For the success of Keynes' argument

For the success of Keynes' argument, it was essential that he deny of classical theory--that wages and commodity prices are independent of each other. In Chapter 2 of The General Theory, he attacked the classical writers for an inconsistency between their micro and macro theory of prices. Claiming that they had "....taught us to believe that prices are governed by marginal prime costs in terms of money and that money-wages largely govern marginal prime costs," he formulated a new theory of price level determination for the macro model which was to emerge from The General Theory. Under it, the general level of commodity prices depends upon per unit labor costs plus a markup for the other factor payments which are conventionally called "profits."

The only way changes in the stock of money can affect the price level is by changing per-unit labor costs; this is done by changing aggregate demand through prior changes in the rate of interest. In many respects, the price-level determination in the Keynesian model appears to be a reversion back to the ideas of Thomas Tooke and the Banking School.

The direct linking of wages nd prices has an important consequence. It means that reductions in money wages to solve an unemployment problem will no longer be effective, for they simultaneously reduce commodity prices in proportion, leaving the real wage unchanged.

Additionally, Keynes denied one other postulate of the classical system--that the labor supply schedule was an upward sloping function of the real wage. He states that

....ordinary experience tells us, beyond doubt, that a situation where labor stipulates (within limits) for a money-wage rather than a real wage, so

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับความสำเร็จของ Keynes' อาร์กิวเมนต์ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่เขาปฏิเสธของทฤษฎีคลาสสิก - ค่าจ้างและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอิสระจากกัน ในบทที่ 2 ของทฤษฎีทั่วไป เขาโจมตีนักเขียนคลาสสิกสำหรับความไม่สอดคล้องระหว่างทฤษฎีของไมโครและแมโครของราคา อ้างว่า พวกเขา "... เราเชื่อว่า ราคาจะอยู่ภายใต้นายกต้นทุนส่วนเพิ่มในแง่ของเงินและให้เงินค่าจ้างส่วนใหญ่ควบคุมต้นทุนส่วนเพิ่มในนายก .taught " เขาสูตรทฤษฎีใหม่ของการกำหนดระดับราคาสำหรับรูปแบบแมโครซึ่งจะโผล่ออกมาจากทฤษฎีทั่วไป ภายใต้ ระดับของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปขึ้นอยู่กับต่อหน่วยค่าแรงบวกเพิ่มราคาชำระปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่า "กำไร" ตามอัตภาพ เฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางในสต็อกของเงินมีผลต่อราคาเป็นระดับ โดยเปลี่ยนค่าแรงต่อหน่วย สิ่งนี้ทำ โดยการเปลี่ยนความต้องการรวมถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ในหลายแง่มุม การกำหนดระดับราคาในรูปแบบสำนักเคนส์ปรากฏจะ พลิกกลับไปความคิดของโทมัส Tooke และธนาคารโรงเรียน การเชื่อมโยงโดยตรงของราคาค่าจ้าง nd มีผลที่สำคัญ หมายความ ว่า ลดเงินค่าจ้างเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานจะมีประสิทธิภาพ สำหรับพวกเขาพร้อมกันลดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในสัดส่วน ออกจากค่าจ้างจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงนอกจากนี้ Keynes ปฏิเสธ postulate อื่น ๆ หนึ่งของระบบคลาสสิก - ตารางอุปทานของแรงงานว่าการขึ้นเนินฟังก์ชันของค่าจ้างที่แท้จริง เขาระบุว่า ... ประสบการณ์.ordinary บอกเรา ไม่ต้องสงสัย ที่สถานการณ์ที่แรงงานกำหนด (ภายในขีดจำกัด) เพื่อเป็นเงินค่าจ้างมากกว่าค่าจ้างที่แท้จริง ดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับความสำเร็จของการโต้แย้งคี 'มันเป็นสิ่งสำคัญที่เขาปฏิเสธทฤษฎีคลาสสิก - ว่าค่าจ้างและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความเป็นอิสระของแต่ละอื่น ๆ ในบทที่ 2 ของทฤษฎีทั่วไปเขาโจมตีนักเขียนคลาสสิกสำหรับความไม่สอดคล้องกันระหว่างไมโครและทฤษฎีแมโครของราคาของพวกเขา อ้างว่าพวกเขาได้ " .... สอนให้เราเชื่อว่าราคาที่ถูกควบคุมโดยค่าใช้จ่ายที่สำคัญเล็กน้อยในแง่ของเงินและเงินค่าจ้างส่วนใหญ่ควบคุมค่าใช้จ่ายที่สำคัญร่อแร่" เขาสูตรทฤษฎีใหม่ของการกำหนดระดับราคาสำหรับรุ่นมาโคร ซึ่งจะโผล่ออกมาจากทฤษฎีทั่วไป ภายใต้มันระดับทั่วไปของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นอยู่กับต้นทุนแรงงานต่อหน่วยรวมทั้งมาร์กอัปสำหรับการชำระเงินปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่าอัตภาพ "ผลกำไร."

เพียงการเปลี่ยนแปลงวิธีการในสต็อกของเงินที่สามารถส่งผลกระทบต่อระดับราคาเป็นโดยการเปลี่ยนละ ค่าใช้จ่ายแรงงานหน่วย นี้จะกระทำโดยการเปลี่ยนอุปสงค์รวมผ่านการเปลี่ยนแปลงก่อนในอัตราดอกเบี้ย ในหลายประการโดยการกำหนดราคาระดับในรูปแบบของเคนส์ดูเหมือนจะพลิกกลับกลับไปที่ความคิดของโทมัส Tooke และโรงเรียนธนาคาร.

การเชื่อมโยงโดยตรงจากค่าจ้าง ND ราคามีผลสำคัญ . ก็หมายความว่าการลดลงของค่าจ้างเงินในการแก้ปัญหาการว่างงานจะไม่สามารถที่มีประสิทธิภาพสำหรับพวกเขาพร้อมกันลดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในสัดส่วนออกจากค่าจ้างที่แท้จริงไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้คีปฏิเสธหนึ่งสมมุติอื่น ๆ ของระบบคลาสสิก - อุปทานแรงงาน กำหนดการเป็นฟังก์ชั่นที่ลาดเอียงขึ้นของค่าจ้างที่แท้จริง เขากล่าวว่า

.... ประสบการณ์สามัญบอกเราปราศจากข้อสงสัยว่าสถานการณ์ที่กำหนดแรงงาน (ภายในวงเงิน) สำหรับเงินค่าจ้างมากกว่าค่าจ้างจริงดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับความสำเร็จของ Keynes " อาร์กิวเมนต์ , มันเป็นสิ่งจำเป็นที่เขาปฏิเสธทฤษฎีคลาสสิก -- ค่าจ้างและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นอิสระของแต่ละอื่น ๆ ในบทที่ 2 ของทฤษฎีทั่วไป เขาโจมตีนักเขียนคลาสสิกสำหรับความไม่สอดคล้องกันระหว่างทฤษฎีจุลภาคและมหภาคของราคา อ้างว่าพวกเขามี " . . . . . . . สอนให้เราเชื่อว่าราคาจะเป็นไปตามต้นทุนโดยเฉพาะในแง่ของเงินและค่าจ้างเงินส่วนใหญ่ควบคุมค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วน " เขาสูตรทฤษฎีใหม่ของระดับราคาการหารูปแบบแมโครที่โผล่จากทฤษฎีทั่วไป ภายใต้ ระดับทั่วไปของสินค้าขึ้นอยู่กับราคาต่อหน่วยแรงงานต้นทุนบวกมาร์กอัปสำหรับปัจจัยอื่น ๆ การชำระเงินซึ่งแต่เดิมเรียกว่า " กำไร "วิธีเพียงการเปลี่ยนแปลงในหุ้นเงินที่สามารถส่งผลกระทบต่อระดับราคา โดยเปลี่ยนแปลงต่อหน่วยแรงงานต้นทุน นี้จะกระทำโดยการเปลี่ยนแปลงอุปสงค์รวมผ่านก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ย หลายประการ , ระดับการกำหนดราคาในรูปแบบของที่ดูเหมือนจะเป็นตรงกันข้ามกลับความคิดของโธมัส tooke และโรงเรียนธนาคารโดยการเชื่อมโยงของค่าจ้างราคาและได้ผลที่สำคัญ หมายความว่า การจ้างเงินเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานจะไม่มีประสิทธิภาพ สำหรับพวกเขา พร้อมลดราคาสินค้าในสัดส่วนออกจากค่าจ้างจริงไม่เปลี่ยนแปลงนอกจากนี้ คีน หนึ่งอื่น ๆปฏิเสธสมมุติฐานของระบบคลาสสิก -- อุปทานแรงงานตารางเวลาเป็นบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น การทำงานของค่าจ้างที่แท้จริง เขากล่าวว่า. . . . . . . ประสบการณ์ธรรมดาบอกเรา ไม่ต้องสงสัย มันเป็นสถานการณ์ที่แรงงานกำหนด ( ภายในขอบเขต ) สำหรับเงินค่าจ้างมากกว่าค่าจ้างที่แท้จริง ดังนั้น