AbstractThe purpose of this study i

Abstract
The purpose of this study is to evaluate the results of current school uniform policies according to
views of stakeholders. Descriptive case study method was used for this study to understand the
concerns of the stakeholders about school uniforms. Data was collected through interviews with
stakeholders and also reviewing the documents in TOKI Elementary and Middle School. Collected
data was analyzed and evaluated to see the impacts of the school uniform on academic achievement,
discipline, economical, safety, functionality, personality and self-expression. As a result of the study,
almost all students support the free clothes policy in schools but most of the parents, teachers and
school administrators support school uniform. Finally, parents’ voting should be repeated every year.
In addition, dress codes should be determined by school administration and parent-teacher association
by taking ideas of parents, students and concerning cultural features of school neighborhood.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการประเมินผลของนโยบายเครื่องแบบโรงเรียนในปัจจุบันให้เป็นไปตามมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กรณีที่เป็นคำอธิบายวิธีการศึกษาได้ใช้สำหรับการศึกษาครั้งนี้จะเข้าใจความกังวลของผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียน ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมผ่านการสัมภาษณ์กับผู้มีส่วนได้เสียและการตรวจสอบเอกสารใน TOKI ประถมและมัธยม การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อดูผลกระทบจากเครื่องแบบโรงเรียนในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีระเบียบวินัยประหยัดความปลอดภัยการทำงานบุคลิกภาพและการแสดงออก อันเป็นผลมาจากการศึกษาเกือบนักเรียนทุกคนสนับสนุนนโยบายเสื้อผ้าฟรีในโรงเรียนแต่ส่วนมากของผู้ปกครองครูและผู้บริหารโรงเรียนให้การสนับสนุนชุดนักเรียน ในที่สุดการออกเสียงลงคะแนนของผู้ปกครองควรจะทำซ้ำทุกปี. นอกจากนี้รหัสชุดควรจะถูกกำหนดโดยการบริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองโดยการใช้ความคิดของผู้ปกครองนักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะทางวัฒนธรรมของพื้นที่ใกล้เคียงโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อประเมินผลของนโยบาย เครื่องแบบโรงเรียนปัจจุบันตาม
มุมมองของผู้มีส่วนได้เสีย วิธีการศึกษาเชิงพรรณนาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ เพื่อเข้าใจ
ความกังวลของผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับเครื่องแบบโรงเรียน รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและทบทวนเอกสารใน Toki เบื้องต้นและกลางโรงเรียน รวบรวม
นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อดูผลกระทบของเครื่องแบบโรงเรียนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วินัย , ประหยัด , ความปลอดภัยในการทํางาน บุคลิกภาพ และการแสดงออก ผลของการศึกษา
นักเรียนเกือบทั้งหมดสนับสนุนนโยบายเสื้อผ้าฟรีในโรงเรียน แต่ส่วนใหญ่ของผู้ปกครอง ครู และผู้บริหารโรงเรียนสนับสนุน
ยูนิฟอร์ม ในที่สุดโหวต พ่อแม่ควรจะซ้ำทุกปี
นอกจากนี้ รหัสเครื่องแต่งกาย ควรพิจารณาจากการบริหารโรงเรียนและสมาคมครูผู้ปกครอง
โดยเอาความคิดของผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา และด้านคุณลักษณะทางวัฒนธรรมของชุมชนโรงเรียน