1Research the area you plan to plan

1
Research the area you plan to plant. It is important to know about the climate and soil type, so as to make preparations for each different kind of corn. Some types of corn prefer warmer/cooler soil and different soil pH levels.[1]

2
Know how to plant sweet corn. Sweet corn is the classic variety typically eaten on the cob or from a can. It is known for a golden yellow kernel and a light, sweet flavor. Sweet corn is most commonly used in home gardens.
Standard sweet corn (labeled as ‘su’ on seed packets) is the most mild of the sweet corns. Over 50% of the sugar contained in standard sweet corn is converted to starch within 24 hours of being picked, so it must be consumed or canned soon after being harvested.
Sugar enhanced sweet corn (labeled as ‘se’ on seed packets) is genetically modified to slow the sugar to starch conversion rate, increasing the sweetness and tenderness of the kernels.
Super sweet corn (labeled as ‘sh2’ on seed packets) is the sweetest variety available. It’s kernels are slightly smaller than other sweet corn varieties, and shrivel when dried.[2]

3
Learn about dent corn. Dent or field corn is not typically grown to eat raw. It is used primarily as feed for animals or for use in making many processed foods. Growing dent corn is beneficial for use on a farm or for selling to other farms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1การวิจัยในพื้นที่ที่จะปลูก มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทราบเกี่ยวกับชนิดของดินและสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้การเตรียมการสำหรับแต่ละชนิดแตกต่างกันของข้าวโพด ข้าวโพดบางชนิดชอบดินอุ่น/เย็นและระดับ pH ของดินแตกต่างกัน [1]2รู้วิธีการปลูกข้าวโพดหวาน ข้าวโพดหวานคือ ความหลากหลายคลาสสิกที่มักจะกินต้ม หรือกระป๋อง เป็นที่รู้จักสำหรับเคอร์เนลเป็นสีเหลืองทองและแสงสว่าง รสหวาน ข้าวโพดหวานเป็นที่สุดนิยมใช้ในสวนบ้านข้าวโพดหวานมาตรฐาน (ข้อความว่า 'ซู' บนแพคเก็ตเมล็ด) จะอ่อนที่สุดของข้าวโพดหวาน กว่า 50% ของน้ำตาลที่อยู่ในมาตรฐานข้าวโพดจะถูกแปลงเป็นแป้งภายใน 24 ชั่วโมงของการเบิก ดังนั้นมันต้องใช้ หรือกระป๋องหลังการเก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น (ชื่อเป็น se บนแพคเก็ตเมล็ด) เป็นดัดแปลงพันธุกรรมช้าน้ำตาลแป้งแปลงอัตรา เพิ่มความหวานและความอ่อนโยนของเมล็ดซุปข้าวโพด (ชื่อเป็น sh2 บนแพคเก็ตเมล็ด) เป็นไร้หวาน เมล็ดของมันจะเล็กกว่าพันธุ์อื่น ๆ ข้าวโพด และ shrivel เมื่อแห้ง [2]3เรียนรู้เกี่ยวกับข้าวโพดบุ๋ม เด็นท์หรือฟิลด์ข้าวโพดไม่ปกติปลูกกินดิบ มันถูกใช้เป็นอาหารสัตว์ หรือใช้ในการทำอาหารแปรรูปหลาย ปลูกข้าวโพดบุ๋มจะเป็นประโยชน์ สำหรับใช้ในฟาร์ม หรือขายให้ฟาร์มอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1งานวิจัยในพื้นที่ที่คุณวางแผนที่จะปลูกพืช มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบเกี่ยวกับสภาพอากาศและชนิดของดิน เพื่อเตรียมการสำหรับแต่ละประเภทของข้าวโพด บางชนิดของข้าวโพดชอบอุ่น / เย็น ดินและระดับ pH ที่แตกต่างกัน ดิน [ 1 ]2รู้วิธีการปลูกข้าวโพดหวาน ข้าวโพดหวานเป็นคลาสสิก หลากหลาย มักจะกินซัง หรือ จากสามารถ มันเป็นที่รู้จักสำหรับเมล็ดสีเหลืองทองและเบาหวาน รส ข้าวโพดหวานที่ถูกใช้มากที่สุดในบ้าน สวนมาตรฐานข้าวโพดหวาน ( ระบุว่าเป็น " ซู " แพ็คเก็ตเมล็ด ) เป็นอ่อนที่สุดของข้าวโพดหวาน กว่า 50% ของน้ำตาลที่มีอยู่ในมาตรฐานข้าวโพดหวานจะถูกแปลงเป็นแป้งภายใน 24 ชั่วโมงของการเลือก ดังนั้นจึงต้องใช้ หรือ กระป๋องทันทีหลังการเก็บเกี่ยว .น้ำตาลเพิ่มข้าวโพดหวาน ( ระบุว่าเป็น " เซ " แพ็คเก็ตเมล็ด ) มีการดัดแปลงทางพันธุกรรมเพื่อลดน้ำตาลในอัตราการแปลงแป้ง เพิ่มความหวานและความนุ่มของข้าวเหนียวข้าวโพดหวาน ( ระบุว่าเป็น " สินค้า " แพ็คเก็ตเมล็ด ) เป็นความหลากหลายที่พร้อมใช้งาน มันมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวาน และหดตัวเมื่อแห้ง [ 2 ]3 .เรียนรู้เกี่ยวกับเดนท์ข้าวโพด บุ๋ม หรือไร่ข้าวโพดไม่มักจะโตกินอาหารดิบ มันถูกใช้เป็นหลักเป็นอาหารสำหรับสัตว์ หรือเพื่อใช้ในการทำอาหารแปรรูปจำนวนมาก การปลูกข้าวโพดเป็นประโยชน์บุ๋มสำหรับใช้ในฟาร์ม หรือขายให้ฟาร์มอื่น ๆ