Galactic cosmic ray flux[edit]The o

Galactic cosmic ray flux[edit]
The outward expansion of solar ejecta into interplanetary space provides overdensities of plasma that are efficient at scattering high-energy cosmic rays entering the solar system from elsewhere in the galaxy. The frequency of solar eruptive events is modulated by the cycle, changing the degree of cosmic ray scattering in the outer solar system accordingly. As a consequence, the cosmic ray flux in the inner solar system is anticorrelated with the overall level of solar activity. This anticorrelation is clearly detected in cosmic ray flux measurements at the Earth's surface. The effect amounts to several percent variation over the solar cycle, greater than the typically 0.1% variation in total solar irradiance.[38][39]

Some high-energy cosmic rays entering Earth's atmosphere collide hard enough with molecular atmospheric constituents to cause occasionally nuclear spallation reactions. Fission products include radionuclides such as 14C and 10Be that settle on the Earth's surface. Their concentration can be measured in ice cores, allowing a reconstruction of solar activity levels into the distant past.[40] Such reconstructions indicate that the overall level of solar activity since the middle of the twentieth century stands amongst the highest of the past 10,000 years, and that epochs of suppressed activity, of varying durations have occurred repeatedly over that time span.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รังสีคอสมิกกาแลคซีฟลักซ์ [แก้ไข]Ejecta แสงขยายออกไปด้านนอกเป็นพื้นที่แผนกแสดง overdensities ของพลาสมาที่มีประสิทธิภาพที่โปรยรังสีคอสมิก high-energy ป้อนระบบสุริยะจากอื่น ในจักรวาล ความถี่ของแสงอาทิตย์ eruptive เป็นสันทัด โดยรอบ การเปลี่ยนแปลงระดับของ scattering รังสีคอสมิกในระบบสุริยะภายนอกตาม ผล ฟลักซ์รังสีคอสมิกในระบบสุริยะภายในคือ anticorrelated กับระดับโดยรวมของกิจกรรมแสงอาทิตย์ ชัดเจนมีการตรวจพบ anticorrelation นี้ในวัดฟลักซ์รังสีคอสมิกที่พื้นผิวของโลก ผลจำนวนการแปรปรวนเปอร์เซ็นต์หลายรอบอาทิตย์ มากกว่ามักจะเปลี่ยนแปลง 0.1% ในแสง irradiance รวม [38] [39]รังสีคอสมิก high-energy บางใส่ดินบรรยากาศชนหนักพอกับ constituents บรรยากาศโมเลกุลทำปฏิกิริยานิวเคลียร์บาง spallation ผลิตภัณฑ์ฟิชชันมีกัมมันตภาพรังสีเช่น 14 C และ 10Be ที่จับคู่บนพื้นผิวของโลก สามารถวัดความเข้มข้นในแกนน้ำแข็ง ช่วยฟื้นฟูระดับกิจกรรมแสงอาทิตย์เป็นมาไกล [40] ศึกษาดังกล่าวบ่งชี้ว่า ระดับของกิจกรรมแสงอาทิตย์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ยี่สิบรวมถึงหมู่สูงสุด 10000 ปี และว่า epochs ของหยุดกิจกรรม ของช่วงเวลาที่แตกต่างกันเกิดขึ้นซ้ำ ๆ มากกว่าระยะเวลาที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟลักซ์รังสีคอสมิกทางช้างเผือก [แก้ไข]
การขยายตัวออกไปด้านนอกของแสงอาทิตย์ตกกระทบลงในช่องว่างให้ overdensities อวกาศของพลาสม่าที่มีประสิทธิภาพในการกระจายพลังงานสูงรังสีคอสมิกที่เข้ามาในระบบสุริยะจากที่อื่นในจักรวาล ความถี่ของเหตุการณ์ที่เกิดผื่นแสงอาทิตย์โดยรอบปรับเปลี่ยนระดับของการกระเจิงรังสีคอสมิกในระบบสุริยะชั้นนอกตาม เป็นผลให้ฟลักซ์รังสีคอสมิกในระบบสุริยะชั้นในเป็น anticorrelated กับระดับโดยรวมของกิจกรรมแสงอาทิตย์ anticorrelation นี้มีการตรวจพบอย่างชัดเจนในการวัดการไหลของรังสีคอสมิกที่พื้นผิวโลก ผลกระทบมีจำนวนรูปแบบร้อยละหลายรอบแสงอาทิตย์มากขึ้นกว่ารูปแบบโดยทั่วไป 0.1% ในพลังงานแสงอาทิตย์รวมรังสี. [38] [39] บางพลังงานสูงรังสีคอสมิกเข้าสู่บรรยากาศของโลกเกิดการชนหนักพอเป็นคนละเรื่องกับบรรยากาศโมเลกุลที่จะทำให้เกิดนิวเคลียร์เป็นครั้งคราว ปฏิกิริยา Spallation เซลล์ผลิตภัณฑ์รวมถึงกัมมันตรังสีเช่น 14C และ 10Be ที่ตั้งอยู่บนพื้นผิวโลก ความเข้มข้นของพวกเขาสามารถวัดได้ในแกนน้ำแข็งที่ช่วยให้การฟื้นฟูระดับกิจกรรมแสงอาทิตย์เป็นอดีตที่ห่างไกล. [40] ไทปันดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าระดับโดยรวมของกิจกรรมแสงอาทิตย์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ยี่สิบยืนอยู่ในหมู่ที่สูงที่สุดที่ผ่านมา 10,000 ปี และที่ epochs ของกิจกรรมการปราบปรามของระยะเวลาที่แตกต่างกันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในช่วงเวลานั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จักรวาลรังสีคอสมิก [ แก้ไข ]
การขยายตัวออกไปด้านนอกของพลังงานแสงอาทิตย์ ejecta เป็นดาวเคราะห์พื้นที่ให้ overdensities พลาสมาที่มีประสิทธิภาพที่กระจายพลังงานรังสีคอสมิกเข้ามาในระบบสุริยะจากที่อื่นในจักรวาล . ความถี่ของเหตุการณ์ปะทุพลังงานแสงอาทิตย์คือการปรับโดยรอบ การเปลี่ยนระดับของรังสีคอสมิกกระเจิงในระบบสุริยะส่วนนอกตามผลที่ตามมา , ฟลักซ์รังสีคอสมิกในระบบสุริยะชั้นในเป็น anticorrelated ที่มีระดับโดยรวมของกิจกรรมแสงอาทิตย์ anticorrelation นี้เป็นอย่างชัดเจนที่ตรวจพบในการวัดรังสีของจักรวาลที่พื้นผิวของโลก ผลจํานวนหลายเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงผ่านวงจรแสงอาทิตย์มากกว่าปกติ 0.1% ความผันแปรใน irradiance ดวงอาทิตย์ทั้งหมด [ 38 ] [ 39 ]

รังสีคอสมิกพลังงานสูงบางอย่างเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกชนหนักพอ ด้วยบรรยากาศทางโมเลกุลทำให้บางครั้งนิวเคลียร์ spallation ปฏิกิริยา เซลล์ผลิตภัณฑ์รวมถึงสารกัมมันตรังสี เช่น 14c 10be และที่ตกลงบนพื้นผิวโลก ความเข้มข้นของพวกเขาสามารถวัดได้ในแกนน้ำแข็งช่วยฟื้นฟูระดับกิจกรรมแสงอาทิตย์เป็นอดีตอันแสนไกล[ 40 ] การสร้างใหม่ดังกล่าวบ่งชี้ว่า ระดับโดยรวมของกิจกรรมแสงอาทิตย์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ยี่สิบยืนอยู่ในหมู่สูงสุดของรอบ 10 , 000 ปี และยุคสมัยของการปราบปรามกิจกรรมที่แตกต่างจากระยะเวลาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เวลาที่ผ่านช่วง