Dependency theory was a reaction to

Dependency theory was a reaction to modernization theory, and uses the idea of Core and Periphery countries from the world-systems theory to look at the inequalities between countries. Basically it is the idea that Periphery or third world countries are poor and export resources to the wealthy core or first world countries. Not because they are in an earlier age of development, but because they have been integrated into the world-system as an undeveloped country. They have their own structures and features not seen in developed countries, and will not accelerate to become a developed nation. They are in an unfavourable economic position that means they don’t even have the opportunity to improve and develop. They’ll remain poor and dependent on wealthier nations. They are just a few of the theories of globalisation. There are lots more that look at: culture, or social networking, economy, politics, or even goods. The world is now a busy and bustling place where events and things can have an effect around the globe. There are different ways of looking at globalisation too.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการพึ่งพาเป็นปฏิกิริยาต่อทฤษฎีความทันสมัยและใช้ความคิดของประเทศหลักและรอบนอกจากทฤษฎีระบบโลกที่จะมองไปที่ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ โดยทั่วไปมันเป็นความคิดที่ว่ารอบนอกหรือประเทศโลกที่สามจะไม่ดีและส่งออกทรัพยากรไปยังหลักที่ร่ำรวยหรือประเทศโลกแรก ไม่ได้เพราะพวกเขาอยู่ในยุคก่อนหน้าของการพัฒนา, แต่เนื่องจากพวกเขาได้รับการบูรณาการเข้าสู่โลกระบบเป็นประเทศที่ไม่มีการพัฒนา. พวกเขามีโครงสร้างของตัวเองและคุณสมบัติที่ไม่ได้เห็นในประเทศที่พัฒนาแล้วและจะไม่เร่งที่จะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว พวกเขาอยู่ในตำแหน่งทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีโอกาสที่จะปรับปรุงและพัฒนา. พวกเขาจะยังคงยากจนและพึ่งพารวยชาติ. พวกเขาเป็นเพียงทฤษฎีบางส่วนของการโลกาภิวัฒน์ มีอีกมากมายที่ดูที่: วัฒนธรรม, หรือเครือข่ายสังคม, เศรษฐกิจ, การเมือง, หรือแม้กระทั่งสินค้า. โลกในขณะนี้เป็นสถานที่ที่วุ่นวายและคึกคักที่เหตุการณ์และสิ่งที่สามารถมีผลกระทบทั่วโลก มีวิธีการที่แตกต่างกันในการมองไปที่โลกาภิวัฒน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการพึ่งพาเป็นหนึ่งในการตอบสนองต่อทฤษฎีความทันสมัยมันใช้แนวคิดของประเทศหลักในทฤษฎีระบบโลกและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อดูความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ โดยทั่วไปนี้เป็นมุมมองที่ประเทศรอบนอกหรือประเทศโลกที่สามจะยากจนและส่งออกทรัพยากรไปยังประเทศหลักที่ร่ำรวยหรือประเทศแรกของโลก ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาแต่เพราะพวกเขามีการบูรณาการเข้าไปในระบบโลกเป็นประเทศที่พัฒนาน้อย พวกเขามีโครงสร้างและลักษณะที่ประเทศพัฒนาไม่ได้และจะไม่เร่งให้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบทางเศรษฐกิจซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีโอกาสที่จะปรับปรุงหรือพัฒนา พวกเขาจะยังคงยากจนและขึ้นอยู่กับประเทศที่ร่ำรวย พวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทฤษฎีโลกาภิวัตน์ มีมากที่จะเห็นวัฒนธรรมหรือเครือข่ายทางสังคมเศรษฐกิจการเมืองหรือสินค้า โลกเป็นสถานที่ที่วุ่นวายและยุ่งที่เหตุการณ์และเหตุการณ์ที่สามารถส่งผลกระทบต่อโลก มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์