Early contextIn 280 A.D., Euclid wa

Early context

In 280 A.D., Euclid was the first to recognize that depth perception is obtained when each eye simultaneously receives one of two dissimilar images of the same object. In 1584 Leonado da Vinci studied the perception of depth and, unlike most of contemporaries, produced paintings and sketches that showed a clear understanding of shading, texture and viewpoint projection. Around the year 1600, Giovanni Battista della Porta produced the first artificial 3-D drawing based on Euclid’s notions on how 3-D perception by humans works. This was followed in 1611 when Kepler's Dioptrice was published which included a detailed description of the projection theory of human stereo vision.

Early stereo photography

Queen Victoria visited the World's Fair in London in 1851 and was so entranced by the stereoscopes on display that she precipitated an enthusiasm for three-dimensional photography that soon made it a popular form of entertainment world-wide.





The taking and viewing of stereo photographs was a popular pass time in the nineteenth century.

It was Sir Charles Wheatstone who in 1833 first came up with the idea of presenting slightly different images to the two eyes using a device he called a reflecting mirror stereoscope. When viewed stereoscopically, he showed that the two images are combined in the brain to produce 3-D depth perception. The invention of the Brewster Stereoscope by the Scottish scientist Sir David Brewster in 1849 provided a template for all later stereoscopes. This in turn stimulated the mass production of stereo photography which flourished alongside mono-photography. Stereo photography peaked around the turn of the century and went out of fashion as movies increased in popularity. In 1939 William Gruber saw a way to make use of the newly invented flexible 35mm film by Kodak and teamed up with Harold Graves to form the View-Master company. These toys first became available during the 1940's and are still available today.



Wheatstone was the first to demonstrate stereopsis using a crude stereo viewing device.



Sir Charles Wheatstone, 1802-1875 - he also invented the concertina!

Here are some early stereoscope viewers courtesy of Bert

Perfecscope. Ca. 1905
This is a Homes type stereoscope, named after its inventor, Oliver Wendell Holmes (1860)
PlastoscopePlastoscope; Dr. R. Krügener. Ca. 1899
This stereoscope contains a revolving mechanism for 24 stereophotographs.
Brewster stereoscopeBrewster type stereoscope. Ca. 1860
This type of stereoscope was invented by Sir David Brewster in 1849.
VivascopeVivascope; Harry Cox. Ca. 1920
One of the many cheap cardboard stereoscopes.






The discovery of anaglypic 3-D appeared in the 1850's as the result of experiments by the Frenchman Joseph D'Almeida. Color separation took place using red/green or red/green filters and early anaglyphs were displayed using glass stereo lantern slides.William Friese-Green created the first 3-D anaglypic motion pictures in 1889 which first went on show to the public in 1893. These anaglypic films designated as plasticons or plastigrams enjoyed great success during the 1920's. The films used a single film with the green image emulsion on one side of the film and the red image emulsion on the other. In 1922, an interactive plasticon opened at the Rivoli Theater in New York titled "Movies of the Future". The film provided the viewer with an optional ending. The happy ending was viewed using the green filter whilst the tragic ending could be seen using the red filter.

Plastigram advert

Three dimensional movies called plastigrams were a common form of entertainment during the 1920's.

Image of viewmaster

View-Master became a popular toy for children from their introduction in 1939.

In 1932, Edwin H Land patented a process for producing polarized filters that eventually led to the development of full color 3-D movies. This was possible because the left/right separation could be achieved using the polarizing filters rather than the color channel. Land also perfected a 3-D photographic process called vectography. During the second world war vectographic prints were used widely for military applications such as aerial photography.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริบทก่อนในคศ. 280 ยุคลิดคนแรกรู้จักรับรู้ความลึกที่ได้รับมาเมื่อตาละกันได้รับหนึ่งในสองภาพไม่เหมือนของวัตถุเดียวกัน ใน 1584 Leonado ดาวินชีศึกษาการรับรู้ความลึก และ ซึ่งแตกต่าง จากส่วนใหญ่ของ contemporaries ผลิตภาพวาดและร่างที่แสดงให้เห็นว่าการทำความเข้าใจฉายภาพแรเงา พื้นผิว และจุดชมวิว รอบปี 1600, Giovanni Battista ลลาปอตาผลิตแรกประดิษฐ์ 3 มิติภาพวาดตามความเข้าใจของยุคลิดใน 3 มิติการรับรู้ โดยการทำงานของมนุษย์ นี้ถูกตามใน 1611 ที่เมื่อมีประกาศกฎ Dioptrice ที่รวมคำอธิบายรายละเอียดของทฤษฎีการฉายภาพสเตอริโอเห็นมนุษย์ถ่ายภาพสเตอริโอก่อนควีนวิคตอเรียเยี่ยมชมงานของโลกในกรุงลอนดอนใน 1851 และได้ entranced ดังนั้น โดย stereoscopes บนจอแสดงผลที่เธอตกตะกอนมีความกระตือรือร้นสำหรับถ่ายภาพสามมิติที่เร็ว ทำให้ความบันเทิงรูปแบบยอดนิยมทั่วโลก รับและดูของภาพสเตอริโอถูกเวลาผ่านยอดนิยมในศตวรรษก็รักชาร์ลวีตสโตนที่ใน 1833 ครั้งแรก มากับความคิดของการนำเสนอภาพที่แตกต่างกันเล็กน้อยโดยใช้อุปกรณ์ที่เขาเรียกว่า stereoscope เป็นกระจกสะท้อนตาสอง เมื่อดู stereoscopically เขาแสดงให้เห็นว่า จะมีรวมภาพสองภาพในสมองการรับรู้ความลึก 3 มิติ การประดิษฐ์ของ Stereoscope Brewster โดยนักวิทยาศาสตร์สกอตแลนด์ Sir David Brewster ใน 1849 ให้แบบ stereoscopes ทั้งหมดในภายหลัง นี้จะถูกกระตุ้นการผลิตมวลของถ่ายภาพสเตอริโอที่เจริญรุ่งเรืองควบคู่ไปกับการถ่ายภาพขาวดำ ถ่ายภาพสเตอริโอ peaked รอบเปิดของศตวรรษ และออกจากแฟชั่นเป็นภาพยนตร์เพิ่มขึ้นในความนิยม ในปีพ.ศ. 2482 William Gruber เห็นวิธีที่จะทำให้ใช้ฟิล์ม 35 มม.ใหม่คิดแบบยืดหยุ่นโดยโกดัก และ teamed ขึ้นกับฮาโรลด์สุสานเพื่อบริษัทดูหลักการ ของเล่นเหล่านี้กลายเป็นที่ว่างระหว่าง 1940's ก่อน และยังคงมีวันนี้วีตสโตนคนแรกสาธิตใช้อุปกรณ์สเตอริโอดูดิบ stereopsisรักชาร์ลวีตสโตน 1802-1875 - เขายังคิดค้น concertinaที่นี่มีผู้ชม stereoscope บางช่วงความร่วม Perfecscope Ca. 1905นี่คือ stereoscope ชนิดบ้าน ตั้งชื่อตามนักประดิษฐ์ของ โฮลมส์ Wendell Oliver (1860)PlastoscopePlastoscope ดร.อาร์ Krügener Ca. ย่านStereoscope นี้ประกอบด้วยกลไกหมุนสำหรับ 24 stereophotographsBrewster stereoscopeBrewster ชนิด stereoscope Ca. 1860Stereoscope ชนิดนี้ถูกคิดค้น โดย Sir David Brewster ใน 1849VivascopeVivascope ค็อกซ์แฮร์รี่ Ca. 1920หนึ่ง stereoscopes กระดาษแข็งราคาถูกมาก ของการค้นพบ anaglypic 3-D ปรากฏใน 1850 ที่เป็นผลการทดลองโดย D'Almeida Frenchman โจเซฟ แยกสีทำใช้สีแดง/สีเขียว หรือสีแดง/สีเขียวกรองและช่วง anaglyphs ได้แสดงโดยใช้ภาพนิ่งสเตอริโอโคมแก้ว William Friese เขียวสร้างภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ anaglypic แรกในครั้งแรกที่ไปในการแสดงต่อสาธารณชนใน 1893 จาก 1889 ฟิล์ม anaglypic เหล่านี้กำหนดให้เป็น plasticons หรือ plastigrams ความสุขประสบความสำเร็จในช่วง 1920 ฟิล์มที่ใช้ฟิล์มเดียวกับอิมัลชันรูปสีเขียวบนด้านหนึ่งของฟิล์มและอิมัลชันแดงรูปอื่น ๆ ในค.ศ. 1922, plasticon การโต้ตอบที่เปิดที่เชอราในนิวยอร์กชื่อ "ภาพยนตร์ของอนาคต" ภาพยนตร์ให้แสดงกับการสิ้นสุดตัวเลือก สิ้นสุดความสุขได้ดูโดยใช้ตัวกรองสีเขียวขณะสิ้นสุดวิปโยคสามารถเห็นได้โดยใช้ฟิลเตอร์สีแดงโฆษณา Plastigramสามมิติภาพยนตร์ที่เรียกว่า plastigrams แบบทั่วไปของความบันเทิงในช่วง 1920 ได้ภาพของ viewmasterดูหลักกลายเป็น ของเล่นยอดนิยมสำหรับเด็กจากการแนะนำในในปี 1932, Edwin H ที่ดินจดสิทธิบัตรกระบวนการผลิตฟิลเตอร์โพลาไรซ์ที่ในที่สุดนำไปสู่การพัฒนาของภาพยนตร์ 3 มิติเต็มรูปแบบสี นี้เป็นไปได้ เพราะแยกซ้าย/ขวาสามารถทำได้โดยใช้ฟิลเตอร์ polarizing มากกว่าช่องสี นอกจากนี้ที่ดินยัง perfected แบบกระบวนการถ่ายภาพ 3 มิติที่เรียกว่า vectography Vectographic สงครามโลกครั้งที่สองพิมพ์ถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับการใช้งานทางทหารเช่นถ่ายภาพทางอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริบทต้นใน 280 AD, Euclid เป็นครั้งแรกที่จะรับรู้รับรู้เชิงลึกที่ได้รับเมื่อดวงตาแต่ละข้างพร้อมกันได้รับหนึ่งในสองภาพที่แตกต่างกันของวัตถุเดียวกัน ใน 1584 Leonado da Vinci ศึกษาการรับรู้ของความลึกและความแตกต่างมากที่สุดของโคตรผลิตภาพวาดและภาพวาดที่แสดงให้เห็นความเข้าใจที่ชัดเจนของการแรเงาพื้นผิวและการฉายมุมมอง รอบปี 1600 Giovanni Battista della Porta ผลิตการวาดภาพ 3 มิติครั้งแรกที่ประดิษฐ์ขึ้นอยู่กับความคิดของยุคลิดเกี่ยวกับวิธีการรับรู้ 3 มิติจากผลงานของมนุษย์ นี้ถูกใช้ใน 1611 เมื่อเคปเลอร์ Dioptrice ถูกตีพิมพ์ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของทฤษฎีการฉายของวิสัยทัศน์สเตอริโอมนุษย์. ถ่ายภาพสเตอริโอต้นสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียเข้าเยี่ยมชมงานเวิลด์แฟร์ในลอนดอน 1851 และเป็นตะลึงได้โดย stereoscopes บนจอแสดงผลว่าเธอตกตะกอน ความกระตือรือร้นในการถ่ายภาพสามมิติว่าเร็ว ๆ นี้ทำให้มันเป็นรูปแบบที่นิยมของความบันเทิงทั่วโลก. ที่เกิดและการดูภาพสเตอริโอเป็นช่วงเวลาที่ผ่านเป็นที่นิยมในศตวรรษที่สิบเก้า. มันเป็นเซอร์ชาร์ลวีตที่ใน 1833 ขึ้นเป็นครั้งแรกมากับความคิด ในการนำเสนอภาพที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพื่อให้ดวงตาทั้งสองข้างใช้อุปกรณ์ที่เขาเรียกว่ามิติกระจกสะท้อนให้เห็นถึง เมื่อมองแบบภาพเสมือนสามมิติเขาแสดงให้เห็นว่าทั้งสองภาพจะรวมกันในสมองในการผลิตรับรู้เชิงลึก 3 มิติ การประดิษฐ์ของเบียร์ Stereoscope โดยสก็อตนักวิทยาศาสตร์เซอร์เดวิดเบียร์ใน 1849 ให้แม่แบบสำหรับทุก stereoscopes ภายหลัง นี้ในการเปิดการกระตุ้นการผลิตมวลของการถ่ายภาพสเตอริโอซึ่งความเจริญรุ่งเรืองควบคู่ไปกับการถ่ายภาพขาวดำ ถ่ายภาพยอดสเตอริโอรอบศตวรรษและเดินออกจากแฟชั่นภาพยนตร์ความนิยมเพิ่มขึ้น ในปี 1939 วิลเลียม Gruber เห็นวิธีที่จะทำให้การใช้งานของฟิล์ม 35 มมคิดค้นขึ้นใหม่ที่มีความยืดหยุ่นโดยโกดักและร่วมกับแฮโรลด์เกรฟส์ในรูปแบบ บริษัท ดู-Master ของเล่นเหล่านี้เป็นครั้งแรกในช่วงปี 1940 และยังคงมีอยู่ในวันนี้. วีเป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นถึง stereopsis ใช้อุปกรณ์สเตอริโอน้ำมันดิบดู. เซอร์ชาร์ลวี, 1802-1875 - เขายังคิดค้นคอนนี่คือบางส่วนมิติผู้ชมในช่วงต้นของการมีมารยาทเบิร์ตPerfecscope รัฐแคลิฟอร์เนีย 1905 นี่คือประเภทที่อยู่อาศัยมิติตั้งชื่อตามนักประดิษฐ์ของโอลิเวอร์เวนเดลโฮล์มส์ (1860) PlastoscopePlastoscope; ดร. อาร์Krügener รัฐแคลิฟอร์เนีย 1899 มิตินี้มีกลไกการหมุนเวียน 24 stereophotographs. เบียร์ stereoscopeBrewster ประเภทมิติ รัฐแคลิฟอร์เนีย 1860 ชนิดของมิตินี้ถูกคิดค้นโดยเซอร์เดวิดเบียร์ใน 1849 VivascopeVivascope; แฮร์รี่คอคส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย 1920 หนึ่งใน stereoscopes กระดาษแข็งราคาถูกจำนวนมาก. การค้นพบของ anaglypic 3 มิติที่ปรากฏในปี 1850 เป็นผลมาจากการทดลองโดยฝรั่งเศส D'โจเซฟไมย์ แยกสีที่เกิดขึ้นโดยใช้สีแดง / สีเขียวหรือสีแดง / สีเขียวและกรอง anaglyphs ต้นมีการแสดงผลโดยใช้โคมไฟสเตอริโอแก้ว slides.William Friese สีเขียวที่สร้างขึ้นครั้งแรก 3 มิติภาพเคลื่อนไหว anaglypic ในปี 1889 ซึ่งเป็นครั้งแรกไปในการแสดงให้กับประชาชนในปี 1893 ภาพยนตร์เหล่านี้ anaglypic กำหนดให้เป็น plasticons หรือ plastigrams ความสุขความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 1920 ภาพยนตร์ที่ใช้ฟิล์มเดียวกับอิมัลชันภาพสีเขียวบนด้านหนึ่งของภาพยนตร์และอิมัลชันภาพสีแดงในที่อื่น ๆ ในปี 1922 ซึ่งเป็น plasticon โต้ตอบเปิดที่โรงละคร Rivoli ในนิวยอร์กชื่อ "ภาพยนตร์แห่งอนาคต" ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ผู้ชมกับตอนจบที่ไม่จำเป็น ตอนจบที่มีความสุขที่ถูกมองว่าใช้ตัวกรองสีเขียวในขณะที่ตอนจบที่น่าเศร้าอาจจะเห็นการใช้ตัวกรองสีแดง. Plastigram โฆษณาสามภาพยนตร์มิติที่เรียกว่าplastigrams เป็นรูปแบบทั่วไปของความบันเทิงในช่วงทศวรรษที่ 1920. ภาพของ viewmaster ดู-Master กลายเป็นของเล่นที่นิยมสำหรับเด็ก จากการแนะนำของพวกเขาในปี 1939 ในปี 1932 เอ็ดวิน H ที่ดินจดสิทธิบัตรกระบวนการในการผลิตตัวกรองโพลาไรซ์ที่ในที่สุดนำไปสู่การพัฒนาสีเต็มรูปแบบภาพยนตร์ 3 มิติ นี่เป็นไปได้เพราะการแยกซ้าย / ขวาสามารถทำได้โดยใช้ตัวกรอง polarizing มากกว่าช่องสี ที่ดินยังสมบูรณ์กระบวนการถ่ายภาพ 3 มิติที่เรียกว่า vectography ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองพิมพ์ vectographic ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับใช้งานทางทหารเช่นการถ่ายภาพทางอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต้นในบริบท 280 AD , ยูคลิดเป็นคนแรกที่รู้ว่าลึกรับรู้ได้เมื่อแต่ละตาพร้อมกันได้รับหนึ่งของภาพสองภาพที่แตกต่างกันของวัตถุเดียวกัน ใน 1584 ลีโอนาโด ดา วินชี ศึกษาการรับรู้ของความลึกและแตกต่างมากที่สุดของโคตร ผลิต ภาพวาดและสเก็ตช์ที่ให้ความเข้าใจที่ชัดเจนของการแรเงา พื้นผิว และฉายภาพจุดชมวิว