Romance of Leadership Our examinati

Romance of Leadership
Our examination of follower-centric views begins with a focus on what the leadership literature describes as the romance of leadership. Meindl et al. (1985) proposed a social constructionist theory to describe the relationship between leadership and followership. They argued that leadership is significantly affected by the way followers construct their understanding of the leader in terms of their interpretation of his or her personality, behaviors, and effectiveness. Accumulated research on the romance of leadership has produced mixed findings. Schyns et al. (2007) conducted a meta-analysis to determine whether they could tease out the effects controlling for such things as measurement error and sampling bias while focusing on whether followers had a tendency to romanticize their perceptions of transformational/charismatic leadership. Their results revealed a modest relationship between the romance of leadership and perceptions of transformational/charismatic leadership, accounting for approximately 5% of the variance in leadership ratings. In another study, Kulich et al. (2007) examined the relevance of the romance of leadership theory through an experiment that compared how the performance of a male and a female leader was viewed by allowing participants to choose how much of a bonus to allocate to the leader. Their results showed that the male CEO’s bonus differed substantially depending on the company’s performance, whereas no differences were reported for the female CEO. Bligh et al. (2007) found that followers’ negative views of their work environment were overly attributed to their leaders’ in that they viewed the leader as more responsible for these negative outcomes and situations than was warranted. Along the same lines, Weber et al. (2001) reported that group success and failure were overly attributed to the leader. However, these authors also reported that attributions of failure to the leader may have had more significant negative repercussions, with the failing team consistently voting to replace their leaders when the situation was more of the cause for the team’s failure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรแมนติกของผู้นำ Our examination of follower-centric views begins with a focus on what the leadership literature describes as the romance of leadership. Meindl et al. (1985) proposed a social constructionist theory to describe the relationship between leadership and followership. They argued that leadership is significantly affected by the way followers construct their understanding of the leader in terms of their interpretation of his or her personality, behaviors, and effectiveness. Accumulated research on the romance of leadership has produced mixed findings. Schyns et al. (2007) conducted a meta-analysis to determine whether they could tease out the effects controlling for such things as measurement error and sampling bias while focusing on whether followers had a tendency to romanticize their perceptions of transformational/charismatic leadership. Their results revealed a modest relationship between the romance of leadership and perceptions of transformational/charismatic leadership, accounting for approximately 5% of the variance in leadership ratings. In another study, Kulich et al. (2007) examined the relevance of the romance of leadership theory through an experiment that compared how the performance of a male and a female leader was viewed by allowing participants to choose how much of a bonus to allocate to the leader. Their results showed that the male CEO’s bonus differed substantially depending on the company’s performance, whereas no differences were reported for the female CEO. Bligh et al. (2007) found that followers’ negative views of their work environment were overly attributed to their leaders’ in that they viewed the leader as more responsible for these negative outcomes and situations than was warranted. Along the same lines, Weber et al. (2001) reported that group success and failure were overly attributed to the leader. However, these authors also reported that attributions of failure to the leader may have had more significant negative repercussions, with the failing team consistently voting to replace their leaders when the situation was more of the cause for the team’s failure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรแมนติกของความเป็นผู้นำการตรวจสอบของเรามุมมองของลูกศิษย์เป็นศูนย์กลางเริ่มต้นที่มีความสำคัญกับสิ่งที่เป็นผู้นำวรรณกรรมอธิบายว่าเป็นความโรแมนติกของการเป็นผู้นำ Meindl et al, (1985) เสนอทฤษฎีทางสังคมตีความเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำและผู้ตาม พวกเขาอ้างว่าเป็นผู้นำที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญโดยติดตามวิธีการสร้างความเข้าใจของผู้นำในแง่ของการตีความของบุคลิกภาพของเขาหรือเธอพฤติกรรมและประสิทธิผล สะสมงานวิจัยเกี่ยวกับความโรแมนติกของการเป็นผู้นำที่มีผลการวิจัยการผลิตผสม SCHYNS et al, (2007) ดำเนินการ meta-analysis เพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาจะหยอกล้อออกผลการควบคุมสิ่งต่างๆเช่นข้อผิดพลาดการวัดและการสุ่มตัวอย่างอคติในขณะที่มุ่งเน้นไปที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดตามที่มีแนวโน้มที่จะรับรู้ยวนใจของพวกเขาจากการเปลี่ยนแปลง / ความเป็นผู้นำที่มีความสามารถพิเศษ ผลของพวกเขาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างความโรแมนติกเจียมเนื้อเจียมตัวของการเป็นผู้นำและการรับรู้ของการเปลี่ยนแปลง / ความเป็นผู้นำที่มีความสามารถพิเศษที่คิดเป็นประมาณ 5% ของความแปรปรวนในการจัดอันดับเป็นผู้นำ ในการศึกษาอื่น Kulich et al, (2007) การตรวจสอบความเกี่ยวข้องของความโรแมนติกของทฤษฎีความเป็นผู้นำที่ผ่านการทดลองว่าเมื่อเทียบกับวิธีการทำงานของเพศชายและเพศหญิงเป็นผู้นำที่ถูกมองโดยการอนุญาตให้เข้าร่วมในการเลือกวิธีการมากของโบนัสที่จะจัดสรรให้กับผู้นำที่ ผลของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าโบนัสซีอีโอของชายที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของ บริษัท ฯ ในขณะที่ไม่มีความแตกต่างได้รับรายงานสำหรับซีอีโอหญิง ไบลห์และอัล (2007) พบว่าผู้ติดตามมุมมองเชิงลบของสภาพแวดล้อมการทำงานของพวกเขามากเกินไปประกอบกับผู้นำของพวกเขาในการที่พวกเขามองว่าเป็นผู้นำรับผิดชอบมากขึ้นสำหรับผลเชิงลบเหล่านี้และสถานการณ์ที่ถูกกว่าการรับประกัน พร้อมสายเดียวกันเวเบอร์ et al, (2001) รายงานว่าประสบความสำเร็จและความล้มเหลวในกลุ่มที่ได้รับการบันทึกมากเกินไปที่จะเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตามผู้เขียนเหล่านี้ยังมีรายงานว่าการอ้างเหตุผลของความล้มเหลวในการเป็นผู้นำอาจจะมีผลกระทบในเชิงลบมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับทีมล้มเหลวอย่างต่อเนื่องลงคะแนนที่จะเปลี่ยนผู้นำของพวกเขาเมื่อสถานการณ์ได้มากขึ้นจากสาเหตุของความล้มเหลวของทีม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความโรแมนติกของภาวะผู้นำ
สอบของผู้ตามวิพากษ์มุมมองเริ่มต้นโดยมุ่งเน้นที่การนำวรรณกรรมอธิบายว่าโรแมนติกของภาวะผู้นำ meindl et al . ( 1985 ) ได้เสนอตีความทางสังคมทฤษฎีเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำและภาวะผู้ตาม .พวกเขาโต้เถียงว่า ภาวะผู้นำเป็นปัจจัยโดยวิธีที่ลูกศิษย์สร้างความเข้าใจของผู้นำในแง่ของการตีความของพวกเขา ของเขาหรือเธอ ของ บุคลิกภาพ พฤติกรรม และประสิทธิภาพ สะสมวิจัยโรแมนติกของความเป็นผู้นำ มีการผลิตแบบผสม schyns et al .( 2550 ) ได้ทำการอภิวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาสามารถหยอกล้อออกผลการควบคุมสำหรับสิ่งต่างๆเช่นความคลาดเคลื่อนและอคติสุ่มตัวอย่างในขณะที่เน้นว่าผู้ติดตามมีแนวโน้มทำให้เย้ายวนใจของพวกเขา การรับรู้ภาวะผู้นำบารมีของหัวหน้าหอผู้ป่วย /ผลของพวกเขาแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความโรแมนติกของเจียมเนื้อเจียมตัวภาวะผู้นำและการรับรู้ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง / เสน่ห์ , การบัญชีสำหรับประมาณ 5 % ของความแปรปรวนในอันดับผู้นำ ในการศึกษาอื่น คุลิช et al .( 2007 ) ตรวจสอบความเกี่ยวข้องของความโรแมนติกของทฤษฎีภาวะผู้นำ ผ่านการทดลองที่เปรียบเทียบว่าประสิทธิภาพของชายและหญิง คือ หัวหน้าดู โดยให้ผู้เข้าร่วมเพื่อเลือกวิธีการมากของโบนัสที่จะจัดสรรให้ผู้นำ ผลของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าผู้ชายมีโบนัสซีอีโออย่างมากขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทในขณะที่ไม่มีความแตกต่าง โดยรายงานซีอีโอหญิง ไบลท์ et al . ( 2007 ) พบว่าผู้ติดตาม ' ลบมุมมองของสภาพแวดล้อมการทำงานของพวกเขามากเกินไป ประกอบกับผู้นำของพวกเขาที่พวกเขาเห็นหัวหน้าเป็นมากขึ้นรับผิดชอบในผลเชิงลบเหล่านี้และสถานการณ์มากกว่าถูกหมายจับ พร้อมสายเดียวกัน , Weber et al .( 2001 ) ได้รายงานว่า ความสำเร็จและความล้มเหลวสุดเหวี่ยงจากกลุ่มผู้นำ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเหล่านี้ยังได้รายงานว่า การอนุมานสาเหตุของความล้มเหลวในการเป็นผู้นำ อาจจะมีผลกระทบเชิงลบมากขึ้นกับความล้มเหลวของทีมอย่างต่อเนื่อง การลงคะแนนเสียงแทนผู้นำของพวกเขาเมื่อสถานการณ์เป็นอีกสาเหตุของความล้มเหลวของทีม