1. IntroductionOf the different typ

1. Introduction
Of the different types of textile fibre available, polyester is the
most popular synthetic fibre and cotton the most popular natural
fibre; indeed, polyester fibres accounted for w50% (38.7  106 T)
and cotton fibres w35% (27.1  106 T) of the 77.5  106 T world
textile fibre demand in 2011, with other man-made and synthetic
fibres comprising w13% (10.4  106 T) and wool, silk and other
natural fibres making up the remaining small proportion (w2%;
1.3 106 T) [1]. Forecasts of global textile fibre demand predict that
the marked popularity of cotton and polyester fibres, which has
enjoyed steady growth since the 1970’s, is likely to continue for the
foreseeable future. Global dye production is w106 T per year [2] of
which reactive dyes and disperse dyes are two of the most
important classes; dye production can be assumed to increase inline
with expected increases in textile fibre production.
Polycotton is the acronym used to describe a blend comprising
polyester fibres and cotton fibres; in such, commonly, fabric blends,
the polyester component imparts strength and resilience as well as
both stain- and wrinkle-resistance whilst the cotton provides absorbency
and comfort. Such blends are available in various ratios
(e.g. 35:65; ‘cotton rich’, etc.) depending on end-use requirements.
Whilst polyester fibres are produced in both filament yarn and
staple fibre forms, it is the latter variant, in assorted guises (e.g.
w0.4 dtex; 30e150 mm long; round/modified cross section;
crimped/flat, etc.), that is blended with cotton to produce polycotton;
around 1/3rd of global polyester production is in the form of
staple fibre. Of the different types of polyester fibre available, those
made from poly(ethylene terephthalate) (PET) predominate [3].
Not all of the dye that is applied to a textile during dyeing is
‘fixed’ insofar as a proportion of the applied dye will not be physically
and/or chemically reserved within the textile substrate at the
end of dyeing (with the possible exception of dye applied by mass
coloration). Such ‘unfixed’ or surplus dye presents major problems
from technical, economic and environmental viewpoints, as
vagrant dye molecules can desorb from the dyed material during
processing and use. The extent of ‘dye fixation’ varies for different
dye application methods (exhaust, continuous, etc.) and different
dye/fibre combinations (Table 1) [4]; the exhaust (immersion)
application of reactive dyes to cotton and sulphur dyes to cotton
tend to display the lowest levels of dye fixation. ‘Wash-off’ is the
generic term employed to describe the aqueous treatment by
which surplus dye (and dyeing auxiliaries) is removed from dyeings
at the end of dyeing [5]. Unless such a treatment is carried out,
unfixed dye molecules will desorb during subsequent laundering
(and other wet processing) and the ensuing vagrant dye molecules

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำชนิดของเส้นใยสิ่งทอที่พร้อมใช้งาน โพลีเอสเตอร์เป็นการเส้นใยสังเคราะห์นิยมและธรรมชาตินิยมผ้าฝ้ายเส้นใย จริง เส้นใยโพลีเอสเตอร์คิด% w50 (38.7 106 T)และผ้าฝ้ายเส้นใย w35 (27.1 106 T) ของโลก 77.5 106 Tความต้องการเส้นใยสิ่งทอใน 2011 มนุษย์ และสังเคราะห์อื่น ๆเส้นใยที่ประกอบด้วย% w13 (10.4 106 T) และผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม และอื่น ๆเส้นใยธรรมชาติที่ทำให้สัดส่วนเล็กที่เหลือ (w2%1.3 106 T) [1] ทำนายคาดการณ์ความต้องการเส้นใยสิ่งทอทั่วโลกที่นิยมทำเครื่องหมายของใยผ้าฝ้ายและโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีเพลิดเพลินกับการเจริญเติบโตมั่นคงตั้งแต่ปี 1970 มีแนวโน้มที่จะดำเนินการอนาคตอันใกล้ การผลิตสีย้อมทั่วโลกคือ T w106 ต่อปี [2]ซึ่งสีปฏิกิริยา และกระจายสีย้อมเป็นสองที่มากสุดเรียนสำคัญ สามารถสันนิษฐานได้เพิ่มไลน์การผลิตสีย้อมกับการเพิ่มขึ้นที่คาดไว้ในการผลิตเส้นใยสิ่งทอยางเป็นอักษรย่อที่ใช้เพื่ออธิบายการผสมประกอบด้วยเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยฝ้าย เช่น ทั่วไป ผ้าผสมคอมโพเนนต์ของโพลีเอสเตอร์เนื้อความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเป็นทั้งทนต่อคราบสกปรก และริ้วรอยในขณะที่ฝ้ายให้ดูดซับและความสะดวกสบาย ผสมดังกล่าวที่มีอยู่ในอัตราส่วนต่าง ๆ(เช่น 35:65 'ฝ้ายรวย' ฯลฯ) ขึ้นอยู่กับความต้องการสำหรับผู้ใช้ในขณะที่มีผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ในด้ายทั้งสอง และเย็บกระดาษไฟเบอร์แบบฟอร์ม เป็นตัวแปรหลัง ใน guises คละ (เช่นw0.4 dtex 30e150 ยาว รอบแก้ไขส่วนข้ามรับจีบแบนเล็ก ฯลฯ), ที่ผสมกับฝ้ายเพื่อผลิตยางประมาณ 1 ใน 3 ของโลกการผลิตโพลีเอสเตอร์ที่อยู่ในรูปของเย็บกระดาษไฟเบอร์ ของว่าง โพลีเอสเตอร์ไฟเบอร์ชนิดต่าง ๆ เหล่านั้นทำจาก poly(ethylene terephthalate) (สัตว์เลี้ยง) มีอิทธิพลเหนือ [3]ไม่ทั้งหมดของสีย้อมที่ใช้กับสิ่งทอในระหว่างย้อมจะ'ถาวร' สัดส่วนการใช้สีย้อมจะไม่จริงหรือสารเคมีสำรองภายในพื้นผิวผ้าที่จุดสิ้นสุดของการย้อมสี (มีข้อยกเว้นที่เป็นไปได้ของสีย้อมที่ใช้ โดยมวลสี) สีย้อมส่วนเกิน หรือ 'ไม่เจาะจง' ดังกล่าวนำเสนอปัญหาที่สำคัญจากมุมมองทางเทคนิค ทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เป็นvagrant ย้อมโมเลกุลสามารถ desorb วัสดุย้อมระหว่างประมวลผลและใช้ ขอบเขตของ 'ตรึงย้อม' แตกต่างกันไปสำหรับแตกต่างกันย้อมวิธีประยุกต์ (ต่อเนื่อง ไอเสีย ฯลฯ) และแตกต่างกันชุดสีย้อม/ไฟเบอร์ (ตารางที่ 1) [4]; ไอเสีย (แช่)ใช้สีปฏิกิริยาสีย้อมผ้าฝ้ายและซัลเฟอร์กับผ้าฝ้ายมักจะ แสดงระดับต่ำสุดของย้อมตรึง 'ล้างออกจาก ' การศัพท์ที่ใช้เพื่ออธิบายการรักษาสารละลายโดยทั่วซึ่งสีย้อมส่วนเกิน (ย้อมสีและ auxiliaries) จะถูกเอาออกจาก dyeingsที่สุดของย้อมสี [5] เว้นแต่การรักษาจะดำเนินการโมเลกุลของสีย้อมที่ไม่เจาะจงจะ desorb ในระหว่างการฟอกในเวลาต่อมา(และประมวลผลอื่น ๆ เปียก) และโมเลกุลสีย้อม vagrant ทวีป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
ในประเภทที่แตกต่างกันของเส้นใยสิ่งทอใช้ได้โพลีเอสเตอร์เป็น
เส้นใยสังเคราะห์ที่นิยมมากที่สุดและผ้าฝ้ายธรรมชาติที่นิยมมากที่สุด
เส้นใย แน่นอนเส้นใยโพลีเอสเตอร์คิด W50% (38.7? 106 T)
และเส้นใยฝ้าย W35% (27.1? 106 T) ของ 77.5? 106 T โลก
ความต้องการเส้นใยสิ่งทอในปี 2011 กับมนุษย์สร้างขึ้นและสังเคราะห์อื่น ๆ
เส้นใยประกอบด้วย W13% (10.4 106 T?) และผ้าขนสัตว์ผ้าไหมและอื่น ๆ
เส้นใยธรรมชาติทำขึ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เหลือ (W2%;
? 1.3 106 T) [ 1] การคาดการณ์ความต้องการเส้นใยสิ่งทอทั่วโลกคาดการณ์ว่า
ความนิยมที่ทำเครื่องหมายของฝ้ายและเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่มี
ความสุขเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1970 มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป
ในอนาคตอันใกล้ การผลิตสีย้อมทั่วโลกเป็น w106 T ต่อปี [2] ของ
ที่ย้อมและสีย้อมแยกย้ายกันเป็นสองส่วนใหญ่
เรียนสำคัญ การผลิตสีย้อมสามารถสันนิษฐานได้ว่าจะเพิ่มขึ้นแบบอินไลน์
กับการเพิ่มขึ้นคาดว่าในการผลิตเส้นใยสิ่งทอ.
polycotton เป็นตัวย่อที่ใช้อธิบายการผสมผสานประกอบด้วย
เส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยฝ้าย ดังกล่าวปกติจะผสมผ้า
องค์ประกอบโพลีเอสเตอร์ภูมิต้านทานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเช่นเดียวกับ
ทั้งไร้สนิมและริ้วรอยต้านทานในขณะที่ผ้าฝ้ายให้การดูดซึม
และความสะดวกสบาย ผสมดังกล่าวมีอยู่ในอัตราส่วนต่างๆ
(เช่น 35:65; 'ฝ้ายที่อุดมไปด้วย' ฯลฯ ). ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดสิ้นการใช้งาน
ในขณะที่เส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่มีการผลิตทั้งในเส้นด้ายเส้นและ
รูปแบบเส้นใยมันเป็นตัวแปรหลังในสารพัน รูปแบบ (เช่น
; 30e150 มิลลิเมตรยาวรอบ / การแก้ไขส่วนข้าม; dtex w0.4
crimped / แฟลต, ฯลฯ ) ที่ผสมกับฝ้ายในการผลิต polycotton;
ประมาณ 1/3 ของการผลิตโพลีเอสเตอร์ระดับโลกอยู่ในรูปแบบของ
เส้นใย . ในประเภทที่แตกต่างกันของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่มีอยู่เหล่านั้น
ทำจากโพลี (เอทิลีน Terephthalate) (PET) ครอบงำ [3].
ไม่ทั้งหมดของสีที่ใช้กับสิ่งทอในระหว่างการย้อมสีเป็น
'ถาวร' ตราบเท่าที่สัดส่วนของสีย้อมนำมาใช้เป็น จะไม่ถูกทางร่างกาย
และ / หรือทางเคมีลิขสิทธิ์ภายในพื้นผิวสิ่งทอใน
ตอนท้ายของการย้อมสี (ยกเว้นเป็นไปได้ของสีย้อมที่ใช้โดยมวล
สี) เช่น 'ปล่อย' หรือเกินดุลย้อมนำเสนอปัญหาที่สำคัญ
จากทางด้านเทคนิคเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมมุมมองที่เป็น
โมเลกุลของสีย้อมจรจัดสามารถ desorb จากวัสดุย้อมในระหว่าง
การประมวลผลและการใช้งาน ขอบเขตของ 'ผนึก' แตกต่างกันไปสำหรับการที่แตกต่างกัน
วิธีการสมัครย้อม (ไอเสียอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ ) และที่แตกต่างกัน
รวมกันสีย้อม / ไฟเบอร์ (ตารางที่ 1) [4]; ไอเสีย (แช่)
การประยุกต์ใช้ย้อมผ้าฝ้ายและกำมะถันสีย้อมผ้าฝ้าย
มีแนวโน้มที่จะแสดงระดับต่ำสุดของการตรึงสีย้อม 'ล้างออก' เป็น
คำทั่วไปที่ใช้ในการอธิบายการรักษาน้ำโดย
ที่เกินดุลย้อม (Auxiliaries และย้อมสี) ถูกลบออกจาก Dyeings
ในตอนท้ายของการย้อมสี [5] เว้นแต่เช่นการรักษาที่จะดำเนินการ
โมเลกุลของสีย้อมไม่เจาะจงจะ desorb ระหว่างการฟอกที่ตามมา
(เปียกและการประมวลผลอื่น ๆ ) และต่อมาโมเลกุลของสีย้อมคนจรจัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . แนะนำของประเภทที่แตกต่างกันของสิ่งทอเส้นใยโพลีเอสเตอร์เป็นใช้ได้ที่นิยมมากที่สุดเส้นใยสังเคราะห์และผ้าฝ้ายธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเส้นใยโพลีเอสเตอร์ไฟเบอร์ แน่นอน คิดเป็นร้อยละ 38.7 w50 106 T )ฝ้ายและเส้นใย w35 % ( ทั้ง 106 T ) ของ 77.5 106 t โลกความต้องการเส้นใยสิ่งทอใน 2011 , กับอื่น ๆธรรมชาติและสังเคราะห์เส้นใยประกอบด้วย w13 ร้อยละ 10.4 106 t ) และผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม และ อื่น ๆเส้นใยธรรมชาติสร้างขึ้นเหลือขนาดเล็กสัดส่วน ( W2 % ;1.3 106 t ) [ 1 ] การคาดการณ์อุปสงค์เส้นใยสิ่งทอระดับโลกคาดการณ์ว่าเครื่องหมายของฝ้ายและเส้นใยโพลีเอสเตอร์เป็นที่นิยม , ซึ่งมีเพลิดเพลินกับการเจริญเติบโตมั่นคงตั้งแต่ปี 1970 , มีโอกาสที่จะทำสำหรับอนาคต การผลิตสีย้อม ( w106 T ต่อปี [ 2 ] ของซึ่งสีรีแอกทีฟและกระจายสีสองมากที่สุดบทเรียนที่สำคัญ ; การผลิตสีย้อมสามารถสันนิษฐานที่จะเพิ่มไลน์ด้วยการเพิ่มขึ้นในการผลิตเส้นใยสิ่งทอpolycotton เป็นตัวย่อที่ใช้ในการอธิบายการผสมประกอบด้วยเส้นใยโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยฝ้าย เช่น , ปกติ , ผ้าผสมโพลีคอมให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เช่นเดียวกับทั้งคราบและริ้วรอยต้านทานในขณะที่ฝ้ายมีความสามารถและความสะดวกสบาย ผสมในอัตราส่วนต่าง ๆเช่น มีอยู่( เช่น 35:65 " รวย " ฝ้าย ฯลฯ ) ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ปลายในขณะที่เส้นใยโพลีเอสเตอร์เส้นด้ายเส้นใยและผลิตทั้งในรูปแบบเส้นใยหลัก มันคือตัวแปรหลังใน guises หลายชนิด ( เช่นw0.4 dtex ; 30e150 มม. ยาว กลม ดัดขวาง ;เคลือบ / แบน ฯลฯ ) ที่เป็นฝ้ายผสมเพื่อผลิต polycotton ;ประมาณ 1 / 3 ของการผลิตโพลีเอสเตอร์ทั่วโลก ในรูปแบบของเส้นใยหลัก ของประเภทที่แตกต่างกันของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ของเหล่านั้นที่ทำจากพอลิ ( เอทิลีน terephthalate ( PET ) การศึกษา [ 3 ]ไม่ทั้งหมดของสีที่ใช้ในการย้อมสิ่งทอ คือ" ถาวร " ตราบเท่าที่มีสัดส่วนของใช้สีย้อมจะไม่เป็นจริงและ / หรือสารตั้งต้นที่สงวนไว้ภายในสิ่งทอสิ้นสุดการย้อม ( มีข้อยกเว้นของสีย้อมที่ใช้โดยมวลสี ) เช่น " จ. " หรือส่วนเกินย้อมนำเสนอปัญหาหลักจากมุมมองทางเทคนิค เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เช่นคนจรจัดย้อมโมเลกุลสามารถหลุดออกไปจากการย้อมวัสดุในระหว่างการประมวลผลและการใช้ ขอบเขตของการตรึงสีย้อมที่แตกต่างกันเพื่อที่แตกต่างกัน " "วิธีการใส่สี ( ไอเสีย , ต่อเนื่อง , ฯลฯ ) และที่แตกต่างกันสีย้อม / เส้นใยผสม ( ตารางที่ 1 ) [ 4 ] ; ไอเสีย ( แช่ )การใช้สีย้อมรีแอกทีฟและสีย้อมฝ้ายฝ้าย กำมะถันมีแนวโน้มที่จะแสดงระดับต่ำสุดของการตรึงสีย้อม " ล้าง " คือทั่วไปที่ใช้เพื่ออธิบายการรักษาระยะน้ำโดยส่วนเกิน ( ที่สีและย้อมสี auxiliaries ) จะถูกลบออกจาก dyeingsในตอนท้ายของ [ 5 ] ย้อมสี นอกจากการรักษาดังกล่าวจะดำเนินการออกไม่เจาะจงโมเลกุลสีจะหลุดออกไป และในช่วงต่อมา( และแบบเปียกอื่น ๆ ) และผู้ตรวจคนจรจัดโมเลกุลสี