Muhammad Yunus earned a doctorate i

Muhammad Yunus earned a doctorate in economics from Vanderbilt University in the United States. He was inspired during the Bangladesh famine of 1974 to make a small loan of US$27 to a group of 42 families as start-up money so that they could make items for sale, without the burdens of high interest under predatory lending.[8] Yunus believed that making such loans available to a larger population could stimulate businesses and reduce the widespread rural poverty in Bangladesh.


Nobel Laureate Muhammad Yunus, the bank's founder
Yunus developed the principles of the Grameen Bank (literally, "Bank of the Villages" in Bengali) from his research and experience. He began to expand microcredit as a research project together with the Rural Economics Project at Bangladesh's University of Chittagong to test his method for providing credit and banking services to the rural poor. In 1976, the village of Jobra and other villages near the University of Chittagong became the first areas eligible for service from Grameen Bank.[9] Proving successful, the Bank project, with support from the central Bangladesh Bank, was extended in 1979 to the Tangail District (to the north of the capital, Dhaka).[9] The bank's success continued and its services were extended to other districts of Bangladesh.
By a Bangladeshi government ordinance on October 2, 1983, the project was authorized and established as an independent bank.[9] Bankers Ron Grzywinski and Mary Houghton of ShoreBank, a community development bank in Chicago, helped Yunus with the official incorporation of the bank under a grant from the Ford Foundation.[10] The bank's repayment rate suffered from the economic disruption following the 1998 flood in Bangladesh, but it recovered in the subsequent years. By the beginning of 2005, the bank had loaned over USD 4.7 billion[11] and by the end of 2008, USD 7.6 billion[12] to the poor.
The Bank continues to expand across the nation and provide small loans to the rural poor. By 2006, Grameen Bank branches numbered over 2,100.[13] Its success has inspired similar projects in more than 40 countries around the world, including a World Bank initiative to finance Grameen-type schemes.[14]
The bank has gained its funding from different sources, and the main contributors have shifted over time. In the initial years, donor agencies used to provide the bulk of capital at low rates. By the mid-1990s, the bank started to get most of its funding from the central bank of Bangladesh. More recently, Grameen has started bond sales as a source of finance. The bonds are implicitly subsidised, as they are guaranteed by the Government of Bangladesh, and still they are sold above the bank rate.[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มูฮัมหมัดยูนัสได้รับปริญญาเอกในสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Vanderbilt ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาได้รับแรงบันดาลใจจากความอดอยากในช่วงที่ประเทศบังคลาเทศปี 1974 เพื่อให้เงินกู้ขนาดเล็กของเรา $ 27 กลุ่มจาก 42 ครอบครัวเป็นเงินเริ่มต้นขึ้นเพื่อให้พวกเขาสามารถทำให้รายการสำหรับการขายโดยไม่ต้องเป็นภาระของดอกเบี้ยสูงภายใต้การให้กู้ยืมที่กินสัตว์อื่น[8] Yunus เชื่อว่าการทำเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแก่ประชากรขนาดใหญ่สามารถกระตุ้นธุรกิจและลดความยากจนในชนบทอย่างกว้างขวางในบังคลาเทศ.


รางวัลโนเบลมูฮัมหมัดยูนัสผู้ก่อตั้งธนาคาร
yunus พัฒนาหลักการของธนาคารกรามี (ตัวอักษร " ธนาคารหมู่บ้าน "ในเบงกาลี) จากการวิจัยและประสบการณ์ของเขาเขาเริ่มที่จะขยายสินเชื่อเป็นโครงการวิจัยร่วมกับโครงการเศรษฐกิจในชนบทที่ประเทศบังคลาเทศของมหาวิทยาลัยจิตตะกองเพื่อทดสอบวิธีการของเขาสำหรับการให้สินเชื่อและการบริการด้านการธนาคารเพื่อคนจนในชนบท ในปี 1976 หมู่บ้าน jobra และหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยจิตตะกองกลายเป็นพื้นที่แรกที่มีสิทธิ์เข้าใช้บริการจากธนาคารกรา. [9] การพิสูจน์ที่ประสบความสำเร็จโครงการธนาคารด้วยการสนับสนุนจากภาคกลางของประเทศบังคลาเทศธนาคารได้ขยายในปี 1979 ไปยังย่าน Tangail (ไปทางเหนือของเมืองหลวงธากา). [9] ความสำเร็จของธนาคารอย่างต่อเนื่องและบริการของกำลังขยายไปยังอำเภออื่น ๆ ของประเทศบังคลาเทศ.
โดยคำสั่งของรัฐบาลบังคลาเทศเมื่อ 2 ตุลาคม 1983, โครงการได้รับอนุญาตและเป็นที่ยอมรับในฐานะธนาคารที่เป็นอิสระ[9] ธนาคารรอน grzywinski และแมรี่ฮัฟตั้นของ shorebank, ธนาคารเพื่อการพัฒนาชุมชนในชิคาโกช่วย yunus ที่มีการรวมตัวกันอย่างเป็นทางการของธนาคารภายใต้ทุนจากฟอร์ดรากฐาน. [10] อัตราการชำระหนี้ของธนาคารที่รับความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจหยุดชะงักต่อไปนี้ 1998 น้ำท่วมในบังคลาเทศ แต่มันหายไปในปีต่อ ๆ มา โดยจุดเริ่มต้นของปี 2005,ธนาคารได้ยืมเหรียญสหรัฐ 4700000000 [11] และในตอนท้ายของปี 2008, usd 7600000000 [12] กับคนยากจน.
ธนาคารยังคงขยายตัวไปทั่วประเทศและให้สินเชื่อขนาดเล็กเพื่อให้คนจนในชนบท 2006 โดยสาขาธนาคาร Grameen หมายเลขกว่า 2,100. [13] ความสำเร็จที่ได้รับแรงบันดาลใจโครงการที่คล้ายกันในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก,รวมทั้งความมุ่งมั่นของธนาคารในโลกเพื่อเป็นเงินทุนโครงการประเภท Grameen. [14]
ธนาคารได้รับเงินทุนจากแหล่งที่แตกต่างกันและมีส่วนร่วมหลักได้ขยับตัวไปมาอยู่ตลอดเวลา ในปีที่เริ่มต้นหน่วยงานผู้บริจาคมาใช้เพื่อให้จำนวนมากของเงินทุนในอัตราที่ต่ำ โดยกลางปี​​ 1990, ธนาคารเริ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการระดมทุนจากธนาคารกลางของประเทศบังคลาเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้Grameen ได้เริ่มต้นการขายพันธบัตรเป็นแหล่งที่มาของเงินทุน พันธบัตรที่มีการอุดหนุนโดยปริยายเช่นที่พวกเขาได้รับการรับรองโดยรัฐบาลของประเทศบังคลาเทศและยังคงพวกเขาจะขายที่สูงกว่าอัตราที่ธนาคาร. [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มุหัมมัดยูนูสรับเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวนเดอร์บิลธ์ในสหรัฐอเมริกา เขาได้แรงบันดาลใจในระหว่างภาวะเทศของ 1974 การให้เงินกู้ขนาดเล็กของสหรัฐอเมริกา $ 27 กลุ่มครอบครัว 42 เป็นเงินเริ่มต้นเพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างสินค้าสำหรับการขาย ไม่มีภาระของดอกเบี้ยสูงภายใต้การให้กู้ยืมเงินมหาศาล[8] ยูนูสเชื่อว่า ทำให้เงินกู้ยืมดังกล่าวมีประชากรที่ใหญ่กว่าสามารถกระตุ้นธุรกิจ และลดความยากจนชนบทอย่างแพร่หลายในบังคลาเทศ


โนเบล Laureate หัมยูนูส ผู้ก่อตั้งธนาคาร
ยูนูสพัฒนาหลักของ ธนาคารกรามีนยูหมู่ (อักษร, "ธนาคารของบ้าน" เบ็งกอล) จากการวิจัยและประสบการณ์ของเขา เขาเริ่มขยาย microcredit เป็นโครงการวิจัยร่วมกับโครงการเศรษฐศาสตร์ชนบทที่มหาวิทยาลัยจิตตะกองบังคลาเทศเพื่อทดสอบวิธีการของเขาสำหรับการให้สินเชื่อ และบริการธนาคารเพื่อคนจน ในปี 1976 หมู่บ้าน Jobra และหมู่บ้านอื่น ๆ ใกล้มหาวิทยาลัยจิตตะกองกลายเป็น พื้นที่แรกที่รับบริการจาก ธนาคารนูส[9] พิสูจน์ความสำเร็จ มีขยายโครงการธนาคาร ด้วยการสนับสนุนจาก ธนาคารกลางของประเทศบังกลาเทศ ในปีค.ศ. 1979 เขต Tangail (ทางเหนือของเมืองหลวง ธากา)[9] ธนาคารประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และได้ขยายบริการของเขตอื่น ๆ ของประเทศบังกลาเทศ
ตามกฤษฎีการัฐบาลบังคลาเทศบน 2 ตุลาคม 1983 โครงการถูกอำนาจ และก่อตั้งเป็นธนาคารเป็นอิสระ[9] ธนาคาร Ron Grzywinski และ Mary Houghton ของ ShoreBank ธนาคารพัฒนาชุมชนในชิคาโก ช่วยยูนูสพร้อมจดทะเบียนอย่างเป็นทางการของธนาคารภายใต้การให้จากมูลนิธิฟอร์ด[10] อัตราค่าของธนาคารรับความเดือดร้อนจากทีมเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมปี 1998 ในประเทศบังกลาเทศ แต่มันกู้คืนในปีต่อมา ต้นปี 2005 มีการกู้ยืมธนาคารกว่า 4.7 พันล้าน USD [11] และสิ้นสุด 2008, 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ [12] เพื่อคนจน
ธนาคารยังขยายทั่วประเทศ และสินเชื่อขนาดเล็กให้คนจน โดย 2006 นูส ธนาคารสาขาเลข 2,100 กว่า[13] ความสำเร็จเป็นแรงบันดาลใจเหมือนโครงการในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งริเริ่มโครงการธนาคารโลกเงินนูสชนิดโครงร่าง[14]
ธนาคารได้รับการจัดหาเงินทุนจากแหล่งต่าง ๆ และผู้ให้การสนับสนุนหลักได้เปลี่ยนช่วงเวลา ในการเริ่มต้นปี หน่วยงานผู้บริจาคใช้เป็นกลุ่มทุนที่ราคาต่ำสุด โดยในกลางทศวรรษที่ 1990 ธนาคารเริ่มจะได้รับส่วนใหญ่ของเงินทุนจากธนาคารกลางของประเทศบังกลาเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นูสได้เริ่มขายพันธบัตรเป็นแหล่งของเงิน ความผูกพันที่มีนัย subsidised มีรับประกัน โดยรัฐบาลบังกลาเทศ และยังคง จะขายสูงกว่าอัตราธนาคาร[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Muhammad yunus ได้รับปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Vanderbilt , Music Row ,ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาได้รับแรงบันดาลใจในระหว่างความอดอยากบังกลาเทศของ 1974 เพื่อทำให้เงินกู้ขนาดเล็กของสหรัฐฯ 27 ในกลุ่มที่ 42 ครอบครัวเป็นเงินเริ่มต้นขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะไม่สามารถทำให้รายการสำหรับการขายโดยไม่แบ่งเบา ภาระ ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงตาม[ 8 ] yunus เชื่อว่าทำให้เงินกู้ดังกล่าวให้ใช้งานให้ประชากรขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถกระตุ้นให้ธุรกิจและช่วยลดปัญหาความยากจนในชนบทอย่างกว้างขวางในบังกลาเทศ.


Muhammad yunus เจ้าของรางวัลโนเบลผู้ก่อตั้งของธนาคารที่
yunus พัฒนาหลักการของธนาคาร grameen (อย่างแท้จริง"ธนาคารในหมู่บ้านที่"ในเบงกาลี)จากประสบการณ์และการวิจัยของเขา.เขาเริ่มขยาย microcredit เป็นโครงการการวิจัยด้วยกันพร้อมด้วยในชนบททางด้านเศรษฐศาสตร์โครงการที่มหาวิทยาลัยของบังกลาเทศของจิตตะกองเพื่อทดสอบการใช้วิธีการของเขาในการให้บริการทางการเงินและการสนับสนุนทางการเงินเพื่อคนจนในชนบทได้ ในปี 1976 หมู่บ้านที่ในหมู่บ้านอื่นๆและ jobra ใกล้กับมหาวิทยาลัยของจิตตะกองกลายเป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับการบริการจากธนาคาร grameen [ 9 ]เพื่อพิสูจน์ความสำเร็จโครงการธนาคารที่พร้อมด้วยการสนับสนุนจากบังกลาเทศธนาคารกลางจีนได้ขยายพื้นที่ในปี 1979 เพื่อ tangail เขต(ไปทางด้านทิศเหนือของเมืองหลวงแห่งนี้ธากา)[ 9 ]ประสบความสำเร็จของธนาคารได้อย่างต่อเนื่องและบริการต่างๆของโรงแรมได้ขยายไปสู่เขตพื้นที่อื่นๆของบังกลาเทศ.
ตามกฎของรัฐบาลบัในวันที่ 2 ตุลาคม 1983 โครงการที่รับอนุญาตและจัดตั้งเป็นธนาคารที่เป็นอิสระ[ 9 ]สมาคมร่อน grzywinski และแมรี่ Downtown Houghton shorebank ของธนาคารการพัฒนาชุมชนแห่งหนึ่งในชิคาโกช่วย yunus พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัทฯอย่างเป็นทางการของธนาคารตามสิทธิที่จากฟอร์ดมูลนิธิ.[ 10 ]ที่อัตราการชำระหนี้ของธนาคารได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจที่ต่อไปนี้: 1998 น้ำท่วมในบังกลาเทศแต่เริ่มฟื้นตัวในปีถัดไป ในช่วงต้นของปี 2005ธนาคารได้ยืมเงินดอลลาร์มากกว่า 4.7 พันล้านบาท[ 11 ]และในช่วงปลายปี 2008 ดอลลาร์สหรัฐ 7.6 พันล้าน[ 12 ]เพื่อคนยากจน.ธนาคาร
ที่ยังคงมีการขยายข้ามชาติและเป็นการให้สินเชื่อขนาดเล็กเพื่อคนจนในชนบทได้ โดย 2006 grameen ธนาคารจำนวนมากกว่า 2,100 .[ 13 ]ประสบความสำเร็จของโครงการได้รับแรงบันดาลใจได้เหมือนในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกรวมถึงโลกความคิดริเริ่มธนาคารที่เป็นทุน grameen - พิมพ์โครงสร้าง.[ 14 ]
ธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากแหล่งที่แตกต่างกันและผู้สนับสนุนหลักที่มีการปรับเปลี่ยนเวลาผ่านไป ในปีแรกที่หน่วยงานผู้บริจาคนำมาใช้ในการจัดให้บริการเป็นจำนวนมากของเมืองหลวงที่อัตราค่าบริการระดับต่ำ โดยกลางทศวรรษ 1990 โดยธนาคารได้เริ่มที่จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกลางของบังกลาเทศมากที่สุด เมื่อไม่นานมานี้grameen เริ่มมีการขายพันธบัตรเป็นแหล่งที่มาของเงินทุน พันธบัตรที่มีรักษาพยาบาลถือได้ว่าพวกเขาได้รับการรับประกันว่าเป็นของรัฐบาลบังกลาเทศและพวกเขายังคงมีจำหน่ายสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร.[ 15 ]