In this article, originally publish

In this article, originally published in Indian Architect & Builder, architect and writer David Robson pens an intimate and personal account of the life and work of Geoffrey Bawa – an incredible architect with an un-paralleled legacy in Sri Lanka and south-east India.

Ten years have rolled by since Geoffrey Bawa’s death and fifteen since ill-health forced him to hang up his tee-square. It's time to take stock: what was his legacy? How were his ideas disseminated? What influence has he had? What were his qualities? Who was Geoffrey Bawa?

Ena de Silva House - Copy drawing by Vernon Nonis, 1985.. Image Sitting at the Polontawala Bungalow.. Image Lunuganga -Drawing. Image Triton Hotel Entrance. Image
Bawa’s Career

Bawa’s architectural career began at the end of 1957 when, at the age of thirty-eight, he returned to Ceylon after completing his studies at the Architectural Association (the A.A.) in London and became a partner in the near moribund firm of Edwards Reid and Begg. The practice occupied offices in the Colombo Fort. His fellow partners were Jimmy Nilgiria and Valentine Gunasekera and early collaborators included Turner Wickremasinghe and Nihal Amerasinghe. At the end of 1958 he recruited Danish architect Ulrik Plesner who worked as his close associate until the end of 1966.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบทความนี้ตีพิมพ์ในอินเดียและสถาปนิกสร้างสถาปนิกและนักเขียนเดวิดร็อบสันปากกาบัญชีที่ใกล้ชิดและส่วนบุคคลของชีวิตและการทำงานของเจฟฟรีย์ Bawa - สถาปนิกที่น่าทึ่งกับมรดกยกเลิกการขนานในศรีลังกาและอินเดียทางตะวันออกเฉียงใต้สิบปีที่มีรีดโดยตั้งแต่การตายของเจฟฟรีย์ Bawa และตั้งแต่สิบห้าสุขภาพไม่ดีบังคับให้เขาต้องวางสายทีสแควร์ของเขา ถึงเวลาที่จะนำหุ้น: สิ่งที่เป็นมรดกของเขา? วิธีคิดของเขาถูกเผยแพร่? สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการได้เขามี? อะไรคือคุณภาพของเขา? ที่ถูกเจฟฟรีย์ Bawa? Ena de Silva House - คัดลอกภาพวาดโดยเวอร์นอน Nonis 1985 .. ภาพนั่งอยู่ที่ Polontawala บังกะโล .. ภาพวาดภาพ Lunuganga ภาพ Triton Hotel ทางเข้า ภาพBawa อาชีพอาชีพสถาปัตยกรรมBawa เริ่มในตอนท้ายของ 1957 เมื่อตอนอายุสามสิบแปดเขากลับไปยังประเทศศรีลังกาหลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาของเขาที่สถาปัตยกรรมสมาคม (เอเอ) ในกรุงลอนดอนและกลายเป็นหุ้นส่วนในใกล้ บริษัท ย่ำแย่ของ เอ็ดเวิร์ดเรดและเบ็กก์ การปฏิบัติที่สำนักงานครอบครองในโคลัมโบฟอร์ต คู่ค้าที่เพื่อนของเขาคือจิมมี่ Nilgiria และวาเลนไทน์ Gunasekera และทำงานร่วมกันในช่วงต้นรวมเทอร์เนอ Wickremasinghe และ Nihal Amerasinghe ในตอนท้ายของ 1958 ที่เขาได้รับคัดเลือกสถาปนิกเดนมาร์ก Ulrik Plesner ที่ทำงานเป็นภาคีสนิทของเขาจนถึงสิ้นปี 1966

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบทความนี้ ตีพิมพ์ครั้งแรกใน&อินเดียสร้างสถาปนิกสถาปนิกและนักเขียนเดวิด ร็อบสัน ปากกา บัญชีที่ใกล้ชิดและส่วนบุคคลของชีวิตและงานของ เจฟฟรี่ บาวา–เหลือเชื่อสถาปนิกกับสหประชาชาติได้มรดกในศรีลังกา และทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย

10 ปีได้ผ่านไปตั้งแต่เจฟฟรี่ บาวาตายและสิบห้าเนื่องจากสุขภาพไม่ดี บังคับให้เขาวางสายของเขา ที สแควร์มันถึงเวลาที่จะเอาหุ้น : สิ่งที่เป็นมรดกของเขา แล้วความคิดของเขาเผยแพร่ ? อิทธิพลที่เขามี สิ่งที่มีคุณภาพของเขา ? ใครคือเจฟฟรี่ บาวา ?

เอน่า เดอ ซิลวา บ้าน - คัดลอกวาดโดย เวอร์นอน nonis 1985 . . . . . . . ภาพนั่ง polontawala บังกะโล . . . . . . . ภาพ lunuganga - วาดภาพ ภาพไทรทัน ทางเข้าโรงแรม ภาพ

บาวาบาวาอาชีพสถาปัตยกรรมอาชีพเริ่มต้นที่จุดสิ้นสุดของปี 1957 เมื่อตอนอายุสามสิบแปด เขากลับมาที่ซีลอน หลังจากที่เรียนจบที่สมาคมสถาปนิก ( ศิลปศาสตร์ ) ในลอนดอน และเป็นหุ้นส่วนในบริษัทของเอ็ดเวิร์ดใกล้ร่อแร่รี้ดและเบ็กก์ . งานว่างสำนักงานในป้อมโคลอมโบคู่เพื่อนของเขาจิมมี่ nilgiria และวันวาเลนไทน์ gunasekera และก่อนจะจะรวม wickremasinghe เทอร์เนอร์และ Nihal amerasinghe . ที่ส่วนท้ายของปี 1958 เขาจ้างสถาปนิกชาวเดนมาร์กลริค plesner ที่ทํางานเป็นภาคีปิดของเขาจนกว่าจะสิ้นสุดของ 2519