นในครั้งนั้นผู้ทรงวุฒิวิทยากรโหรได้ตรวจสอบพบว่า เข้าเกณฑ์ภัยร้ายหลายประการ ไม่เป็นผลดีแก่บ้านเมืองทั้งในปัจจุบันและอนาคต สมควรที่จะวางชะตาเมืองใหม่ เพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์ตามประเพณีความเชื่อของบรรพบุรุษ โดยการวางศิลาฤกษ์ดวงชะตาเมืองขึ้นใหม่ และสร้างหลักเมืองขึ้นเป็นเสาหลัก เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน อยู่ควบคู่กับองศ์พระบรมธาตุตลอดไป ถ้าหลักเมืองนครศรีธรรมราชเคยมีมาก่อน ฝ่ายนี้ก็มีเหตุผล มีร่องรองที่น่าจะเป็นสถานที่สร้างหลักเมืองอยู่เหมือนกัน ได้แก่ สถานที่ต่อไปนี้
1. หินหลัก ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า "ท่าชี" ทางด้านทิศเหนือขององค์พระมหาธาตุเจดีย์ ลักษณะเป็นเสาหินขนาดย่อม ปัก (ฝัง) ไว้ ปัจจุบันหายไป สถานที่นั้นเป็นทางสี่แยกเล็กๆ แคบๆ คนอายุ 50-60 ปีคงเคยเห็น และปัจจุบันก็ยังเรียกที่ตรงนั้นว่า "หินหลัก" เรื่องนี้สันนิษฐานกันว่า เป็นนิมิตหมายอะไรบางอย่างสำหรับเมืองนคร เพราะอยู่ในตัวเมืองชั้นใน และถ้าจะเป็นหลักเขตธรรมดาของที่ดินก็ไม่น่าจะใช่ เพราะลักษณะเสาหรือหลักเป็นหิน มิใช่ไม้หรือปูนที่ทำกันทั่วไป แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ไม่เชื่อกันสนิทนัก เพราะลักษณะการฝัง ไม่มีฐานราก ไม่มีอาณาบริเวณและลวดลายประดิษฐ์แต่อย่างใด
2. ศาลพระเสื้อเมือง มีหลักฐานปรากฏเป็นเรื่องบอกเล่า ประกอบกับข้อเท็จจริงที่มีอยู่ บ่งบอกว่าเป็นสถานที่สำคัญของเมืองว่า "ศาลพระเสื้อเมือง" ตามคติโบราณ เมื่อใดที่มีการตั้งบ้านเมืองก็มักจะสร้างศาลไว้ให้เทพารักษ์ ผู้รักษาบ้านเมืองด้วย ศาลพระเสื่อเมืองของนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ด้านหลังของหอนาฬิกา สันนิษฐานว่าคงจะเป็นกลางเมืองในอดีต และคงสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นอย่างน้อย ศาลเดิมคงสร้างด้วยไม้ จึงไม่เหลือร่องรอย เพราะผุพังลงตามกาลเวลา หลักจากนั้นเข้าใจว่ามีการสร้างขึ้นใหม่อีกหลายครั้ง มีผู้บันทึกไว้ว่า เมื่อประมาณ 80 ปีมาแล้ว เป็นศาลไม้ หลังคามุงกระเบื้อง หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ภายในประดิษฐานเทพารักษ์ สององค์ ลักษณะคล้ายกับท้าวกุเวรราช ในพระวิหารพระม้า วัดพระมหาธาตุฯ ต่อมามีผู้บูรณะเทวรูปทั้งสององค์นี้แล้วลงรักปิดทอง ในระยะหลังปรากฏว่าศาลพระเสื้อเมืองเป็นที่นับถือของชาวจีนเป็นจำนวนมาก ศาลนี้จึงได้รับการตกแต่งจนดูคล้ายศาลเจ้าของจีน อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเมืองนครศรีธรรมราชไม่เคยมีหลักเมืองมาก่อน ถ้าเคยมีก็น่าจะมีหลักฐานร่องรอยให้เห็นเช่นเดียวกับกำแพงเมืองโบราณ
3. ฝ่ายนี้สรุปเหตุผลว่า เมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองพระ หลักเมืองสำคัญ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ไม่มีหลักเมืองใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว มีคนทึกทักเอาว่า การสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกันจะเป็นเหตุแห่งความแตกแยก ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านั้นแหละคือ คุณสมบัติอย่างหนึ่งของคนเมืองนคร พูดจากันก่อนและร่วมกันทำ เมื่อยุติตกลงกันว่า จะสร้างหลักเมือง (บูรณะ) ในบริเวณสนามหน้าเมืองด้านตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อที่ 2 ไร่แล้ว จังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมกับส่วนราชการองค์กรภาครัฐและเอกชน บริษัทห้างร้าน พ่อค้าประชาชน พ่อค้าประชาชน จึงร่วมกันดำเนินการตามลำดับ ดังนี้
o การออกแบบ แกะสลักหรือ ประติมากรรม
o พิธีเบิกเนตรหลักเมือง
o พิธีทรงเจิมหลักเมือง ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
o การนำ (เชิญ) หลักเมืองมาประดิษฐาน ณ สนามหน้าเมือง
พิธีกรรมต่าง ๆ ข้างต้นนี้ นอกจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญอื่นร่วมประกอบพิธีด้วย เช่น พลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร วางศิลาฤกษ์ศาลพระเสื้อเมือง นายอนันต์ อนันตกุล วางศิลาฤกษ์สร้างศาลสถิตจตุโลกเทพ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เททองหล่อยอดชัยเสาหลักเมือง เป็นที่น่าแปลกใจอยู่บ้างว่า ศาลหรือหลักเมืองนครศรีธรรมราชไม่ปรากฏร่องรอยมาก่อน แต่ใช้คำว่า "บูรณะ" และสถานที่สร้างเป็น "หน้าเมือง" ไม่ใช่ "ในเมือง" ซึ่งเป็นเรื่องน่าสังเกตเพียงเล็กน้อย มิใช่ประเด็นสำคัญ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชเป็นความเห็นแตกต่างของมหาชนชาวนครศรีธรรมราชเองฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีมาก่อนแล้วปรักหักพังไปเพราะเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองสำคัญเป็นเมืองแม่ของเมืองแม่ของเมืองบริวาร 12 เมือง (เมืองสิบสองนักษัตร) จะต้องมีหลักเมืองเป็นศักดิ์ศรีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมืองทำให้บ้านเมืองสมบูรณ์แบบตามโบราณประเพณีฝ่ายนี้เห็นว่าควรสร้างหลักเมืองและขยายความด้วยเหตุผลตามหลักโหราศาสตร์ว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สืบทอดประวัติมาเป็นเวลาอันยาวนานเป็นมหานครทางภาคใต้และเป็นบ่อเกิดของศิลปวัฒนธรรมสำคัญของชนขาติไทยโดยมีพระบรมธาตุเป็นหลักชัยของชาวพุทธเป็นศูนย์รวมศรัทธาศาสนาและความเชื่อต่าง ๆ แต่สำหรับการสร้างบ้านเมืองจะต้องมีเสาหลักเมืองอันเป็นหลักชัยของบ้านเมืองและอยู่ควบคู่กับศาสนสถานซึ่งจากการศึกษาพบว่าชะตาเมืองของนครศรีธรรมราชได้สร้างขึ้นณวันพฤหัสบดีแรม 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะศก 649 พ.ศ. 1830 ตรงกับสมัยกรุงสุโขทัยมีอำนาจดวงชะตาเมืองนครศรีธรรมราชที่กำหนดขึ้นในครั้งนั้นผู้ทรงวุฒิวิทยากรโหรได้ตรวจสอบพบว่าเข้าเกณฑ์ภัยร้ายหลายประการไม่เป็นผลดีแก่บ้านเมืองทั้งในปัจจุบันและอนาคตสมควรที่จะวางชะตาเมืองใหม่เพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุขมีความเจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์ตามประเพณีความเชื่อของบรรพบุรุษโดยการวางศิลาฤกษ์ดวงชะตาเมืองขึ้นใหม่และสร้างหลักเมืองขึ้นเป็นเสาหลักเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนอยู่ควบคู่กับองศ์พระบรมธาตุตลอดไปถ้าหลักเมืองนครศรีธรรมราชเคยมีมาก่อนฝ่ายนี้ก็มีเหตุผลมีร่องรองที่น่าจะเป็นสถานที่สร้างหลักเมืองอยู่เหมือนกันได้แก่สถานที่ต่อไปนี้1. หินหลักตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า "ท่าชี" ทางด้านทิศเหนือขององค์พระมหาธาตุเจดีย์ลักษณะเป็นเสาหินขนาดย่อมปัก (ฝัง) ไว้ปัจจุบันหายไปสถานที่นั้นเป็นทางสี่แยกเล็ก ๆ แคบ ๆ คนอายุ 50-60 ปีคงเคยเห็นและปัจจุบันก็ยังเรียกที่ตรงนั้นว่า "หินหลัก" เรื่องนี้สันนิษฐานกันว่าเป็นนิมิตหมายอะไรบางอย่างสำหรับเมืองนครเพราะอยู่ในตัวเมืองชั้นในและถ้าจะเป็นหลักเขตธรรมดาของที่ดินก็ไม่น่าจะใช่เพราะลักษณะเสาหรือหลักเป็นหินมิใช่ไม้หรือปูนที่ทำกันทั่วไปแต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ไม่เชื่อกันสนิทนักเพราะลักษณะการฝังไม่มีฐานรากไม่มีอาณาบริเวณและลวดลายประดิษฐ์แต่อย่างใด2. ศาลพระเสื้อเมือง มีหลักฐานปรากฏเป็นเรื่องบอกเล่า ประกอบกับข้อเท็จจริงที่มีอยู่ บ่งบอกว่าเป็นสถานที่สำคัญของเมืองว่า "ศาลพระเสื้อเมือง" ตามคติโบราณ เมื่อใดที่มีการตั้งบ้านเมืองก็มักจะสร้างศาลไว้ให้เทพารักษ์ ผู้รักษาบ้านเมืองด้วย ศาลพระเสื่อเมืองของนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ด้านหลังของหอนาฬิกา สันนิษฐานว่าคงจะเป็นกลางเมืองในอดีต และคงสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นอย่างน้อย ศาลเดิมคงสร้างด้วยไม้ จึงไม่เหลือร่องรอย เพราะผุพังลงตามกาลเวลา หลักจากนั้นเข้าใจว่ามีการสร้างขึ้นใหม่อีกหลายครั้ง มีผู้บันทึกไว้ว่า เมื่อประมาณ 80 ปีมาแล้ว เป็นศาลไม้ หลังคามุงกระเบื้อง หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ภายในประดิษฐานเทพารักษ์ สององค์ ลักษณะคล้ายกับท้าวกุเวรราช ในพระวิหารพระม้า วัดพระมหาธาตุฯ ต่อมามีผู้บูรณะเทวรูปทั้งสององค์นี้แล้วลงรักปิดทอง ในระยะหลังปรากฏว่าศาลพระเสื้อเมืองเป็นที่นับถือของชาวจีนเป็นจำนวนมาก ศาลนี้จึงได้รับการตกแต่งจนดูคล้ายศาลเจ้าของจีน อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเมืองนครศรีธรรมราชไม่เคยมีหลักเมืองมาก่อน ถ้าเคยมีก็น่าจะมีหลักฐานร่องรอยให้เห็นเช่นเดียวกับกำแพงเมืองโบราณ3. ฝ่ายนี้สรุปเหตุผลว่า เมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองพระ หลักเมืองสำคัญ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ไม่มีหลักเมืองใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว มีคนทึกทักเอาว่า การสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกันจะเป็นเหตุแห่งความแตกแยก ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านั้นแหละคือ คุณสมบัติอย่างหนึ่งของคนเมืองนคร พูดจากันก่อนและร่วมกันทำ เมื่อยุติตกลงกันว่า จะสร้างหลักเมือง (บูรณะ) ในบริเวณสนามหน้าเมืองด้านตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อที่ 2 ไร่แล้ว จังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมกับส่วนราชการองค์กรภาครัฐและเอกชน บริษัทห้างร้าน พ่อค้าประชาชน พ่อค้าประชาชน จึงร่วมกันดำเนินการตามลำดับ ดังนี้o การออกแบบแกะสลักหรือประติมากรรมo พิธีเบิกเนตรหลักเมืองo พิธีทรงเจิมหลักเมืองณพระตำหนักจิตรลดารโหฐานo การนำ (เชิญ) หลักเมืองมาประดิษฐานณสนามหน้าเมืองพิธีกรรมต่างๆ ข้างต้นนี้นอกจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วยังมีบุคคลสำคัญอื่นร่วมประกอบพิธีด้วยเช่นพลตำรวจเอกประมาณอดิเรกสารวางศิลาฤกษ์ศาลพระเสื้อเมืองนายอนันต์อนันตกุลวางศิลาฤกษ์สร้างศาลสถิตจตุโลกเทพนายบัญญัติบรรทัดฐานเททองหล่อยอดชัยเสาหลักเมืองเป็นที่น่าแปลกใจอยู่บ้างว่าศาลหรือหลักเมืองนครศรีธรรมราชไม่ปรากฏร่องรอยมาก่อนแต่ใช้คำว่า "บูรณะ" และสถานที่สร้างเป็น "หน้าเมือง" ไม่ใช่ "ในเมือง" ซึ่งเป็นเรื่องน่าสังเกตเพียงเล็กน้อยมิใช่ประเด็นสำคัญ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เองฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีมาก่อนแล้วปรักหักพังไป 12 เมือง (เมืองสิบสองนักษัตร) จะต้องมีหลักเมืองเป็นศักดิ์ศรีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมือง ฝ่ายนี้เห็นว่าควรสร้างหลักเมือง แต่สำหรับการสร้างบ้านเมือง ณ วันพฤหัสบดีแรม 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะศก 649 พ.ศ. 1830
เข้าเกณฑ์ภัยร้ายหลายประการ สมควรที่จะวางชะตาเมืองใหม่เพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข และสร้างหลักเมืองขึ้นเป็นเสาหลักเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนอยู่ควบคู่กับองศ์พระบรมธาตุตลอดไป ฝ่ายนี้ก็มีเหตุผล ได้แก่ สถานที่ต่อไปนี้
1 หินหลักตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า "ท่าชี" ลักษณะเป็นเสาหินขนาดย่อมปัก (ฝัง) ไว้ปัจจุบันหายไปสถานที่นั้นเป็นทางสี่แยกเล็ก ๆ แคบ ๆ คนอายุ 50-60 ปีคงเคยเห็น "หินหลัก" เรื่องนี้สันนิษฐานกันว่า เพราะอยู่ในตัวเมืองชั้นใน เพราะลักษณะเสาหรือหลักเป็นหินมิใช่ไม้หรือปูนที่ทำกันทั่วไป เพราะลักษณะการฝังไม่มีฐานราก
ศาลพระเสื้อเมืองมีหลักฐานปรากฏเป็นเรื่องบอกเล่าประกอบกับข้อเท็จจริงที่มีอยู่ "ศาลพระเสื้อเมือง" ตามคติโบราณ ผู้รักษาบ้านเมืองด้วยศาลพระเสื่อเมืองของนครศรีธรรมราชตั้งอยู่ด้านหลังของหอนาฬิกา ศาลเดิมคงสร้างด้วยไม้จึงไม่เหลือร่องรอยเพราะผุพังลงตามกาลเวลา มีผู้บันทึกไว้ว่าเมื่อประมาณ 80 ปีมาแล้วเป็นศาลไม้หลังคามุงกระเบื้องหันหน้าไปทางทิศตะวันตกภายในประดิษฐานเทพารักษ์สององค์ลักษณะคล้ายกับท้าวกุเวรราชในพระวิหารพระม้าวัดพระมหาธาตุฯ
ฝ่ายนี้สรุปเหตุผลว่าเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองพระหลักเมืองสำคัญคือพระบรมธาตุเจดีย์ มีคนทึกทักเอาว่า ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านั้นแหละคือคุณสมบัติอย่างหนึ่งของคนเมืองนครพูดจากันก่อนและร่วมกันทำเมื่อยุติตกลงกันว่าจะสร้างหลักเมือง (บูรณะ) เนื้อที่ 2 ไร่แล้ว บริษัท ห้างร้านพ่อค้าประชาชนพ่อค้าประชาชนจึงร่วมกันดำเนินการตามลำดับดังนี้
o การออกแบบแกะสลักหรือประติมากรรม
o พิธีเบิกเนตรหลักเมือง
o พิธีทรงเจิมหลักเมือง ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
o การนำ (เชิญ) หลักเมืองมาประดิษฐาน ณ สนามหน้าเมือง
พิธีกรรม ต่าง ๆ ข้างต้นนี้ เช่นพลตำรวจเอกประมาณอดิเรกสารวางศิลาฤกษ์ศาลพระเสื้อเมืองนายอนันต์อนันตกุลวางศิลาฤกษ์สร้างศาลสถิตจตุโลกเทพนายบัญญัติบรรทัดฐานเททองหล่อยอดชัยเสาหลักเมืองเป็นที่น่าแปลกใจอยู่บ้างว่า แต่ใช้คำว่า "บูรณะ" และสถานที่สร้างเป็น "หน้าเมือง" ไม่ใช่ "ในเมือง" มิใช่ประเด็นสำคัญ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ความคิดเรื่องการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชเป็นความเห็นแตกต่างของมหาชนชาวนครศรีธรรมราชเองฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีมาก่อนแล้วปรักหักพังไปเพราะเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองสำคัญ12 เมือง ( เมืองสิบสองนักษัตร ) จะต้องมีหลักเมืองเป็นศักดิ์ศรีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมืองทำให้บ้านเมืองสมบูรณ์แบบตามโบราณประเพณีฝ่ายนี้เห็นว่าควรสร้างหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สืบทอดประวัติมาเป็นเวลาอันยาวนานเป็นมหานครทางภาคใต้และเป็นบ่อเกิดของศิลปวัฒนธรรมสำคัญของชนขาติไทยโดยมีพระบรมธาตุเป็นหลักชัยของชาวพุทธเป็นศูนย์รวมศรัทธาศาสนาและความเชื่อต่างๆจะต้องมีเสาหลักเมืองอันเป็นหลักชัยของบ้านเมืองและอยู่ควบคู่กับศาสนสถานซึ่งจากการศึกษาพบว่าชะตาเมืองของนครศรีธรรมราชได้สร้างขึ้นณวันพฤหัสบดีแรม 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะศก 649 พ .ศ . 1830 ตรงกับสมัยกรุงสุโขทัยมีอำนาจ
ดวงชะตาเมืองนครศรีธรรมราชที่กำหนดขึ้นในครั้งนั้นผู้ทรงวุฒิวิทยากรโหรได้ตรวจสอบพบว่าเข้าเกณฑ์ภัยร้ายหลายประการไม่เป็นผลดีแก่บ้านเมืองทั้งในปัจจุบันและอนาคตสมควรที่จะวางชะตาเมืองใหม่มีความเจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์ตามประเพณีความเชื่อของบรรพบุรุษโดยการวางศิลาฤกษ์ดวงชะตาเมืองขึ้นใหม่และสร้างหลักเมืองขึ้นเป็นเสาหลักเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนอยู่ควบคู่กับองศ์พระบรมธาตุตลอดไปฝ่ายนี้ก็มีเหตุผลมีร่องรองที่น่าจะเป็นสถานที่สร้างหลักเมืองอยู่เหมือนกันได้แก่สถานที่ต่อไปนี้
1 .หินหลักตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า " ท่าชี " ทางด้านทิศเหนือขององค์พระมหาธาตุเจดีย์ลักษณะเป็นเสาหินขนาดย่อมปัก ( ฝัง ) ไว้ปัจจุบันหายไปสถานที่นั้นเป็นทางสี่แยกเล็กๆแคบๆคนอายุ 50-60 ปีคงเคยเห็น
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: