62 Political TheoryFeminismFeminism

62 Political Theory

Feminism
Feminism is characterised primarily by its political stance: the attempt to
advance the social role of women. Feminists have highlighted what they see as
a political relationship between the sexes, the supremacy of men and the
subjection of women in most, if not all, societies. The ‘first wave’ of feminism
was closely associated with the women’s suffrage movement, which emerged
in the 1840s and 1850s. The achievement of female suffrage in most Western
countries in the early twentieth century meant that the campaign for legal and
civil rights assumed a lower profile and deprived the women’s movement of a
unifying cause. The ‘second wave’ of feminism arose during the 1960s and
expressed, in addition to the established concern with equal rights, the more
radical and sometimes revolutionary demands of the growing Women’s
Liberation Movement. Although feminist politics has fragmented and
undergone a process of de-radicalisation since the early 1970s, feminism has
nevertheless gained growing respectability as a distinctive school of political
theory.
Feminist political thought has primarily been concerned with two issues.
First, it analyses the institutions, processes and practices through which
women have been subordinated to men; and second, it explores the most
appropriate and effective ways in which this subordination can be challenged.
Feminist thought has rejected the conventional view that politics is confined
to narrowly public activities and institutions, the most famous slogan of
second-wave feminism being ‘The personal is the political.’ The central
concept in the feminist theory of sexual politics is patriarchy, a term that
draws attention to the totality of oppression and exploitation to which
women are subject. This, in turn, highlights the political importance of
gender, understood to refer to socially imposed rather than biological
differences between men and women. Most feminists view gender as a
political construct, usually based upon stereotypes of ‘feminine’ and
‘masculine’ behaviour and social roles.
Nevertheless, feminist theory and practice is highly diverse. The earliest
feminist ideas derived largely from liberalism (see p. 29), and reflected a
commitment to individualism and formal equality. In contrast, socialist
feminism, largely derived from Marxism (see p. 82), has highlighted links
between female subordination and the capitalist mode of production, drawing
attention to the economic significance of women being confined to the family
or domestic life. On the other hand, radical feminists moved beyond the
perspectives of existing political traditions. They portray gender divisions as
the most fundamental and politically significant cleavages in society, and call
for the radical restructuring of personal, domestic and family life. However,
the breakdown of feminism into three traditions – liberal, socialist and radical
feminism – has become increasingly redundant since the 1970s as feminist
thought has become yet more sophisticated and diverse. Among its more
recent forms have been black feminism, psychoanalytic feminism, ecofeminism
(see p. 193) and postmodern feminism (see p. 7).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

62 ทฤษฎีการเมือง

สตรีสตรี
เป็นลักษณะหลักโดยจุดยืนทางการเมืองของตน:
ความพยายามที่จะพัฒนาสังคมบทบาทของผู้หญิง สตรีได้เน้นสิ่งที่พวกเขาเห็นในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการเมือง
ระหว่างเพศอำนาจสูงสุดของมนุษย์และการครอบงำ
ของผู้หญิงในที่สุดหากไม่ได้ทั้งหมดในสังคม 'คลื่นลูกแรกของ
สตรีมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการอธิษฐานการเคลื่อนไหวของผู้หญิงที่โผล่ขึ้นมาในยุค 1840
และ 1850 ความสำเร็จของการอธิษฐานหญิงมากที่สุดในประเทศ
ตะวันตกในศตวรรษที่ยี่สิบต้นนั่นหมายความว่าการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย
สันนิษฐานรายละเอียดที่ลดลงและปราศจากการเคลื่อนไหวของสตรีจากสาเหตุรวมกัน
'คลื่นลูกที่สองของสตรีที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ
แสดงนอกเหนือไปจากความกังวลจัดตั้งขึ้นโดยมีสิทธิเท่าเทียมกันมากขึ้น
ความต้องการที่รุนแรงและการปฏิวัติบางครั้งของขบวนการปลดปล่อยผู้หญิงที่กำลังเติบโตของ
แม้ว่าการเมืองสตรีมีการแยกส่วนและ
ผ่านกระบวนการของการ de-radicalization ตั้งแต่ต้นปี 1970 สตรีมี
ยังคงได้รับความเคารพเติบโตเป็นโรงเรียนที่โดดเด่นของทฤษฎีทางการเมือง
.
คิดทางการเมืองที่ได้รับการเรียกร้องสิทธิสตรีส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่สอง.
แรกมันวิเคราะห์สถาบันกระบวนการและการปฏิบัติผ่านที่ผู้หญิง
ได้รับเป็นรองมนุษย์และครั้งที่สองก็สำรวจวิธีการมากที่สุด
ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการที่ไม่ยอมแพ้นี้สามารถท้าทายความคิด
สตรีได้ปฏิเสธมุมมองการชุมนุมทางการเมืองที่ถูกกักขังอยู่ใน.
ไปอย่างหวุดหวิดกิจกรรมสาธารณะและสถาบันสโลแกนที่มีชื่อเสียงที่สุดของ
สองสตรีคลื่นเป็น 'ส่วนตัวคือการเมือง. แนวคิด
กลางในสตรีทฤษฎีของการเมืองทางเพศเป็นยูโรเปียนคำว่า
เบี่ยงเบนความสนใจจำนวนทั้งสิ้นของการกดขี่และการใช้ประโยชน์ในการที่ผู้หญิงอาจมี
นี้ในการเปิดไฮไลท์สำคัญทางการเมืองของเพศ
เข้าใจถึงกำหนดสังคมมากกว่าทางชีวภาพ
ความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง สตรีส่วนใหญ่ดูเพศเป็นโครงสร้างทางการเมือง
ตามปกติตามแบบแผนของ 'ผู้หญิง' และบทบาทพฤติกรรม
'ผู้ชาย' และสังคม.
แต่สตรีทฤษฎีและการปฏิบัติมีความหลากหลายสูง ความคิดที่เก่าแก่ที่สุด
สตรีที่ได้มาส่วนใหญ่มาจากลัทธิเสรีนิยม (ดูพี. 29) และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น
ไปปัจเจกและความเท่าเทียมกันอย่างเป็นทางการ ในทางตรงกันข้าม,สังคมนิยมสตรี
มาส่วนใหญ่มาจากมาร์กซ์ (ดูพี. 82),
ได้เน้นการเชื่อมโยงระหว่างหญิงและยอมแพ้แบบทุนนิยมของการผลิตดึงความสนใจ
ที่สำคัญทางเศรษฐกิจของผู้หญิงที่ถูกกักขังอยู่
ครอบครัวหรือชีวิตในประเทศ บนมืออื่น ๆ ที่ร้ายแรงสตรีย้ายเกินกว่ามุมมอง
ประเพณีทางการเมืองที่มีอยู่ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกเพศเป็น
ปริพื้นฐานที่สุดและสำคัญทางการเมืองในสังคมและ
การเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างรากฐานของใช้ส่วนบุคคลในประเทศและชีวิตครอบครัว แต่
สลายของสตรีเป็นสามประเพณี -​​ เสรีนิยมสตรี
สังคมนิยมและรุนแรง - ได้กลายเป็นซ้ำซ้อนมากขึ้นตั้งแต่ปี 1970 ในขณะที่ความคิด
สตรียังได้กลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้นและมีความหลากหลาย ในหมู่ของตนมากขึ้น
รูปแบบที่ผ่านมามีการสตรีสีดำสตรีจิตวิเคราะห์ ecofeminism
(ดูพี. 193) และสตรีหลังสมัยใหม่ (ดู p. 7)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการเมือง 62

เคลื่อนไหว
สตรีนิยมมีประสบการ์หลักของท่าทางการเมือง: พยายาม
เลื่อนบทบาททางสังคมของผู้หญิง Feminists ได้เน้นสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็น
ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างเพศ ของผู้ชายและ
กวาดของผู้หญิงส่วนใหญ่ ถ้าไม่หมด สมาคม 'คลื่นแรก' ของการเคลื่อนไหว
เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการเคลื่อนไหว suffrage ของผู้หญิง ซึ่งชุมนุม
1840s และ 1850s ความสำเร็จของหญิง suffrage ในตะวันตกส่วนใหญ่
ประเทศในช่วงศตวรรษที่ยี่สิบขึ้น ที่แคมเปญสำหรับกฎหมาย และ
สิทธิพลเมืองสันนิษฐานโปรไฟล์ต่ำ และปราศจากการเคลื่อนไหวของผู้หญิงของการ
สามัคคีสาเหตุ 'คลื่นสอง' ของสตรีนิยมเกิดขึ้นในช่วงปี 1960 และ
แสดง นอกจากสร้างความกังวลกับสิทธิที่เท่าเทียมกัน เพิ่มเติม
ความรุนแรง และบางครั้งปฏิวัติของผู้หญิงเติบโต
เคลื่อนไหวปลดปล่อย แม้ว่าเมือง feminist ได้กระจัดกระจาย และ
undergone กระบวนการของ de-radicalisation ตั้งแต่ช่วงปี 1970 สตรีนิยมมี
อย่างไรก็ตาม กำไรเติบโต respectability เป็นโรงเรียนโดดเด่นของเมือง
ทฤษฎีการ
Feminist ความคิดทางการเมืองเป็นหลักแล้วเกี่ยวข้องกับปัญหา 2.
แรก วิเคราะห์สถาบัน กระบวนการ และวิธีปฏิบัติซึ่ง
ผู้หญิงได้ถูก subordinated ชาย ที่สอง มันสำรวจมากที่สุด
วิธีที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพที่สามารถท้าทาย subordination นี้
Feminist คิดปฏิเสธมุมมองธรรมดาที่การเมืองจะถูกคุมขัง
ท่ามกลางกิจกรรมและสถาบัน สโลแกนที่โด่งดังที่สุดของ
สตรีนิยมคลื่นสองกำลัง 'ส่วนบุคคลอยู่ที่การเมือง' ใจกลาง
patriarchy เป็นแนวคิดในทฤษฎี feminist เมืองเพศคำที่
วาดความสนใจไปที่ผลของการถูกกดขี่และเอารัดเอาเปรียบที่
หญิงเป็นชื่อเรื่อง นี้ กลับ เน้นความสำคัญทางการเมืองของ
เพศ เข้าใจอ้างถึงสังคมกำหนดแทนทางชีวภาพ
ความแตกต่างระหว่างชายและหญิง Feminists ส่วนใหญ่ดูเพศเป็นแบบ
โครงสร้างทางการเมือง โดยปกติตามมักของ 'ผู้หญิง' และ
'ผู้ชาย' พฤติกรรมและบทบาททางสังคม
แต่ feminist ทฤษฎี และปฏิบัติเป็นมาย แรกสุด
feminist ความคิดมาจากเสรีนิยมเป็นส่วนใหญ่ (ดู p. 29), และการ
ปัจเจกและความเสมอภาคทางการ ในทางตรงกันข้าม สังคมนิยม
สตรีนิยม ส่วนใหญ่มาจากลัทธิมากซ์ (ดู p. 82), ได้เน้นเชื่อมโยง
ระหว่าง subordination หญิงและวิธีทุนการผลิต การวาด
ความสำคัญทางเศรษฐกิจของผู้หญิงถูกจำกัดไปครอบครัว
หรือชีวิตในประเทศ บนมืออื่น ๆ ย้าย feminists รุนแรงเกิน
ของประเพณีทางการเมืองที่มีอยู่ พวกเขาวาดภาพส่วนเพศเป็น
cleavages พื้นฐานที่สุด และที่สำคัญทางการเมืองในสังคม และโทร
โครงสร้างที่รุนแรงของชีวิตส่วนตัว ในประเทศ และครอบครัว อย่างไรก็ตาม,
ของสตรีนิยมในสามประเพณี – เสรีนิยม สังคมนิยม และรุนแรง
สตรีนิยม – ได้กลายเป็นซ้ำซ้อนมากขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็น feminist
คิดเป็นได้อย่างซับซ้อน และมีความหลากหลาย นี่มันขึ้น
ฟอร์มล่าสุดมีการเคลื่อนไหวสีดำ สตรีนิยม psychoanalytic, ecofeminism
(see p. 193) และสตรีนิยมหลังสมัยใหม่ (ดู p. 7)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

62 ทางการเมืองเกี่ยวกับ ทฤษฎี

สตรีนิยม
สตรีนิยมคือลักษณะของความโดดเด่นเป็นหลักโดยการดำเนินทางการเมืองของตนพยายามจะ
ล่วงหน้าบทบาททางสังคมของผู้หญิง นักสตรีนิยมที่ถูกไฮไลท์ให้เด่นชัดขึ้นได้สิ่งที่พวกเขาเห็นเป็น
ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างเพศที่สูงสุดของผู้ชายและ
ซึ่งจะช่วยเรื่องของผู้หญิงในมากที่สุดถ้าสังคมไม่ได้ทั้งหมด 'คลื่นลูกแรกของสตรีนิยม
ซึ่งจะช่วยเป็นอย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งให้ใช้การเคลื่อนไหวของผู้หญิงซึ่งเกิดขึ้น
ใน 1840 S และ 1850 S การประสบความสำเร็จของการเลือกตั้งให้ใช้ผู้หญิงในประเทศตะวันตก
ซึ่งจะช่วยมากที่สุดในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบหมายถึงว่าแคมเปญนี้สำหรับทางกฎหมายและสิทธิพลเรือน
ซึ่งจะช่วยปรับส่วนกำหนดค่าที่ต่ำกว่าและตัดสิทธิการเคลื่อนไหวของผู้หญิงที่เป็นเหตุให้ช่วยสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
''ที่สองคลื่นของสตรีนิยมก็ลุกขึ้นในระหว่างที่ 1960 s และ
ซึ่งจะช่วยในการแสดงออกถึงความกังวลที่สร้างขึ้นโดยมีสิทธิเท่าเทียมกันมากขึ้นที่
ความรุนแรงและบางครั้งการปฏิวัติของ' sgrowing ผู้หญิง
การปลดปล่อยความเคลื่อนไหว. แม้ว่าการเมืองสตรีนิยมได้แยกย่อยและ
ผ่านกระบวนการของ de - ว่านักการเมือง,ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 s สตรีนิยมได้รับไม่มากขึ้นเป็นโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษของความคิดทางการเมือง
ทฤษฎี.
สตรีนิยมทางการเมืองได้รับการที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองประเด็นหลัก
อย่างไรก็ตาม.
ครั้งแรกมันจะทำการวิเคราะห์และการปฏิบัติที่ผ่านกระบวนการการกำกับสถาบันการเงินซึ่ง
ซึ่งจะช่วยผู้หญิงได้รับการยอมก้มหัวให้กับคนที่สองและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ซึ่งจะช่วยเด็กๆที่เหมาะสมและมี ประสิทธิภาพ ในการทำการทำให้ด้อยลงนี้สามารถถูกท้าทาย.คิดว่า
สตรีนิยมได้ปฏิเสธการดูแบบเดิมที่การเมืองจะจำกัดอยู่
ซึ่งจะช่วยในการกำกับสถาบันการเงินและกิจกรรมสาธารณะไปอย่างเฉียดฉิวสโลแกนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ
คลื่นลูกที่สองเป็น"ส่วนตัวทางการเมืองที่"เซ็นทรัล
แนวความคิดในทฤษฎีสตรีนิยมของการเมืองทางเพศเป็นแนวคิดแบบปิตาธิปไตยคำที่
ซึ่งจะช่วยดึงความสนใจใน ภาพรวม ทั้งหมดของการตักตวงประโยชน์ทางเพศและการกดขี่ที่
ผู้หญิงเป็นเรื่อง โรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่อันโดดเด่นความสำคัญทางการเมืองของ
ซึ่งจะช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศในสังคมเรียกเก็บมากกว่าทางชีววิทยา
ความแตกต่างระหว่างชายและหญิง. บรรดานักสตรีนิยมมากมีวิวทิวทัศน์ทางเพศเป็น
ซึ่งจะช่วยสร้างทางการเมืองซึ่งโดยปกติจะขึ้นอยู่กับบทบาทของคุณใน''ความเป็นผู้หญิงและ
'ความเป็นชายของพฤติกรรมและสังคม.
อย่างไรก็ตามการปฏิบัติและทฤษฎีสตรีนิยมเป็นที่หลากหลายได้ แนวความคิด
สตรีนิยมโดยเร็วที่สุดที่ได้มาส่วนใหญ่มาจากประชากร(ดูที่, p . 29 )และสะท้อนถึงความมุ่งมั่น
ซึ่งจะช่วยให้ อัตภาพ และความเท่าเทียมกันอย่างเป็นทางการ ในความเปรียบต่างสังคมนิยม
สตรีนิยมส่วนใหญ่ได้มาจากลัทธิมาร์กซ์(ดูที่, p . 82 )ได้ที่ถูกไฮไลท์ให้เด่นชัดขึ้น L
ซึ่งจะช่วยทำให้ด้อยลงระหว่างผู้หญิงและโหมดการผลิตแบบทุนนิยม
ซึ่งจะช่วยดึงความสนใจให้ความสำคัญทางเศรษฐกิจของสตรีเนื่องจากถูกจำกัดให้ครอบครัวที่
ซึ่งจะช่วยชีวิตหรือในประเทศ อีกด้านหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ไกลออกไปอย่างรุนแรงนักสตรีนิยม
มุมมองของประเพณีทางการเมืองที่มีอยู่ เหล่านั้นเขตเมืองหลวงทางเพศเป็น
ตามมาตรฐานcleavages ขั้นพื้นฐานที่สุดและที่สำคัญทางการเมืองในการโทรและสังคม
ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หัวรุนแรงของชีวิตครอบครัวและในประเทศส่วนตัว. แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
รายละเอียดของแนวคิดสตรีนิยมในสามประเพณี - S สังคมนิยมและรุนแรง
สตรีนิยม - กลายเป็นสำรองมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 1970 ที่ว่า"เราเป็นความคิดสตรีนิยม
ซึ่งจะช่วยได้กลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้นแต่ที่มีความหลากหลายและ หนึ่งในบรรดาของ
ตามมาตรฐานรูปแบบเมื่อไม่นานมานี้ได้รับการสตรีนิยมสีดำซึ่งมีสตรีนิยม ecofeminism
(ดูที่, p . 193 )และสตรีนิยม(โปรดดู p . 7 )