Curcumin decreased the expression o

Curcumin decreased the expression of transforming
growth factor-b (TGF-b) and extracellular matrix in keloid
fibroblasts suggesting their utility in the treatment of keloids, a
fibrotic disease of the skin characterized by skin overgrowth
[29]. Scleroderma is another fibrotic disease of the skin and
curcumin may exert antifibrotic effect [30] for managing sclerodema
by mechanisms involving suppressing TGF-b. Vitiligo,
a depigmenting disease of human skin is characterized by
localized loss of melanin from the lesional epidermis [31–33].
It is well established that the restoration of the skin color can
be achieved after the reduction of epidermal H2O2 levels
[34,35]. Turmeric is widely used for wound healing and skin
lightening in Asia [36] and is also known for its antioxidant,
anti-inflammatory, and anticarcinogenic properties [37–39].
Vitilgo treatment by combination therapy using UVB phototherapy
and tetrahydrocurcuminoid (derived from curcuminoid)
was found to be more effective than UVB phototherapy
alone [40]. Oxidative stress has been suggested as the initial
pathogenetic event in melanocyte degeneration in vitiligo. Curcumin
increase MAPK/ERK phosphorylation, to inhibit apoptosis
and pretreatment with these natural antioxidants inhibit
caspase activation, increase total antioxidant capacity, repress
intracellular reactive oxygen species generation and lipid peroxidation,
and improve mitochondrial activity, suggesting that
antioxidants such as curcumin might represent an alternative
approach to protect against vitiligo progression [41]. However,
Schallreuter and Rokos cautioned that in the presence of low
semiquinone radicals, curcumin acts as a free radical trap and
in the presence of high concentrations, the reactive oxygen
species generation is over-riding, suggesting that curcumin
may contribute to the oxidative stress in acute vitiligo and prevent
repigmentation [35].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เคอร์คูมินลดลงค่าของการแปลงปัจจัยการเจริญเติบโต-b (TGF-b) และสารเคลือบในแผลเป็นแนะนำของโปรแกรมอรรถประโยชน์ในการบำบัดรักษาของ keloids, fibroblastsโรคผิวหนังโดยผิว overgrowth fibrotic[29] scleroderma เป็นโรค fibrotic อื่นของผิวหนัง และเคอร์คูมินอาจแรงผล antifibrotic [30] การจัดการ sclerodemaโดยกลไกที่เกี่ยวข้องกับเมื่อ TGF b โรคด่างขาวโรค depigmenting ของผิวมนุษย์มีลักษณะเมลานินจากหนังกำพร้า lesional [31 – 33] ภาษาท้องถิ่นสูญมันดีสำเร็จว่า สามารถฟื้นฟูผิวมีสีทำได้หลังจากการลดลงของระดับ H2O2 epidermal[34,35] อย่างกว้างขวางมีใช้ขมิ้นรักษาบาดแผลและผิวหนังเด้งในเอเชีย [36] และเป็นที่รู้จักในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแก้อักเสบ และ anticarcinogenic คุณสมบัติ [37-39]Vitilgo การรักษา โดยใช้ UVB phototherapy บำบัดรวมและ tetrahydrocurcuminoid (มาจาก curcuminoid)พบจะมีประสิทธิภาพกว่า UVB phototherapyคนเดียว [40] ความเครียด oxidative ได้ถูกแนะนำเป็นต้นเหตุการณ์ pathogenetic ใน melanocyte เสื่อมในโรคด่างขาว เคอร์คูมินเพิ่ม/MAPK ERK phosphorylation ยับยั้ง apoptosisและขัดขวางการ pretreatment ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติเหล่านี้เปิดใช้งานของ caspase เพิ่มกำลังการผลิตรวมสารต้านอนุมูลอิสระ ปราบปรามสร้างชนิดออกซิเจนปฏิกิริยา intracellular และ peroxidation ของไขมันและปรับปรุงกิจกรรม mitochondrial แนะนำที่สารต้านอนุมูลอิสระเช่นเคอร์คูมินอาจหมายถึงทางเลือกวิธีการป้องกันโรคด่างขาวก้าวหน้า [41] อย่างไรก็ตามSchallreuter และ Rokos เตือนว่า ในต่อหน้าของต่ำsemiquinone อนุมูล เคอร์คูมินทำหน้าที่เป็นตัวจับอนุมูลอิสระ และในต่อหน้าของออกซิเจนปฏิกิริยา ความเข้มข้นสูงรุ่นสปีชีส์เป็นขี่มากเกินไป แนะนำเคอร์คูมินที่อาจนำไปสู่ความเครียด oxidative ในโรคด่างขาวเฉียบพลัน และป้องกันrepigmentation [35]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขมิ้นชันลดการแสดงออกของเปลี่ยน
factor-b การเจริญเติบโต ( tgf-b ) และสารเคลือบเซลล์ fibroblasts ใน keloid
แนะนำประโยชน์ของพวกเขาในการรักษาของ keloids , ลา
โรคของผิวลักษณะผิว overgrowth
[ 29 ] ) เป็นอีกโรคลาของผิวหนังและอาจออกแรง antifibrotic
ขมิ้นชันผล [ 30 ] สำหรับการจัดการ sclerodema
โดยกลไกที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม tgf-b. โรคด่างขาว
เป็น depigmenting โรคของผิวหนังของมนุษย์มีลักษณะ
ถิ่นการสูญเสียเมลานินจาก lesional หนังกำพร้า [ 31 33 ] .
จะจัดตั้งขึ้นดีฟื้นฟูสีผิวสามารถ
ได้หลังจากการลดระดับ H2O2 epidermal
[ 34,35 ] ขมิ้นมีการใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อรักษาบาดแผลและผิวหนัง
แสงไฟในเอเชีย [ 36 ] และยังเป็นที่รู้จักของสารต้านอนุมูลอิสระ , ต้านการอักเสบและคุณสมบัติการ
, [ 37 - 39 ] .
รักษาโดยการใช้ vitilgo รวมกัน
ส่องไฟ UVB และ tetrahydrocurcuminoid ( มาจาก เคอร์คูมินอยด์ )
พบว่าได้ผลดีกว่าการส่องไฟ UVB
คนเดียว [ 40 ] พยาบาลได้รับการแนะนำเป็นครั้งแรก
pathogenetic เหตุการณ์ในเมลาโนไซท์เสื่อมในโรคด่างขาว . ขมิ้นชัน
เพิ่ม mapk / กา ���ฟอสโฟริเลชันเพื่อยับยั้งการเกิดและสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ

แคสเปสเหล่านี้ยับยั้งการเพิ่มความจุของสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด หยุดปฏิกิริยาชนิดออกซิเจนรุ่น
เซลล์และการเกิด lipid peroxidation
, และปรับปรุงกิจกรรมการบอกว่า
สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ขมิ้นชันอาจเป็นตัวแทนของทางเลือก
ป้องกันโรคด่างขาวความก้าวหน้า [ 41 ] อย่างไรก็ตาม schallreuter rokos
และเตือนว่าในการแสดงตนของอนุมูล semiquinone ต่ำ
, ขมิ้นชัน ทําหน้าที่เป็นอนุมูลอิสระกับดักและ
ในการแสดงตนของความเข้มข้นสูง ชนิดออกซิเจนปฏิกิริยา
รุ่นมากกว่าขี่ แนะนำว่า กด
อาจนำไปสู่ภาวะเครียดออกซิเดชันในเฉียบพลันโรคด่างขาวและป้องกัน
repigmentation [ 35 ]