There are many possible definitions

There are many possible definitions of contrast. Some include color; others do not. Travnikova laments, "Such a multiplicity of notions of contrast is extremely inconvenient. It complicates the solution of many applied problems and makes it difficult to compare the results published by different authors."[5]

Various definitions of contrast are used in different situations. Here, luminance contrast is used as an example, but the formulas can also be applied to other physical quantities. In many cases, the definitions of contrast represent a ratio of the type


frac{mbox{Luminance difference}}{mbox{Average luminance}}.
The rationale behind this is that a small difference is negligible if the average luminance is high, while the same small difference matters if the average luminance is low (see Weber–Fechner law). Below, some common definitions are given.

Weber contrast[edit]
Weber contrast is defined as


frac{I-I_mathrm{b}}{I_mathrm{b}},
with I and I_mathrm{b} representing the luminance of the features and the background, respectively. The measure is also referred to as Weber fraction since it is the term which is constant in Weber's Law. Weber contrast is commonly used in cases where small features are present on a large uniform background, i.e., where the average luminance is approximately equal to the background luminance.

Michelson contrast[edit]
Michelson contrast[6] (also known as the Visibility) is commonly used for patterns where both bright and dark features are equivalent and take up similar fractions of the area (e.g. sine-wave gratings). The Michelson contrast is defined as


frac{I_mathrm{max}-I_mathrm{min}}{I_mathrm{max}+I_mathrm{min}},
with I_mathrm{max} and I_mathrm{min} representing the highest and lowest luminance. The denominator represents twice the average of the luminance.[7]

RMS contrast[edit]
Root mean square (RMS) contrast does not depend on the spatial frequency content or the spatial distribution of contrast in the image. RMS contrast is defined as the standard deviation of the pixel intensities:[8]


sqrt{frac{1}{M N}sum_{i=0}^{N-1}sum_{j=0}^{M-1}(I_{ij}-ar{I})^2},
where intensities I_{ij} are the i-th j-th element of the two dimensional image of size M by N. ar{I} is the average intensity of all pixel values in the image. The image I is assumed to have its pixel intensities normalized in the range [0,1].

Contrast sensitivity[edit]
Contrast sensitivity is a measure of the ability to discern between luminances of different levels in a static image. Contrast sensitivity varies between individuals, reaching a maximum at approximately 20 years of age, and at spatial frequencies of about 2–5 cycles/degree. In addition it can decline with age and also due to other factors such as cataracts and diabetic retinopathy.[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีข้อกำหนดเป็นไปได้มากความคมชัด มีสี คนอื่นไม่ Travnikova laments "ดังกล่าวมีมากมายหลายหลากของความเข้าใจของความคมชัดได้ถูกละเลยอย่างมาก มัน complicates แก้ปัญหาหลายปัญหาที่ใช้ และทำให้มันยากเพื่อเปรียบเทียบผลการเผยแพร่ โดยการเขียนแตกต่างกัน"[5]ใช้คำนิยามต่าง ๆ ของความแตกต่างในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่นี่ ใช้เป็นตัวอย่างความส่องสว่างความคมชัด แต่สูตรที่ใช้กับปริมาณทางกายภาพอื่น ๆ ในหลายกรณี คำนิยามของความคมชัดแสดงถึงอัตราส่วนของชนิด frac{mbox{Luminance ความแตกต่าง} } {mbox {ความส่องสว่างเฉลี่ย} }เหตุผลหลังนี้คือ ความแตกต่างเล็ก ๆ เป็นระยะว่าความส่องสว่างเฉลี่ยสูง ในขณะที่ความแตกต่างเล็ก ๆ เหมือนกันเรื่องว่าความส่องสว่างเฉลี่ยต่ำ (ดูกฎหมายแบ่งแยก – Fechner) ด้านล่าง บางข้อกำหนดทั่วไปจะได้รับความแตกต่างแบ่งแยก [แก้ไข]มีกำหนดแบ่งแยกความแตกต่างเป็น frac{I-I_mathrm{b}}{I_mathrm{b } },ฉันและ I_mathrm {b } แทนความส่องสว่างของลักษณะการทำงานและเบื้องหลัง ตามลำดับ วัดยังเรียกว่าเศษส่วนแบ่งแยกเป็นระยะซึ่งเป็นค่าคงที่ในกฎหมายของเวเบอร์ แบ่งแยกความแตกต่างโดยทั่วไปใช้ในกรณีที่คุณลักษณะขนาดเล็กอยู่บนพื้นหลังขนาดใหญ่รูป เช่น ความส่องสว่างเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเท่ากับความส่องสว่างพื้นหลังความคมชัด Michelson [แก้ไข]โดยทั่วไปใช้ Michelson คมชัด [6] (หรือที่เรียกว่ามองเห็นได้) สำหรับรูปแบบที่สดใส และเข้มเทียบเท่า และใช้คล้ายเศษของพื้นที่ (เช่นคลื่นไซน์ gratings ผ่านความพยายาม) ความคมชัด Michelson ถูกกำหนดให้เป็น frac{I_mathrm{max}-I_mathrm{min}}{I_mathrm{max}+I_mathrm{min } },I_mathrm {สูงสุด} และ I_mathrm {นาที} แทนความส่องสว่างสูงสุด และต่ำสุด ตัวหารแสดงถึงสองครั้งค่าเฉลี่ยของความส่องสว่าง[7]ความแตกต่างของ RMS [แก้ไข]รากค่าเฉลี่ยกำลังสอง (RMS) ความแตกต่างขึ้นอยู่กับเนื้อหาความถี่พื้นที่หรือการกระจายของความคมชัดในภาพ RMS คมถูกกำหนดเป็นส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของการปลดปล่อยก๊าซพิกเซล: [8]sum_ sqrt{frac{1}{M N } {ฉัน = 0 } ^ {N-1 } sum_ { j = 0 } ^ { M-1 } (I_ {ij แค} -ar {i }) ^ 2 },องค์ประกอบเจ th i th ของทั้งสองปลดปล่อยก๊าซ I_ {ij แค} รูปมิติขนาด M โดย ar{I ตอนเหนือ} เป็นความเข้มเฉลี่ยของค่าทั้งหมดของพิกเซลในภาพ รูปผมจะถือว่าได้ปลดปล่อยก๊าซของพิกเซลที่ตามปกติในช่วง [0,1]ความไวความคมชัด [แก้ไข]ความไวความคมชัดเป็นการวัดความสามารถในการแยกแยะระหว่าง luminances ของระดับต่าง ๆ ในรูปแบบสแตติก ความไวความคมชัดแตกต่างกันระหว่างบุคคล ถึงสูงสุด ที่อายุประมาณ 20 ปี และ ที่ความถี่พื้นที่ประมาณ 2-5 รอบ/ปริญญา นอกจากนี้ มันสามารถปฏิเสธ กับอายุ และเนื่อง จากปัจจัยอื่น ๆ เช่นต้อกระจกและโรคโรคเบาหวาน[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีหลายที่เป็นไปได้ คำนิยามของความคมชัด บางรวมสี คนอื่นไม่ได้ travnikova ได้ที " หลายหลากความคิดของความคมชัดมาก ไม่สะดวก มันมีความซับซ้อนของโซลูชั่นที่ใช้หลายปัญหาและทำให้มันยากที่จะเปรียบเทียบผลการตีพิมพ์โดยผู้เขียนที่แตกต่างกัน . " [ 5 ]

ต่าง ๆความหมายของความคมชัดจะใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ . ที่นี่ความสว่าง ความคมชัด ใช้เป็นตัวอย่าง แต่สูตรที่สามารถใช้ปริมาณทางกายภาพอื่น ๆ ในหลายกรณี คำนิยามของความคมชัดที่แสดงสัดส่วนของประเภท


frac { mbox { ความสว่างต่างกัน } } { mbox { เฉลี่ยความสว่าง } } .
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้คือว่า ความแตกต่างเล็ก ๆกระจอก ถ้าความสว่างเฉลี่ยสูงในขณะที่เดียวกันความแตกต่างเล็ก ๆ เรื่องหากความสว่างเฉลี่ยต่ำ ( ดู เวเบอร์ - เฟ็กเนอร์กฎหมาย ) ด้านล่าง มีคำนิยามทั่วไปจะได้รับ

[ แก้ไข ]
เวเบอร์ Weber ความคมชัดความคมชัด เช่น


frac i-i_ { b } { mathrm } { mathrm i_ { B } }
กับผมและ i_ mathrm { B } แสดงความสว่างของคุณสมบัติและพื้นหลัง ตามลำดับ .วัดเป็นยังเรียกว่า เวเบอร์ เศษส่วน เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่เป็นค่าคงที่ใน เวเบอร์ คือกฎหมาย เวเบอร์ ความคมชัดจะนิยมใช้ในกรณีที่มีขนาดเล็กที่มีอยู่ในชุดพื้นหลังขนาดใหญ่ เช่น ที่ความสว่างเฉลี่ยประมาณเท่ากับความสว่างพื้นหลัง

ไมเคลสันคมชัด [ แก้ไข ]
ไมเคิลสันคมชัด [ 6 ] ( เรียกว่าการมองเห็น ) เป็นที่ใช้กันทั่วไปสำหรับรูปแบบที่ด้านสว่างและด้านมืด คุณสมบัติเทียบเท่าและใช้เศษส่วนที่คล้ายกันของพื้นที่ ( เช่นคลื่นไซน์ gratings ) ความคมชัดของ Michelson หมายถึง


frac { mathrm i_ { max } - i_ mathrm มิน } } { { { mathrm i_ max } { mathrm i_ มิน } }
{ mathrm กับ i_ max } และ i_ มิน } { mathrm เป็นตัวแทนของความสว่างสูงสุดและต่ำสุด .ส่วนที่เป็นสองเท่าของค่าเฉลี่ยของความส่องสว่าง [ 7 ]

ค่าความคมชัด [ แก้ไข ]
รากหมายความว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัส ( RMS ) ความคมชัดไม่ได้ขึ้นอยู่กับความถี่เชิงเนื้อหาหรือการกระจายเชิงพื้นที่ของความแตกต่างในรูป ค่าความคมชัด หมายถึง จำนวนของพิกเซลเข้ม : [ 8 ]


/ SQRT { frac { 1 } { M } { N sum_ = 0 }
{ sum_ N - 1 } { j = 0 }
{ m-1 } ( i_ { ij } { ฉัน } - บาร์ )
2 } ,
ที่เข้ม i_ { ij } เป็น i-th j-th องค์ประกอบของภาพสองมิติของขนาด m bar { ฉัน } โดย มีค่าเฉลี่ยความเข้มของค่าพิกเซล ทั้งหมดในรูป ภาพผมจะถือว่ามีความเข้มของพิกเซลสูงในช่วง 0.1 [ ]

[ แก้ไข ]
ความคมชัดความคมชัดความไวความไวในการวัดความสามารถในการแยกแยะระหว่างระดับที่แตกต่างกันใน luminances ของภาพนิ่ง .ความไวของความคมชัดจะแตกต่างกันระหว่างบุคคล ถึงสูงสุดที่ประมาณ 20 ปีของอายุและที่ความถี่เชิงพื้นที่ประมาณ 2 – 5 รอบ / ปริญญา นอกจากนี้มันสามารถลดลงด้วยอายุ และยังเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ต้อกระจกและโรคจอตาเสื่อมจากเบาหวาน [ 9 ]