Research conducted by The Miriam Ho

Research conducted by The Miriam Hospital and The Rhode Island Community Food Bank demonstrated that -- contrary to popular belief -- healthy diets rich in fruits and vegetables are affordable. In fact, the study found that a plant-based, extra-virgin olive oil diet is cheaper than the most economical recommendations for healthy eating coming from the United States Department of Agriculture (USDA). The comparison to the USDA diet showed an annual savings of nearly $750 per person, while also providing significantly more servings of vegetables, fruits and whole grains. The study and its findings were published last month in the Journal of Hunger & Environmental Nutrition.

"We did this analysis because it is commonly said that healthy diets are expensive and that it is the fruits and vegetables that make them too expensive," said Mary Flynn, Ph.D., a research dietitian at The Miriam Hospital and the lead researcher on the study. "Extra-virgin olive oil is also thought to be expensive, but we suspected it was meat that made a diet expensive, and extra-virgin olive oil is cheaper than even small amounts of meat. We expected the two diets to be similar in fruit and vegetable content, but our plant-based diet was substantially cheaper, and featured a lot more fruits and vegetables and whole grains."

In 1999, Flynn developed a plant-based olive oil diet for weight loss and to improve biomarkers for chronic diseases. An early pilot study of women with breast cancer showed that the diet resulted in better weight loss and improvement in some chronic disease risk factors compared to a lower fat diet. Participants overwhelmingly preferred it to a lower fat diet and consistently commented on how economical it was to purchase and prepare.

That effort led to collaboration between The Miriam Hospital and the Rhode Island Community Food Bank to develop a six-week cooking program research protocol aimed at improving food security -- or the ability to afford adequate food -- for food pantry clients by using plant-based olive oil diet recipes. The objective was to see whether food pantry clients would use the recipes for three dinners per week and if that would decrease their overall food costs and food insecurity. Results of this earlier study showed that participants used the recipes for an average of 2.8 meals a week and this led to a decrease in their food insecurity, total groceries expenditures, and body mass index. Seventy-six percent of those participants reported that the recipes were easier to prepare and took less time than ones they typically used.

The study published recently in the Journal of Hunger & Environmental Nutrition compared the costs over seven days of the plant-based, olive oil diet developed by Flynn to the lowest cost version of the USDA's MyPlate diet. MyPlate features a combination of fruits and vegetables that make up half the dinner plate, and requires half of all grains consumed be whole grains. Flynn's plant-based diet includes frozen and canned produce, as they have comparable nutrient content to the retail fresh version and studies show frozen and canned produce have a higher content of some of the cancer fighting components found in fresh produce. The plant-based diet also includes four tablespoons a day of olive oil, which represented nine percent or $3.61 of the weekly cost for the diet. "Extra virgin olive oil costs more than vegetable seed oil but it is unlike other oils," explained Flynn. "It is the juice of the olive fruit so it is a plant product, and numerous studies have shown olive oil provides a range of health benefits due to the components found in extra virgin olive oil."

The recent study found that including vegetables and fruits daily was inexpensive, even at fairly high amounts. Including meat was found to be much more expensive and not as healthy. Studies looking at food costs show that animal products cost more than double that of a serving of vegetables or legumes and 60 percent more than a serving of fruit; and animal products are not associated with decreasing chronic disease risk. In fact, studies have shown that frequent meat consumption has been related to increasing the risk of obesity, type 2 diabetes, heart disease, breast cancer, prostate cancer, colon cancer and overall mortality.

Research has shown that low-income households will spend their grocery money first on meats, eggs, cereals and bakery products, and that educating consumers to include some weekly meals that do not contain meat, poultry or seafood but do include extra virgin olive oil, vegetables, and a starch will decrease food costs and improve food access and body weight. "People should rethink how much meat they consume and how often," said Flynn.

Andrew Schiff, CEO, Rhode Island Community Food Bank, a researcher on the study, said, "Our goal is to provide those we serve with the most nutritious food possible and help them prepare healthy meals, understanding that the household budget is lim

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดำเนินการ โดยโรงพยาบาลมิเรียมและธนาคารอาหารชุมชนโรดไอส์แลนด์การวิจัยแสดงให้เห็นว่า - ขัดกับความเชื่อที่นิยม - อาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้มีราคาไม่แพง ในความเป็นจริง การศึกษาพบว่าอาหารที่มีน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ พืชถูกกว่าแนะนำคุ้มค่าที่สุดสำหรับมารับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจากสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตร (USDA) เปรียบเทียบอาหาร USDA แสดงให้เห็นว่าการออมทรัพย์ประจำปีเกือบ 750 $ ต่อคน ให้รับประทานผัก ผลไม้ และเมล็ดธัญพืชมาก การศึกษาและปตท.ได้เผยแพร่เดือนสุดท้ายในสมุดรายวันความหิวและโภชนาการสิ่งแวดล้อม"เราไม่วิเคราะห์นี้ เพราะมักกล่าวว่า อาหารสุขภาพที่มีราคาแพง และเป็นผลไม้และผักที่ทำให้ราคาแพงเกินไป กล่าวว่า Mary Flynn, Ph.D. โภชนาการวิจัยที่โรงพยาบาลมิเรียมและนักวิจัยเป้าหมายในการศึกษา "น้ำมันมะกอกยังคิดว่า จะมีราคาแพง แต่เราสงสัยว่า มันเป็นเนื้อสัตว์ที่ทำอาหารที่มีราคาแพง และน้ำมันมะกอกมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์จำนวนเล็กน้อยแม้ เราคาดว่าอาหารสองจะคล้ายกันในเนื้อหาผักและผลไม้ แต่อาหารจากพืชของเราถูกมากถูกกว่า และผลไม้ และผัก และธัญพืชมากขึ้น"ในปี 1999, Flynn พัฒนาอาหารจากพืชน้ำมันมะกอก สำหรับการลดน้ำหนัก และปรับปรุง biomarkers สำหรับโรคเรื้อรัง การศึกษานำร่องก่อนผู้หญิงมะเร็งเต้านมพบว่า อาหารที่ผลในการลดน้ำหนักและปรับปรุงในบางปัจจัยเสี่ยงโรคเรื้อรังเมื่อเทียบกับการรับประทานอาหารไขมันต่ำดี คนยักษ์ต้องการอาหารที่ไขมันต่ำ และสม่ำเสมอความเห็นวิธีประหยัดก็ซื้อ และเตรียมความพร้อมว่า พยายามนำความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลมิเรียมและ ธนาคารอาหารชุมชนโรดไอส์แลนด์พัฒนาโพรโทคอวิจัยของโปรแกรมทำของหกสัปดาห์มุ่งปรับปรุงความปลอดภัยของอาหาร - หรือความสามารถในการจ่ายอาหารที่เพียงพอ - ลูกค้าเตรียมอาหารโดยใช้สูตรอาหารจากพืชน้ำมันมะกอก วัตถุประสงค์คือเพื่อ ดูว่า อาหารครัวลูกค้าจะใช้สูตรสำหรับสามมื้อต่อสัปดาห์และถ้าจะลดต้นทุนอาหารโดยรวมและความไม่มั่นคงอาหารของพวกเขา ผลการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ผู้เรียนใช้สูตรค่าเฉลี่ย 2.8 อาหารสัปดาห์และนี้นำไปสู่การลดลงในความไม่มั่นคงของอาหาร รายการสินค้าที่รวมค่าใช้จ่าย และดัชนีมวลกาย หกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมเหล่านั้นรายงานว่า สูตรการเตรียมง่าย และใช้เวลาน้อยกว่าที่พวกเขามักจะใช้การศึกษาที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ในสมุดรายวันความหิวและโภชนาการสิ่งแวดล้อมเปรียบเทียบต้นทุนของอาหาร จากพืช มะกอกน้ำมันที่พัฒนา โดย Flynn ของ USDA MyPlate อาหารรุ่นต้นทุนต่ำกว่าเจ็ดวัน MyPlate มีผลไม้และผักที่ครึ่งจาน และต้องครึ่งหนึ่งของธัญพืชทั้งหมดใช้เป็นธัญพืช Flynn ของอาหารจากพืชรวมถึงการผลิตแช่แข็ง และบรรจุกระป๋อง มีปริมาณสารอาหารเทียบเท่ากับรุ่นใหม่ขายปลีก และศึกษาแสดงแช่แข็ง และบรรจุกระป๋องผลิตมีปริมาณสูงของโรคมะเร็งที่พบในสดใหม่คอมโพเนนต์การต่อสู้ อาหารจากพืชยังมีสี่ช้อนโต๊ะต่อวันน้ำมันมะกอก ซึ่งแสดงถึง 9 เปอร์เซ็นต์หรือ $3.61 ต้นทุนรายสัปดาห์สำหรับการรับประทานอาหาร "น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ราคามากกว่าน้ำมันเมล็ดผัก แต่มีความแตกต่างจากน้ำมันอื่น ๆ อธิบาย Flynn "มันเป็นน้ำผลไม้มะกอก เพื่อเป็นโรงงานผลิตภัณฑ์ การศึกษาจำนวนมากได้แสดงน้ำมันมะกอกมีประโยชน์เนื่องจากคอมโพเนนต์ที่พบในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์"การศึกษาล่าสุดพบว่า รวมทั้งผักและผลไม้ทุกวันราคาไม่แพง แม้ในปริมาณค่อนข้างสูง รวมถึงเนื้อสัตว์พบจะมีราคาแพงมาก และไม่ดี ศึกษาราคาแสดงว่า สัตว์ต้นทุนมากกว่าคู่นั้นการเสิร์ฟผัก หรือพืชตระกูลถั่วและ 60 เปอร์เซ็นต์มากกว่าอาหารผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ไม่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ในความเป็นจริง การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การบริโภคเนื้อบ่อยมีการเกี่ยวข้องกับเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ชนิดที่ 2 โรคเบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และอัตราการตายโดยรวมการวิจัยได้แสดงว่า ครัวเรือนรายได้ต่ำจะจ่ายเงินร้านขายของชำก่อนในเนื้อสัตว์ ไข่ ธัญพืช และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และที่ให้ความรู้แก่ผู้บริโภครวมอาหารบางรายสัปดาห์ที่ไม่ประกอบด้วยเนื้อ ไก่ หรืออาหารทะเล แต่มีน้ำมันมะกอก ผัก และแป้งจะลดต้นทุนอาหาร และปรับปรุงน้ำหนักร่างกายและการเข้าถึงอาหาร "คนควรคิดใหม่เนื้อเท่าใดพวกเขากิน และ บ่อย, " กล่าวว่า ฟลินน์แอนดรูเตอรองท์ชิฟฟ์ CEO โรดไอส์แลนด์ชุมชน ธนาคารอาหาร นักวิจัยในการศึกษา กล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือการ ให้ผู้บริการกับอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดเป็นไปได้ และช่วยให้พวกเขาเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพ เข้าใจว่า งบประมาณที่ใช้ในครัวเรือนเป็น lim

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิจัยดำเนินการโดยโรงพยาบาลมิเรียมและธนาคารอาหารชุมชน Rhode Island แสดงให้เห็นว่า - ขัดกับความเชื่อที่นิยม - อาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้มีราคาไม่แพง ในความเป็นจริงจากการศึกษาพบว่าอาหารน้ำมันมะกอกจากพืชบริสุทธิ์พิเศษราคาถูกกว่าคำแนะนำที่ประหยัดที่สุดสำหรับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาจากสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตร (USDA) การเปรียบเทียบกับอาหาร USDA แสดงให้เห็นการออมทรัพย์ประจำปีเกือบ $ 750 ต่อคนขณะที่ยังให้การบริโภคอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นของผักผลไม้และธัญพืช การศึกษาและผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วในวารสารของความหิวและสิ่งแวดล้อมโภชนาการ. "เราได้วิเคราะห์นี้เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่กล่าวว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีราคาแพงและว่ามันเป็นผลไม้และผักที่ทำให้พวกเขามีราคาแพงเกินไป" แมรี่กล่าวว่า ฟลินน์, Ph.D. , นักโภชนาการวิจัยที่โรงพยาบาลมิเรียมและนักวิจัยนำเกี่ยวกับการศึกษา "น้ำมันมะกอกยังเป็นความคิดที่จะมีราคาแพง แต่เราสงสัยว่ามันเป็นเนื้อสัตว์ที่ทำอาหารที่มีราคาแพงและน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มีราคาถูกกว่าปริมาณน้อยแม้กระทั่งเนื้อ. เราคาดว่าทั้งสองอาหารที่จะเป็นที่คล้ายกันในผลไม้ และเนื้อหาผัก แต่อาหารจากพืชของเราเป็นอย่างมากที่ถูกกว่าและให้ความสำคัญผลไม้มากขึ้นและผักและธัญพืช. " ในปี 1999 ฟลินน์พัฒนาอาหารน้ำมันพืชมะกอกสำหรับการลดน้ำหนักและเพื่อปรับปรุง biomarkers สำหรับโรคเรื้อรัง การศึกษานำร่องในช่วงต้นของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมพบว่าอาหารที่ส่งผลในการลดน้ำหนักที่ดีขึ้นและการปรับปรุงในปัจจัยเสี่ยงโรคเรื้อรังบางเมื่อเทียบกับอาหารที่มีไขมันต่ำ เข้าร่วมนำโด่งที่แนะนำไปยังอาหารที่มีไขมันต่ำและแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับวิธีการประหยัดก็คือการซื้อและเตรียมความพร้อม. ความพยายามที่นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลมิเรียมและ Rhode Island ธนาคารอาหารชุมชนในการพัฒนาหกสัปดาห์โปรแกรมการปรุงอาหารโปรโตคอลการวิจัยมุ่งเป้าไปที่ การปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยอาหาร - หรือความสามารถในการจ่ายอาหารเพียงพอ - สำหรับลูกค้า Pantry อาหารโดยใช้พืชสูตรอาหารน้ำมันมะกอก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูว่าลูกค้า Pantry อาหารจะใช้สูตรสามดินเนอร์ต่อสัปดาห์และหากที่จะลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของอาหารและความไม่มั่นคงอาหาร ผลการศึกษาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมใช้สูตรสำหรับค่าเฉลี่ยของ 2.8 มื้อต่อสัปดาห์และนำไปสู่การลดลงของความไม่มั่นคงทางอาหารของพวกเขาค่าใช้จ่ายในร้านขายของชำรวมและดัชนีมวลกาย เจ็ดสิบหกเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมเหล่านั้นรายงานว่าสูตรได้ง่ายต่อการเตรียมความพร้อมและใช้เวลาน้อยกว่าคนที่พวกเขามักจะใช้. การศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในวารสารของความหิวและสิ่งแวดล้อมโภชนาการเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในช่วงเจ็ดวันของพืชมะกอก อาหารน้ำมันที่พัฒนาโดยฟลินน์ไปเป็นรุ่นต้นทุนต่ำสุดของอาหาร MyPlate ของ USDA MyPlate มีการรวมกันของผักและผลไม้ที่ทำขึ้นครึ่งจานอาหารค่ำและต้องครึ่งหนึ่งของธัญพืชทั้งหมดจะบริโภคธัญพืช อาหารจากพืชฟลินน์รวมถึงการผลิตแช่แข็งและบรรจุกระป๋องที่พวกเขามีปริมาณสารอาหารใกล้เคียงกับรุ่นสดค้าปลีกและการศึกษาแสดงให้เห็นการผลิตแช่แข็งและบรรจุกระป๋องมีปริมาณที่สูงขึ้นของบางส่วนของส่วนประกอบที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งที่พบในผักผลไม้สด อาหารจากพืชนอกจากนี้ยังรวมถึงสี่ช้อนโต๊ะวันของน้ำมันมะกอกซึ่งคิดเป็นร้อยละเก้าหรือ $ 3.61 ของค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์สำหรับการรับประทานอาหาร "น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ค่าใช้จ่ายมากกว่าน้ำมันเมล็ดผัก แต่มันจะแตกต่างจากน้ำมันอื่น ๆ " อธิบายฟลินน์ "มันเป็นน้ำผลไม้ผลไม้มะกอกจึงเป็นผลิตภัณฑ์พืชและการศึกษาจำนวนมากได้แสดงให้เห็นน้ำมันมะกอกมีช่วงของประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากส่วนประกอบที่พบในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ." การศึกษาล่าสุดพบว่ารวมทั้งผักและผลไม้ ในชีวิตประจำวันคือราคาไม่แพงแม้ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง เนื้อสัตว์รวมทั้งพบว่ามีราคาแพงมากและไม่เป็นที่ดีต่อสุขภาพ ศึกษาดูที่ค่าใช้จ่ายอาหารแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าสองเท่าของการให้บริการของผักหรือพืชตระกูลถั่วและร้อยละ 60 มากกว่าการให้บริการของผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ในความเป็นจริงการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าเนื้อบ่อยบริโภคได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจโรคมะเร็งเต้านมมะเร็งต่อมลูกหมากมะเร็งลำไส้ใหญ่และการเสียชีวิตโดยรวม. การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีรายได้ต่ำจะใช้จ่ายของพวกเขา เงินร้านขายของชำเป็นครั้งแรกในเนื้อสัตว์, ไข่, ธัญพืชและผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และที่ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคที่จะรวมค่าอาหารรายสัปดาห์บางอย่างที่ไม่ได้มีเนื้อไก่หรืออาหารทะเล แต่ไม่รวมถึงน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษผักและแป้งจะลดค่าใช้จ่ายอาหารและปรับปรุง การเข้าถึงอาหารและน้ำหนักตัว "ทุกคนควรจะคิดใหม่ว่าเนื้อมากพวกเขากินและวิธีการที่มักจะ" ฟลินน์กล่าว. แอนดรูชิฟฟ์, ซีอีโอ, Rhode Island ชุมชนธนาคารอาหารนักวิจัยเกี่ยวกับการศึกษากล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือการให้ผู้ที่เราให้บริการด้วยอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด เป็นไปได้และช่วยให้พวกเขาเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพ, การทำความเข้าใจว่างบประมาณที่ใช้ในครัวเรือนคือ Lim

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยที่จัดทำโดย Miriam โรงพยาบาลและ Rhode Island ชุมชนอาหารธนาคารแสดง . . . ขัดกับความเชื่อที่นิยม -- สุขภาพอาหารที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้มาก ในความเป็นจริง พบว่า จากพืชบริสุทธิ์พิเศษน้ำมันมะกอกอาหารถูกกว่าข้อเสนอที่ประหยัดที่สุดสำหรับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่มาจากสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตร ( USDA ) การเปรียบเทียบการ USDA อาหารแสดงประจำปีประหยัดเกือบ $ 750 ต่อท่าน ในขณะที่ยัง ให้มากขึ้น การรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืชทั้งหมด . การศึกษาและการค้นพบถูกตีพิมพ์ในเดือนวารสารความหิวด้านสิ่งแวดล้อมและโภชนาการ" เราทำวิเคราะห์นี้เพราะมันมักกล่าวว่า อาหารเพื่อสุขภาพราคาแพง และที่เป็นผักและผลไม้ที่ทำให้มันแพงมาก " บอกว่า แมรี่ ฟลินน์ , ปริญญาเอก , วิจัยนักโภชนาการในโรงพยาบาลมิเรียม และนักวิจัยชั้นนำในการศึกษา " น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ยังนึกว่าจะแพง แต่เราสงสัยว่ามันจะเป็นเนื้อ ทำให้อาหารมีราคาแพง และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ราคาถูกกว่า แม้เพียงเล็กน้อย เนื้อ เราคาดว่าสองอาหารที่จะคล้ายกันในผักและผลไม้ปริมาณอาหารจากพืช แต่ของเราถูกกว่ามากและโดดเด่นมากขึ้น ผัก ผลไม้ และธัญพืช .ในปี 1999 , ฟลินน์พัฒนาจากพืช น้ำมันมะกอก อาหารสำหรับลดน้ำหนักและปรับปรุงใหม่ของโรค เรื้อรัง การศึกษานำร่องแรกของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม พบว่ามีผลในการสูญเสียน้ำหนักอาหารที่ดีและปรับปรุงในบางโรคเรื้อรังปัจจัยความเสี่ยงเทียบกับลดไขมันในอาหาร ผู้ที่ต้องการไปขาดลอย ลดไขมันในอาหาร และอย่างที่ความเห็นบนวิธีประหยัดก็ซื้อเตรียมความพยายามที่นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน มิเรียม โรดไอแลนด์ ธนาคารอาหารเพื่อพัฒนาหกสัปดาห์โปรแกรมการวิจัยขั้นตอนการทำอาหารเพื่อปรับปรุงความมั่นคงด้านอาหาร หรือความสามารถในการซื้ออาหารที่เพียงพอ . . . สำหรับลูกค้าครัวอาหาร โดยใช้สูตรอาหารจากพืช น้ำมันมะกอก วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อดูว่าลูกค้าจะใช้สูตรอาหาร กับข้าวสามมื้อค่ำต่อสัปดาห์และถ้าจะลดต้นทุนโดยรวมอาหารและอาหารปลอดภัย . ผลของการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างนี้ ก่อนหน้านี้ใช้สูตรเฉลี่ย 2.8 มื้อต่อสัปดาห์และนี้นำไปสู่การลดลงของพวกเขาไม่มั่นคงด้านอาหาร รวม ค่าใช้จ่ายของ และค่าดัชนีมวลกาย เจ็ดสิบหกเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่รายงานว่า สูตรง่ายในการเตรียมและใช้เวลาน้อยกว่าที่พวกเขามักจะใช้การศึกษาที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆนี้ในวารสารโภชนาการความหิวและสิ่งแวดล้อมเปรียบเทียบต้นทุนไปเจ็ดวันของจากพืช อาหาร น้ำมันมะกอกที่พัฒนาโดยฟลินน์กับต่ำสุดต้นทุนรุ่นของ USDA myplate อาหาร myplate คุณลักษณะการรวมกันของผักและผลไม้ที่ให้ถึงครึ่งจาน และต้องใช้ครึ่งหนึ่งของธัญพืชที่ใช้เป็นธัญพืชทั้งหมด ของเขาจากพืชอาหารรวมถึง แช่แข็ง และผลิตกระป๋อง ตามที่พวกเขามีสารอาหารเทียบเท่ากับค้าปลีกอาหารสดและแช่แข็งและบรรจุกระป๋องรุ่นแสดงการศึกษาผลิตมีเนื้อหาที่สูงขึ้นของโรคมะเร็งต่อสู้ส่วนประกอบที่พบในผักสด และจากพืชอาหารยังรวมถึงสี่ช้อนโต๊ะของน้ำมันมะกอกวันซึ่งแสดงร้อยละ 9 หรือ $ 3.61 ของต้นทุนรายสัปดาห์สำหรับอาหาร . " น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ค่าใช้จ่ายมากกว่าน้ำมันเมล็ดพันธุ์ผัก แต่มันไม่เหมือนน้ำมัน อื่น ๆ , " อธิบาย ฟลินน์ " . มันคือน้ำผลไม้จากผลไม้มะกอกจึงเป็นผลิตภัณฑ์พืชและการศึกษามากมายได้แสดงน้ำมันมะกอกให้ช่วงของประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากส่วนประกอบที่พบในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์”การศึกษาล่าสุดพบว่า รวมถึงผักและผลไม้ทุกวัน ก็ไม่แพง แม้ในปริมาณค่อนข้างสูง ได้แก่ เนื้อ พบว่าราคาแพงมาก และไม่แข็งแรง การศึกษาหาค่าอาหารให้สัตว์ผลิตภัณฑ์ต้นทุนมากกว่าสองเท่าของการให้บริการของผักหรือถั่วและ 60 เปอร์เซ็นต์มากกว่าการแสดงของผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง ในความเป็นจริงการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคเนื้อสัตว์บ่อยได้รับที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และอัตราการตายโดยรวมการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้มีรายได้น้อยจะใช้จ่ายเงินซื้อของพวกเขาในเนื้อสัตว์ ไข่ ธัญพืชและผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และความรู้แก่ผู้บริโภครวมถึงรายสัปดาห์บางอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล แต่ไม่รวมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ , ผักและแป้งจะลดต้นทุนของอาหาร และปรับปรุงการเข้าถึงอาหารและน้ำหนักตัว " . ประชาชนควรคิดใหม่เท่าใดที่พวกเขาบริโภคเนื้อและวิธีการที่มักจะกล่าวว่า " ฟลินน์แอนดรูว์ ชิฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารอาหารชุมชน Rhode Island , นักวิจัยที่ศึกษา กล่าวว่า " เป้าหมายของเราคือเพื่อ ให้ผู้ที่เราให้บริการด้วยอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด และช่วยให้พวกเขาเตรียมอาหารสุขภาพ ความเข้าใจว่า งบประมาณที่ใช้ในครัวเรือนคือ ลิม