Different approaches to process min

Different approaches to process mining have been proposed which analyze predefined process model definitions to verify their correctness (Van Dongen et al. 2007) or analyze extracted transaction data to discover how actual processes are executed (Jansen-Vullers et al. 2006). Process mining is narrowly focused on process analysis, but is conceptually related in a broader context to Business (Process) Intelligence (BI) and Business Activity Monitoring (BAM), which view aggregated data from an external perspective. In contrast, process mining takes an internal perspective, investigating the detailed activities within the process, thus uncovering differences between envisioned processes and actual process execution (Song and van der Aalst 2008). Modeling existing business processes and modeling future ERP-based processes is a promising approach to anticipate longer-term impacts of ERP implementation decisions.

Change Management
Change management, a critical success factor for ERP implementations, builds on research in the organizational management and information systems disciplines. Organizational change management is a structured process to proactively manage individuals affected by the change, and recommends tactics including "readiness for change" assessments, training programs, job redesign, and organizational structures modifications. When IT is a major driver of the change, the IT literature further recommends technochange management, which pays particular attention to A recent review of risk management in ERP projects found the most frequent risks occurred in the early conceptual phase with the lack of strategic thinking and poor ERP selection, followed by the second set of risks including implementation problems of inadequate change management and lack of adequate training (Aloini et al. 2007). ERP change management studies include individual cases (Ross 1999; Lui and Chan 2008), comparative case studies (Robey et al. 2002), empirical studies assessing multiple firms' implementations using interviews (Gupta 2000; Markus et al. 2000; Benamati and Lederer 2008), and surveys (Al-Mashari 2003; Benamati and Lederer 2008; Bueno and Salmeron 2008).
The relationship between ERP systems and innovation from a knowledge-based perspective has been researched by Srivardhana and Pawlowski (2007). They built upon the multi-dimensional conceptualization of absorptive capacity and developed a theoretical framework that specified the relationship between ERP-related knowledge impacts and absorptive capacity for business process innovation. They viewed ERP systems as possessing dialectical contradictions that both enabled and constrained business process innovation. Park et al. (2007) also examined absorptive capacity and found that the capacities of users to assimilate and apply the knowledge had both direct and indirect effects on its value. Further, the users' effective knowledge acquisition and transfer to work tasks requires an understanding of newly acquired ERP knowledge within the new context and synthesized into the user's task environment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนวทางดำเนินการเหมืองแร่ได้รับการเสนอซึ่งวิเคราะห์ข้อกำหนดรูปแบบกระบวนการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง (Van Dongen et al. 2007) หรือธุรกรรมที่แยกวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการค้นพบกระบวนการจริงวิธีดำเนินการ (แจนเซน-Vullers et al. 2006) กระบวนการทำเหมืองแร่หวุดหวิดเน้นวิเคราะห์กระบวนการ แต่ทางแนวคิดเกี่ยวข้องในบริบทกว้างขึ้นการข่าวกรองธุรกิจ (กระบวนการ) (BI) และธุรกิจกิจกรรมการตรวจสอบ (BAM), ซึ่งดูรวบรวมข้อมูลจากมุมมองภายนอก ตรงกันข้าม กระบวนการทำเหมืองใช้มุมมองภายใน ตรวจสอบรายละเอียดกิจกรรมภายในกระบวนการ จึง เปิดเผยความแตกต่างระหว่าง envisioned กระบวนการและการดำเนินการจริง (เพลงและ van der อัลท์ 2008) แบบจำลองกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่และสร้างแบบจำลองกระบวนการใช้ ERP ในอนาคตเป็นวิธีการแนวโน้มการคาดการณ์ผลกระทบระยะยาวของการตัดสินใจการใช้งาน ERPจัดการการเปลี่ยนแปลงการจัดการการเปลี่ยนแปลง เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จสำหรับการใช้งาน ERP สร้างงานวิจัยในสาขาระบบองค์กรการจัดการและข้อมูล การจัดการการเปลี่ยนแปลงองค์กรเป็นกระบวนการมีโครงสร้างการจัดการบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และแนะนำกลยุทธ์รวมทั้งประเมินผล "การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง" อบรม งานออกแบบ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เมื่อโปรแกรมควบคุมที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลง มันแนะนำวรรณกรรมเพิ่มเติมการจัดการ technochange จ่ายใดควรระมัดระวังการทบทวนการบริหารความเสี่ยงในโครงการ ERP ล่าพบความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดเกิดขึ้นในระยะแรกแนวคิดกับการขาดความคิดเชิงกลยุทธ์และการเลือก ERP ที่ดี ตาม ด้วยชุดสองความเสี่ยงรวมทั้งปัญหาการดำเนินงานของการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงพอและขาดการฝึกอบรมเพียงพอ (Aloini et al. 2007) ศึกษาการจัดการการเปลี่ยนแปลงของ ERP ได้แก่กรณีบุคคล (Ross 1999 Lui และจัน 2008), ศึกษาเปรียบเทียบกรณี (Robey et al. 2002), ศึกษาเชิงประจักษ์เพื่อประเมินการใช้งานหลายบริษัทใช้สัมภาษณ์ (คุปตะ 2000 Markus et al. 2000 Benamati และ 2551 Lederer), และแบบสำรวจ (มะชารีอัล 2003 Benamati และ Lederer 2008 Bueno และ Salmeron 2008)ความสัมพันธ์ระหว่างระบบ ERP และนวัตกรรมจากมุมมองที่อาศัยความรู้มีการทำวิจัย โดย Srivardhana และ Pawlowski (2007) พวกเขามาจากเนยหลายมิติของความดูดซึม และพัฒนาเป็นกรอบทฤษฎีที่ระบุความสัมพันธ์ระหว่างผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับ ERP ความรู้และความดูดซึมนวัตกรรมกระบวนการธุรกิจ พวกเขาดูเป็นมีความขัดแย้ง dialectical ที่เปิดใช้งาน และจำกัดนวัตกรรมกระบวนการธุรกิจระบบ ERP สวน et al. (2007) ยังความดูดการตรวจสอบ และพบว่า กำลังการผลิตของผู้ใช้ในการดูดซึม และใช้ความรู้ที่มีผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อมเป็นค่า ต่อไป ความรู้ที่มีประสิทธิภาพซื้อและโอนย้ายไปปฏิบัติงานของผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจความรู้ ERP ที่ซื้อมาใหม่ภายในบริบทใหม่ และสังเคราะห์ในสภาพแวดล้อมงานของผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการที่แตกต่างกันในการดำเนินการทำเหมืองแร่ที่ได้รับการเสนอซึ่งวิเคราะห์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าคำจำกัดความแบบจำลองกระบวนการในการตรวจสอบความถูกต้องของพวกเขา (Van Dongen et al. 2007) หรือการวิเคราะห์ข้อมูลการทำธุรกรรมสกัดการค้นพบวิธีกระบวนการที่เกิดขึ้นจริงจะดำเนินการ (Jansen-Vullers et al. 2006) การทำเหมืองแร่ในกระบวนการจะเน้นหวุดหวิดในการวิเคราะห์กระบวนการ แต่จะเกี่ยวข้องกับแนวคิดในบริบทที่กว้างขึ้นเพื่อธุรกิจ (กระบวนการ) หน่วยสืบราชการลับ (BI) และการตรวจสอบกิจกรรมทางธุรกิจ (BAM) ซึ่งดูข้อมูลที่รวบรวมได้จากมุมมองภายนอก ในทางตรงกันข้ามการทำเหมืองแร่กระบวนการเตะมุมมองภายในการตรวจสอบรายละเอียดของกิจกรรมภายในกระบวนการจึงเปิดโปงความแตกต่างระหว่างกระบวนการจินตนาการและการดำเนินการขั้นตอนที่เกิดขึ้นจริง (เพลงและแวนเดอร์ Aalst 2008) การสร้างแบบจำลองกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่และการสร้างแบบจำลองกระบวนการ ERP-based อนาคตเป็นวิธีการที่มีแนวโน้มที่จะคาดการณ์ผลกระทบในระยะยาวของการตัดสินใจการใช้ ERP.

การจัดการการเปลี่ยนแปลง
การจัดการการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญสำหรับการใช้ ERP สร้างเกี่ยวกับการวิจัยในการจัดการและระบบข้อมูลขององค์กรสงฆ์ . การจัดการการเปลี่ยนแปลงองค์กรเป็นกระบวนการที่มีโครงสร้างในเชิงรุกในการจัดการบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงและแนะนำกลยุทธ์รวมทั้ง "การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง" การประเมินผลโปรแกรมการฝึกอบรมการออกแบบงานและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เมื่อมันเป็นไดรเวอร์ที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงวรรณกรรมมันต่อไปให้คำแนะนำการจัดการ technochange ซึ่งให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบล่าสุดของการบริหารความเสี่ยงในโครงการ ERP พบความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดเกิดขึ้นในขั้นตอนความคิดในช่วงต้นกับการขาดการคิดเชิงกลยุทธ์และ ตัวเลือกที่น่าสงสาร ERP ตามด้วยชุดที่สองของความเสี่ยงรวมทั้งปัญหาการดำเนินงานของการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงพอและขาดการฝึกอบรมอย่างเพียงพอ (Aloini et al. 2007) การศึกษาการจัดการการเปลี่ยนแปลง ERP รวมถึงกรณีของแต่ละบุคคล (รอสส์ปี 1999 ลุยและ Chan 2008) กรณีศึกษาเปรียบเทียบ (Robey et al, 2002.) การศึกษาเชิงประจักษ์การประเมินการใช้งานหลาย บริษัท โดยใช้การสัมภาษณ์ (Gupta 2000 มาร์คัส et al, 2000. Benamati และ Lederer 2008) และการสำรวจ (Al-Mashari 2003 Benamati และ Lederer 2008. Bueno และ Salmeron 2008)
ความสัมพันธ์ระหว่างระบบ ERP และนวัตกรรมจากมุมมองความรู้ตามที่ได้รับการวิจัยโดย Srivardhana และ Pawlowski (2007) พวกเขาสร้างขึ้นบนแนวความคิดหลายมิติของความจุการดูดซึมและการพัฒนากรอบทฤษฎีที่ระบุความสัมพันธ์ระหว่าง ERP ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อความรู้และความสามารถในการดูดซึมสำหรับนวัตกรรมกระบวนการทางธุรกิจ พวกเขามองว่าเป็นระบบ ERP ที่มีความขัดแย้งวิภาษว่าทั้งสองเปิดใช้งานและข้อ จำกัด นวัตกรรมกระบวนการทางธุรกิจ พาร์ค, et al (2007) นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบความจุการดูดซึมและพบว่าขีดความสามารถของผู้ใช้ในการดูดซึมและนำความรู้ที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อความคุ้มค่า นอกจากนี้ผู้ใช้ 'ความรู้การซื้อที่มีประสิทธิภาพและการถ่ายโอนไปทำงานงานที่ต้องใช้ความเข้าใจของความรู้ที่ได้มาใหม่ ERP ในบริบทใหม่และสังเคราะห์งานในสภาพแวดล้อมของผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีที่แตกต่างเพื่อการทำเหมืองแร่กระบวนการได้รับการเสนอซึ่งวิเคราะห์ กำหนดคำนิยามกระบวนการเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของพวกเขา ( รถตู้ดอนเกน et al . 2007 ) หรือวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมการค้นพบวิธีการสกัดกระบวนการที่แท้จริงจะดำเนินการ ( Jansen vullers et al . 2006 ) การทำเหมืองแร่กระบวนการหวุดหวิดมุ่งเน้นการวิเคราะห์กระบวนการ แต่เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องในบริบทที่กว้างขึ้น ( กระบวนการ ) ข่าวกรองธุรกิจ ( BI ) และการตรวจสอบกิจกรรมทางธุรกิจ ( BAM ) ซึ่งดูข้อมูลรวมจากมุมมองภายนอก ในทางตรงกันข้าม การใช้มุมมองกระบวนการภายใน ตรวจสอบกิจกรรมรายละเอียดภายในกระบวนการ ดังนั้นการเปิดเผยความแตกต่างระหว่างจินตนาการและกระบวนการที่เกิดขึ้นจริงในกระบวนการ ( เพลง และ ฟาน เดอร์ aalst 2008 ) การสร้างแบบจำลองกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่และการสร้างแบบจำลอง ERP ในอนาคตตามกระบวนการเป็นวิธีการที่มีแนวโน้มที่จะคาดการณ์ผลกระทบระยะยาวของการตัดสินใจการดำเนินงาน ERPการบริหารการเปลี่ยนแปลงการบริหารการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยแห่งความสำเร็จสำหรับ ERP ซึ่งจะสร้างในการวิจัยในการจัดการองค์กรและข้อมูลทางระบบ การจัดการการเปลี่ยนแปลงองค์การคือโครงสร้างกระบวนการเชิงรุกจัดการบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และแนะนำกลยุทธ์รวมถึง " ความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง " การประเมินผลการฝึกอบรมในงานออกแบบ และโครงสร้างองค์กรการปรับเปลี่ยน เมื่อมันเป็นไดรเวอร์ที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลง วรรณกรรมเพิ่มเติมแนะนำการจัดการ technochange ซึ่งจ่ายความสนใจเฉพาะการตรวจทานล่าสุดของการบริหารความเสี่ยงในโครงการ ERP พบความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดเกิดขึ้นในช่วงต้นขั้นตอนแนวคิดกับการคิดเชิงกลยุทธ์และการเลือก ERP ไม่ดี ตามด้วยชุดที่สองของความเสี่ยงรวมถึงการใช้ปัญหา การบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงพอและขาดการฝึกอบรมอย่างเพียงพอ ( aloini et al . 2007 ) เปลี่ยนระบบ ERP การจัดการศึกษา รวมถึงกรณีของแต่ละบุคคล ( รอสส์ 1999 ; ลุยและชาน 2008 ) กรณีศึกษาเปรียบเทียบ ( โรบีย์ et al . 2002 ) การศึกษาเชิงประจักษ์ของบริษัทหลายรายการสัมภาษณ์ ( Gupta 2000 ; มาร์คุส et al . benamati มกราคม 2000 และ 2008 ) และการสำรวจ ( อัล mashari 2003 ; และ benamati มกราคม 2008 ; และบัวโน salmeron 2008 )ความสัมพันธ์ระหว่างระบบ ERP จากฐานความรู้และนวัตกรรมมุมมองได้วิจัย และ pawlowski ศรีวรรธนะ ( 2007 ) พวกเขาสร้างขึ้นบนแนวคิดหลายมิติของลอ และพัฒนาเป็นกรอบทฤษฎีที่ระบุความสัมพันธ์ระหว่าง ERP ความรู้ผลกระทบและความจุการดูดซึมนวัตกรรมกระบวนการทางธุรกิจ พวกเขาดูเป็นระบบ ERP มีการเปิดใช้งานและข้อ จำกัด ที่ทั้งทฤษฎีนวัตกรรมกระบวนการทางธุรกิจ ปาร์ค et al . ( 2007 ) ยังตรวจสอบความจุการดูดซึม และพบว่า ความสามารถของผู้ใช้เพื่อสร้างและใช้ความรู้ มีทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อค่าของ เพิ่มเติม ของผู้แสวงหาความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และโอนงานที่ต้องใช้ความเข้าใจในความรู้ที่ได้มาใหม่ ERP ในบริบทใหม่ และสังเคราะห์ สภาพแวดล้อมของงานของผู้ใช้