Lockean kind of thinking, based mor

Lockean kind of thinking, based more on the reasons why pluralism
should not be interfered with, than on recognition of its value. Take
Rawls, for instance. He defines the modern predicament as constituted
by '(i) the fact of pluralism and (ii) the fact of its permanence, as well as
(iii) the fact that this pluralism can be overcome only by the oppressive
use of state power (which presupposes a control of the state no group
possesses)/* Neutrality, then, is defined as non-interference with
substantive views, and pluralism is identified with the toleration of
different ways of life irrespective of their intrinsic value.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชนิดของคิด Lockean ตามมากเหตุผลทำไม pluralism ไม่ควรยุ่ง กว่าในการรับรู้ค่าของมัน ใช้ Rawls เช่นกัน เขากำหนดสภาพทันสมัยเป็นทะลัก โดย ' (i) ข้อเท็จจริงของ pluralism และ (ii) ความจริงของ permanence เป็น (iii) ข้อเท็จจริงว่า pluralism นี้สามารถเอาชนะเท่านั้น โดยการกดขี่ ใช้อำนาจรัฐ (ที่ presupposes ไม่มีกลุ่มควบคุมของรัฐ ครบถ้วน) / * ความเป็นกลาง แล้ว ถูกกำหนดเป็นไม่รบกวน มีระบุมุมมองเรา และ pluralism กับคติของ วิธีการต่าง ๆ ของชีวิตโดยไม่คำนึงถึงค่าของ intrinsic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชนิดของล็อคการคิดขึ้นอยู่กับเหตุผลที่หลายฝ่าย
ไม่ควรแทรกแซงด้วยกว่าในการรับรู้ของค่าของมัน พา
วล์ตัวอย่างเช่น เขากำหนดสถานการณ์ที่ทันสมัยประกอบด้วย
โดย '(i) ความเป็นจริงของหลายฝ่ายและ (ii) ความเป็นจริงของความคงทนของมันเช่นเดียวกับ
(iii) ความจริงที่ว่าฝ่ายนี้จะสามารถเอาชนะได้โดยการกดขี่
การใช้อำนาจรัฐ (ซึ่ง เหควบคุมของรัฐกลุ่มไม่มี
มี) / * เป็นกลางแล้วหมายถึงการไม่แทรกแซงด้วย
มุมมองที่สำคัญและหลายฝ่ายจะถูกระบุด้วยความอดทนของ
วิธีการที่แตกต่างกันของสิ่งมีชีวิตโดยไม่คำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

lockean ชนิดของการคิดตามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ไม่ควรแทรกแซง มากกว่าในการรับรู้คุณค่าของมัน ใช้
Rawls , สำหรับอินสแตนซ์ เขากำหนดสถานการณ์ที่ทันสมัยเป็น constituted
' ( ฉัน ) ข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้งและ ( 2 ) เรื่องของความทนทานเช่นเดียวกับ
( III ) ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งนี้ สามารถแก้ไขได้เพียงโดยการกดขี่
การใช้อำนาจรัฐ ( ซึ่ง presupposes การควบคุมของรัฐ ไม่มีกลุ่ม
ครบถ้วน ) / * ความเป็นกลาง จึงกำหนดเป็นหลักการไม่แทรกแซงกับ
มุมมองสำคัญ และคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุด้วยขันติธรรมของ
วิธีที่แตกต่างของชีวิตโดยไม่คํานึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของพวกเขา