2.4. The present researchBased on t

2.4. The present research
Based on the SDT and on the assumption that low levels of basic
need satisfaction may relate to FoMO and social media engagement,
the aim of the present research was to examine for the first
time possible links between these constructs in the academic arena.
In order to properly assess these connections, a new scale was
constructed and validated to map and measure social media activities
students engaged in during classes.
The following hypotheses were formulated to guide the study:
H1. Students, who are high in basic need satisfaction, in terms of
being intrinsically motivated for learning, would be less inclined
toward social media use in the classroom. Whereas amotivated or
extrinsically motivated students would tend toward using social
media tools available.
H2. Based on the assumption that psychological need deficits can
lead some toward a general sensitivity to FoMO, it is hypothesized
that FoMO would serve as a mediator linking motivational deficits
to social media engagement. Furthermore, background variables,
such as gender, age, and socio-economic status, will also be
addressed in this research in order to assess how these variables
intersect and may contribute to the measured variables. Fig. 1
demonstrates the theoretical structure of the proposed framework.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.4. การวิจัยนำเสนอตาม SDT และสมมุติฐานว่าระดับขั้นพื้นฐานต้องการความพึงพอใจอาจเกี่ยวข้องกับ FoMO และสังคมหมั้นจุดมุ่งหมายของการวิจัยปัจจุบันคือการ ตรวจสอบในครั้งแรกเวลาสามารถเชื่อมโยงระหว่างโครงสร้างเหล่านี้ในเวทีวิชาการการประเมินเหล่านี้เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง ถูกขนาดใหม่ตรวจสอบความถูกต้อง และสร้างแผนที่วัดสังคมกิจกรรมและนักเรียนเข้าร่วมในระหว่างเรียนสมมุติฐานต่อไปนี้ได้ทำการศึกษาให้คำแนะนำ:H1 นักเรียน ที่สูงในความต้องการพื้นฐานความพึงพอใจ เงื่อนไขการกำลังรุ่นแรงจูงใจในการเรียนรู้ จะได้น้อยหัวต่อการใช้สื่อทางสังคมในห้องเรียน ในขณะที่ amotivated หรือนักเรียน extrinsically แรงจูงใจจะมีแนวโน้มไปทางการใช้สังคมเครื่องมือสื่อมีH2 ตามสมมติฐานทางจิตวิทยาที่ต้องขาดดุลสามารถนำบางส่วนไปไวทั่วไป FoMO จะตั้งสมมติฐานว่าFoMO นั้นจะทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเป็นการเชื่อมโยงขาดดุลหัดการหมั้นของสังคม นอกจากนี้ พื้นหลังตัวแปรเช่นเพศ อายุ และสถานะทางเศรษฐกิจสังคม จะอยู่ในงานวิจัยนี้เพื่อที่จะประเมินตัวแปรวิธีเหล่านี้อิน และอาจนำไปสู่ตัวแปรที่วัด Fig. 1แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทฤษฎีของกรอบการนำเสนอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.4 การวิจัยในปัจจุบันขึ้นอยู่กับ SDT และบนสมมติฐานว่าระดับต่ำของระดับความพึงพอใจของความต้องการที่อาจเกี่ยวข้องกับFoMO และการสู้รบสื่อสังคมจุดมุ่งหมายของการวิจัยในปัจจุบันคือการตรวจสอบเป็นครั้งแรกเวลาที่เป็นไปได้ระหว่างการเชื่อมโยงโครงสร้างเหล่านี้ในเวทีวิชาการเพื่อที่จะประเมินการเชื่อมต่อเหล่านี้ขนาดใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นและตรวจสอบไปยังแผนที่และวัดกิจกรรมสื่อสังคมนักเรียนมีส่วนร่วมในในระหว่างการเรียน. สมมติฐานดังต่อไปนี้เป็นสูตรเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา: H1 นักเรียนที่มีความสูงในความพึงพอใจความต้องการขั้นพื้นฐานในแง่ของการเป็นแรงบันดาลใจยิ่งสำหรับการเรียนรู้จะมีแนวโน้มน้อยลงที่มีต่อการใช้สื่อทางสังคมในห้องเรียน ในขณะที่ amotivated หรือภายนอกนักเรียนมีแรงจูงใจที่จะมีแนวโน้มที่มีต่อสังคมโดยใช้เครื่องมือสื่อที่มีอยู่. H2 ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าจำเป็นที่จะต้องขาดดุลทางจิตวิทยาที่สามารถนำไปสู่บางอย่างที่มีต่อความไวทั่วไป FoMO ก็คือการตั้งสมมติฐานว่าFoMO จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงการขาดดุลสร้างแรงบันดาลใจในการมีส่วนร่วมของสื่อทางสังคม นอกจากนี้ตัวแปรพื้นหลังเช่นเพศอายุและสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมก็จะได้รับการแก้ไขในการวิจัยครั้งนี้เพื่อประเมินว่าตัวแปรเหล่านี้ตัดและอาจนำไปสู่ตัวแปรวัด มะเดื่อ. 1 แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทางทฤษฎีของกรอบที่นำเสนอ