ascorbic acid has been shown to sti

ascorbic acid has been shown to stimulate collagen synthesis in dermal fibroblasts by increasing the rate of transcription of collagen genes. Experiments involving the use of ascorbic acid require daily supplementation due to the instability of the molecule in aqueous solutions. In order to provide a more stable alternative to ascorbic acid, two salts of ascorbyl-2-phosphate, having a greater chemical stability than ascorbic acid, were tested for their ability to stimulate collagen synthesis in monolayer fibroblast cultures. The concentration and time dependence of their activities were compared with ascorbic acid. The magnesium salt of ascorbyl-2-phosphate was found to be equivalent to ascorbic acid in stimulating collagen synthesis in these assays, while the sodium salt required at least a tenfold greater concentration to produce the same effect as ascorbic acid. Solutions of either ascorbic acid or the ascorbyl-2-phosphate analogs (at 10 mM) in phosphate-buffered saline (PBS) were relatively stable as shown by their decay rates and their ability to stimulate collagen synthesis even after nine days in solution prior to testing their effects on cultured cells. Ascorbic acid was unstable at neutral pH compared to solutions of either sodium or magnesium ascorbyl-2-phosphate. These data support the use of magnesium ascorbyl-2-phosphate in experiments where stability of ascorbic acid is a concern, e.g. in long-term cultures or in in vivo studies

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรดแอสคอร์บิคได้รับการแสดงเพื่อกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิวหนัง fibroblasts โดยการเพิ่มอัตราของการ transcription ของยีนคอลลาเจน การทดลองที่เกี่ยวข้องกับการใช้กรดแอสคอร์บิคต้องแห้งเสริมทุกวันเนื่องจากการขาดเสถียรภาพของโมเลกุลในโซลูชั่นอควี เพื่อให้เป็นทางเลือกที่มีเสถียรภาพมากขึ้นกับกรดแอสคอร์บิค เกลือสองของ ascorbyl-2-ฟอสเฟต มีความมั่นคงทางเคมีสูงกว่ากรดแอสคอร์บิค ถูกทดสอบสำหรับความสามารถในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน monolayer fibroblast วัฒนธรรม ความเข้มข้นและอาศัยเวลาของกิจกรรมของพวกเขาถูกเปรียบเทียบกับกรดแอสคอร์บิค เกลือแมกนีเซียมของ ascorbyl-2-ฟอสเฟตพบต้องเท่ากับกรดแอสคอร์บิคกระตุ้นคอลลาเจนสังเคราะห์ assays เหล่านี้ ในขณะที่เกลือโซเดียมต้องเข้มข้นมากน้อย tenfold ผลิตผลเหมือนกับกรดแอสคอร์บิค โซลูชั่นของกรดแอสคอร์บิคหรือ analogs ascorbyl-2-ฟอสเฟต (ที่ 10 มม.) ใน buffered ฟอสเฟตน้ำเกลือ (PBS) ค่อนข้างมีเสถียรภาพที่แสดงอัตราการผุของพวกเขาและความสามารถในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนได้หลังวันที่เก้าในโซลูชันก่อนทดสอบผลเซลล์อ่างได้ กรดแอสคอร์บิคมีเสถียรใน pH ที่เป็นกลางเปรียบเทียบกับโซลูชั่นของโซเดียมหรือแมกนีเซียมฟอสเฟต ascorbyl 2 ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนการใช้แมกนีเซียม ascorbyl-2-ฟอสเฟต ในการทดลองที่ความมั่นคงของกรดแอสคอร์บิคเป็นกังวล เช่นวัฒนธรรมระยะยาว หรือ ในการศึกษาในสัตว์ทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิตามินซีได้รับการแสดงที่จะกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ผิวหนังโดยการเพิ่มอัตราการถอดรหัสของยีนคอลลาเจน การทดลองที่เกี่ยวข้องกับการใช้กรดแอสคอบิจำเป็นต้องมีการเสริมในชีวิตประจำวันเนื่องจากความไม่แน่นอนของโมเลกุลในการแก้ปัญหาน้ำที่ เพื่อที่จะให้เป็นทางเลือกที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้นวิตามินซีสองเกลือของวิตามินซี-2-ฟอสเฟตที่มีเสถียรภาพทางเคมีสูงกว่าวิตามินซีได้มีการทดสอบความสามารถในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในวัฒนธรรม fibroblast monolayer การพึ่งพาอาศัยความเข้มข้นและระยะเวลาของกิจกรรมของพวกเขาถูกเมื่อเทียบกับวิตามินซี เกลือแมกนีเซียมวิตามินซี-2-ฟอสเฟตพบว่าเทียบเท่ากับวิตามินซีในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในการตรวจเหล่านี้ในขณะเกลือโซเดียมที่จำเป็นอย่างน้อยมีความเข้มข้นมากขึ้นเป็นสิบเท่าในการผลิตผลเช่นเดียวกับวิตามินซี โซลูชั่นของวิตามินซีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ analogs วิตามินซี-2-ฟอสเฟต (10 มิลลิเมตร) เกลือฟอสเฟตบัฟเฟอร์ (พีบีเอส) เป็นค่อนข้างคงที่ที่แสดงโดยอัตราการสลายตัวและความสามารถของพวกเขาที่จะกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนแม้หลังจากที่เก้าวันในการแก้ปัญหาก่อนที่จะ การทดสอบผลกระทบต่อเซลล์เพาะเลี้ยง วิตามินซีเป็นความไม่แน่นอนที่ pH เป็นกลางเมื่อเทียบกับโซลูชั่นของทั้งโซเดียมหรือแมกนีเซียมวิตามินซี-2-ฟอสเฟต ข้อมูลเหล่านี้รองรับการใช้งานของแมกนีเซียมวิตามินซี-2-ฟอสเฟตในการทดลองที่ความมั่นคงของวิตามินซีเป็นกังวลเช่นในวัฒนธรรมในระยะยาวหรือในร่างกายการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรดแอสคอร์บิกได้รับการแสดงเพื่อกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน dermal fibroblasts โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของการถอดความจากยีน การทดลองที่เกี่ยวข้องกับการใช้กรดแอสคอร์บิค ต้องใช้ทุกวัน ) เนื่องจากความไม่แน่นอนของโมเลกุลในสารละลาย . เพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อทดแทนเกลือของกรดแอสคอร์บิค ascorbyl-2-phosphate สอง ,มีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าสารเคมี กรดแอสคอร์บิค ได้ทดสอบความสามารถในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอย่างวัฒนธรรม ความเข้มข้นของกิจกรรมของพวกเขาเวลาและการเปรียบเทียบกับกรดแอสคอร์บิค เกลือแมกนีเซียมของ ascorbyl-2-phosphate ได้เทียบเท่ากับวิตามินซีในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในยีนเหล่านี้ในขณะที่โซเดียมเกลือต้องอย่างน้อย 10 เท่าความเข้มข้นมากขึ้นในการผลิตผลเช่นเดียวกับวิตามินซีโซลูชั่นของกรดแอสคอร์บิก หรือ ascorbyl-2-phosphate เต่ากระอาน ( 10 มม. ) ในฟอสเฟตบัฟเฟอร์น้ำเกลือ ( PBS ) ได้ค่อนข้างคงที่ดังจะเห็นได้จากอัตราการสลายของพวกเขาและความสามารถในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน แม้หลังจากที่เก้าวันในการแก้ปัญหาก่อนที่จะทดสอบผลของการเพาะเลี้ยงเซลล์กรดแอสคอร์บิค pH เป็นกลางไม่เสถียรเมื่อเทียบกับโซลูชั่นของโซเดียม หรือ แมกนีเซียม ascorbyl-2-phosphate . ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนการใช้แมกนีเซียม ascorbyl-2-phosphate ในการทดลองที่เสถียรภาพของกรดแอสคอร์บิคเป็นปัญหา เช่น ในวัฒนธรรม ในการศึกษาในสัตว์ระยะยาว หรือ