Servitudes[2] are legal arrangement

Servitudes[2] are legal arrangements of land use arising out of private agreements. Under the feudal system, most land in England was cultivated in common fields, where peasants were allocated strips of arable land that were used to support the needs of the local village or manor. By the sixteenth century the growth of population and prosperity provided incentives for landowners to use their land in more profitable ways, dispossessing the peasantry. Common fields were aggregated and enclosed by large and enterprising farmers—either through negotiation among one another or by lease from the landlord—to maximize the productivity of the available land and contain livestock. Fences redefined the means by which land is used, resulting in the modern law of servitudes.[3]


A wattle fence at Sanok-Skansen outdoor museum in Poland
In the United States, the earliest settlers claimed land by simply fencing it in. Later, as the American government formed, unsettled land became technically owned by the government and programs to register land ownership developed, usually making raw land available for low prices or for free, if the owner improved the property, including the construction of fences. However, the remaining vast tracts of unsettled land were often used as a commons, or, in the American West, "open range" As degradation of habitat developed due to overgrazing and a tragedy of the commons situation arose, common areas began to either be allocated to individual landowners via mechanisms such as the Homestead Act and Desert Land Act and fenced in, or, if kept in public hands, leased to individual users for limited purposes, with fences built to separate tracts of public and private land.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Servitudes [2] มีการเตรียมการทางกฎหมายของการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงส่วนตัว ภายใต้ระบบศักดินาที่ดินมากที่สุดในประเทศอังกฤษได้รับการปลูกฝังในสาขาทั่วไปที่ชาวบ้านถูกจัดสรรแถบของที่ดินทำกินที่ถูกนำมาใช้เพื่อรองรับความต้องการของหมู่บ้านท้องถิ่นหรือคฤหาสน์ โดยศตวรรษที่สิบหกการเจริญเติบโตของประชากรและความเจริญรุ่งเรืองให้แรงจูงใจให้เจ้าของที่ดินที่จะใช้ที่ดินของพวกเขาในรูปแบบที่มีกำไรมากขึ้นขับไล่ชาวชนบท สาขาสามัญได้รับการรวบรวมและล้อมรอบด้วยขนาดใหญ่และกล้าได้กล้าเสียเกษตรกรทั้งผ่านการเจรจาต่อรองในหมู่คนอื่นหรือโดยการเช่าจากเจ้าของบ้านเพื่อเพิ่มผลผลิตของที่ดินที่มีอยู่และมีปศุสัตว์ รั้วนิยามใหม่ของวิธีการที่จะใช้ที่ดินที่มีผลในทางกฎหมายที่ทันสมัยของการดําเนิน. [3] รั้วเหนียงที่ Sanok-Skansen พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในโปแลนด์ในสหรัฐอเมริกาตั้งถิ่นฐานอ้างว่าที่ดินโดยเพียงแค่ในรั้ว. ต่อมา ขณะที่รัฐบาลอเมริกันที่เกิดขึ้นกลายเป็นดินแดนที่ไม่แน่นอนในทางเทคนิคที่เป็นเจ้าของโดยรัฐบาลและโปรแกรมที่จะลงทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดินที่พัฒนามักจะทำให้ที่ดินดิบใช้ได้สำหรับราคาที่ต่ำหรือฟรีถ้าเจ้าของสถานที่ให้บริการที่ดีขึ้นรวมทั้งการก่อสร้างรั้ว แต่ผืนใหญ่ที่เหลืออยู่ของที่ดินไม่แน่นอนมักจะถูกนำมาใช้เป็นสาธารณะหรือในภาคตะวันตกของอเมริกา "ช่วงเปิด" ในขณะที่การสลายตัวของที่อยู่อาศัยที่ได้รับการพัฒนาอันเนื่องมาจาก overgrazing และโศกนาฏกรรมของคอมมอนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่พบบ่อยเริ่มที่จะเป็นได้ทั้ง จัดสรรให้กับเจ้าของที่ดินแต่ละบุคคลผ่านทางกลไกเช่นไร่โฉนดที่ดินและทะเลทรายพระราชบัญญัติและไม่พอใจหรือถ้าเก็บไว้ในมือของประชาชนที่เช่าให้กับผู้ใช้แต่ละจุดประสงค์ที่ จำกัด ด้วยรั้วสร้างขึ้นเพื่อให้สถานที่แยกต่างหากจากที่ดินของรัฐและเอกชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาระจำยอม [ 2 ] เป็นข้อตกลงทางกฎหมายของการใช้ที่ดินที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงส่วนตัว ภายใต้ระบบศักดินาที่ดินมากที่สุดในอังกฤษคือการปลูกในเขตข้อมูลทั่วไป ที่ชาวนาได้รับการจัดสรรแถบของที่ดินเพาะปลูกที่ใช้เพื่อรองรับความต้องการของหมู่บ้านในท้องถิ่นหรือคฤหาสน์โดยศตวรรษที่ 16 ของการเจริญเติบโตของประชากรและความเจริญให้สิ่งจูงใจสำหรับเจ้าของที่ดิน เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินของพวกเขาในวิธี dispossessing ชาวนา .สาขาทั่วไป ( รวม และล้อมรอบด้วยเกษตรกรขนาดใหญ่และกล้าได้กล้าเสีย ผ่านการเจรจาระหว่างกัน หรือเช่าจากเจ้าของที่ดิน เพื่อเพิ่มผลผลิตของที่ดินที่มีอยู่ และประกอบด้วยปศุสัตว์ กรอบจำกัดความหมายถึงซึ่งที่ดินที่ใช้ ส่งผลให้กฎหมายที่ทันสมัยของภาระจำยอม [ 3 ]


เหนียงรั้วที่สนุก skansen
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในโปแลนด์ในสหรัฐอเมริกา การขอคืนที่ดินเก่า โดยเพียงแค่รั้วเลย ต่อมาเมื่อรัฐบาลอเมริกันที่เป็นเจ้าของที่ดินเป็นในทางเทคนิคที่เกิดขึ้น โดยโปรแกรมของรัฐบาลและการลงทะเบียนการถือครองที่ดิน พัฒนา มักจะทำให้ที่ดินดิบพร้อมใช้งานราคาต่ำหรือฟรีถ้าเจ้าของทรัพย์สินเพิ่มขึ้น รวมทั้ง การสร้างรั้วบ้าน อย่างไรก็ตามเหลือผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ที่มักจะถูกใช้เป็นส่วนรวม หรือในแถบตะวันตกของอเมริกา เปิด " ช่วง " การย่อยสลายของที่อยู่อาศัยการพัฒนาเนื่องจาก overgrazing และโศกนาฏกรรมของคอมมอนส์สถานการณ์เกิดขึ้น พื้นที่ทั่วไป เริ่มด้วยการจัดสรร เจ้าของที่ดินแต่ละคนผ่านกลไก เช่น พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติที่ดินบ้านพักและทะเลทรายและ ล้อมรั้ว หรือ ถ้าอยู่ในมือประชาชนเช่าไปยังผู้ใช้แต่ละคนเพื่อวัตถุประสงค์ที่ จำกัด กับกรอบที่สร้างขึ้นแยกผืนที่ดินของภาครัฐและเอกชน