AbstractBackground Motivational Int

Abstract

Background Motivational Interviewing is a well-known, scientifically tested method of counselling clients developed by Miller and Rollnick and viewed as a useful intervention strategy in the treatment of lifestyle problems and disease.

Aim To evaluate the effectiveness of motivational interviewing in different areas of disease and to identify factors shaping outcomes.

Design of study A systematic review and meta-analysis of randomised controlled trials using motivational interviewing as the intervention.

Method After selection criteria a systematic literature search in 16 databases produced 72 randomised controlled trials the first of which was published in 1991. A quality assessment was made with a validated scale. A meta-analysis was performed as a generic inverse variance meta-analysis.

Results Meta-analysis showed a significant effect (95% confidence interval) for motivational interviewing for combined effect estimates for body mass index, total blood cholesterol, systolic blood pressure, blood alcohol concentration and standard ethanol content, while combined effect estimates for cigarettes per day and for HbA1c were not significant. Motivational interviewing had a significant and clinically relevant effect in approximately three out of four studies, with an equal effect on physiological (72%) and psychological (75%) diseases. Psychologists and physicians obtained an effect in approximately 80% of the studies, while other healthcare providers obtained an effect in 46% of the studies. When using motivational interviewing in brief encounters of 15 minutes, 64% of the studies showed an effect. More than one encounter with the patient ensures the effectiveness of motivational interviewing.

Conclusion Motivational interviewing in a scientific setting outperforms traditional advice giving in the treatment of a broad range of behavioural problems and diseases. Large-scale studies are now needed to prove that motivational interviewing can be implemented into daily clinical work in primary and secondary health care.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวเบื้องหลังหัดเป็นวิธีทดสอบทางวิทยาศาสตร์ รู้จักการให้คำปรึกษาลูกค้าพัฒนา โดยมิลเลอร์และ Rollnick และเป็นกลยุทธ์ในการรักษาปัญหาชีวิตและโรคแทรกแซงประโยชน์จุดมุ่งหมายเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดในพื้นที่ต่าง ๆ ของโรค และ เพื่อระบุปัจจัยผลการสร้างรูปร่างการออกแบบศึกษาทบทวนระบบ A และ meta-analysis ของ randomised ทดลองควบคุมโดยใช้การสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดเป็นแทรกแซงวิธีหลัง เลือกเงื่อนไขการค้นหาเอกสารประกอบการระบบฐาน 16 ผลิต 72 randomised ควบคุมการทดลองครั้งแรกที่ถูกตีพิมพ์ในปีพ.ศ. 2534 ทำการประเมินคุณภาพ ด้วยขนาดตรวจ ทำ meta-analysis เป็น meta-analysis ผลต่างผกผันทั่วไปMeta-analysis ของผลลัพธ์แสดงให้เห็นผลอย่างมีนัยสำคัญ (95% ช่วงความเชื่อมั่น) สำหรับหัดสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวสำหรับการประเมินผลรวมดัชนีมวลกาย ไขมันในเลือดรวม ความดันโลหิต systolic เลือดแอลกอฮอล์ความเข้มข้น และมาตรฐานเอทานอลที่เนื้อหา รวมประเมินผลสำหรับบุหรี่ต่อวัน และสำหรับ HbA1c ไม่สำคัญ สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดมีผลสำคัญ และเกี่ยวข้องทางคลินิกในประมาณ 3 ใน 4 ของการศึกษา ผลกระทบทางจิตใจ (75%) โรคทางสรีรวิทยา (72%) เท่ากับ นักจิตวิทยาและแพทย์ได้ผลประมาณ 80% ของการศึกษา ในขณะที่ผู้ให้บริการสุขภาพอื่น ๆ ได้รับผลใน 46% ของการศึกษา เมื่อใช้หัด สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวในสังเขปพบนาที 15, 64% ของการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผลการ พบมากกว่าหนึ่งกับผู้ป่วยเราช่วยให้ประสิทธิภาพของการสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดบทสรุป Motivational สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวในการตั้งค่าทางวิทยาศาสตร์ outperforms โบราณแนะนำให้ในการรักษาของโรคและปัญหาพฤติกรรม ตอนนี้เป็นการศึกษาขนาดใหญ่เพื่อพิสูจน์ว่า หัดสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวสามารถนำมาใช้ในวันงานทางคลินิกในการดูแลสุขภาพหลัก และรอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อพื้นหลังสร้างแรงบันดาลใจการสัมภาษณ์เป็นที่รู้จักกันดีวิธีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ของลูกค้าของการให้คำปรึกษาการพัฒนาโดยมิลเลอร์และ Rollnick และมองว่าเป็นกลยุทธ์การแทรกแซงที่มีประโยชน์ในการรักษาปัญหาการดำเนินชีวิตและการเกิดโรค. มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจในพื้นที่ที่แตกต่างกันของการเกิดโรค และเพื่อหาปัจจัยสร้างผล. การออกแบบของการศึกษาทบทวนอย่างเป็นระบบและ meta-analysis ของการทดลองแบบสุ่มโดยใช้การสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจการแทรกแซง. วิธีหลังจากเกณฑ์การคัดเลือกค้นหาวรรณกรรมอย่างเป็นระบบใน 16 ฐานข้อมูลการผลิต 72 งานวิจัยแบบสุ่มคนแรกที่ได้รับการตีพิมพ์ ในปี 1991 การประเมินคุณภาพถูกทำให้มีขนาดการตรวจสอบ meta-analysis ได้ดำเนินการตามความแปรปรวนผกผันทั่วไปการวิเคราะห์อภิมา. ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็น Meta ผลอย่างมีนัยสำคัญ (ช่วงความเชื่อมั่น 95%) สำหรับสร้างแรงบันดาลใจการสัมภาษณ์สำหรับการประมาณการผลกระทบโดยรวมสำหรับดัชนีมวลกายคอเลสเตอรอลในเลือดรวมความดันโลหิตเลือด ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์และเนื้อหามาตรฐานเอทานอลในขณะที่การประมาณการผลกระทบโดยรวมสำหรับมวนต่อวันและสำหรับ HbA1c ไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ สัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและมีความเกี่ยวข้องทางคลินิกในเวลาประมาณสามในสี่การศึกษาที่มีผลเท่าเทียมกันในทางสรีรวิทยา (72%) และจิตใจ (75%) โรค นักจิตวิทยาและแพทย์ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 80% ของการศึกษาในขณะที่ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบใน 46% ของการศึกษา เมื่อใช้การสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจในการเผชิญหน้าสั้น ๆ 15 นาที 64% จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผลกระทบ มากกว่าหนึ่งพบกับผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพของการสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจ. สรุปการสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจในการตั้งค่าทางวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าแบบดั้งเดิมให้คำแนะนำในการรักษาความหลากหลายของปัญหาพฤติกรรมและโรค การศึกษาขนาดใหญ่ที่มีความจำเป็นในขณะนี้ที่จะพิสูจน์ว่าการสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจสามารถดำเนินการในการทำงานในชีวิตประจำวันทางคลินิกในการดูแลสุขภาพประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังนามธรรม

แรงจูงใจสัมภาษณ์ เป็น ที่รู้จักกันดี การทดสอบทางวิทยาศาสตร์วิธีการให้คำปรึกษาลูกค้าที่พัฒนาโดยมิลเลอร์และ rollnick และดูเป็นกลยุทธ์การแทรกแซงที่มีประโยชน์ในการรักษาปัญหาชีวิตและโรค

จุดประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของแรงจูงใจสัมภาษณ์ในพื้นที่ต่างๆของโรค และปัจจัยที่สร้างผล

การออกแบบการศึกษาทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์การทดลองแบบสุ่มควบคุมการใช้แรงจูงใจสัมภาษณ์เป็นการแทรกแซง

วิธีหลังเกณฑ์การเลือกระบบการค้นหาในฐานข้อมูลวรรณกรรม 16 ผลิต 72 การทดลองควบคุม Randomised แรกซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1991 การประเมินคุณภาพทำจากการตรวจสอบเครื่องชั่งการวิเคราะห์อภิมานแสดงการวิเคราะห์ความแปรปรวนเป็นตรงกันข้ามทั่วไป

ผลวิเคราะห์อภิมานแสดงผลอย่างมีนัยสำคัญ ( 95% ช่วงความเชื่อมั่นสำหรับการสัมภาษณ์เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจเพื่อรวมผลการประเมินดัชนีมวลกายรวมคอเลสเตอรอลในเลือดความดันโลหิต , ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดและปริมาณเอทานอลที่มาตรฐานเมื่อรวมผลประเมินการสูบบุหรี่ต่อวัน และใช้ยาเป็นสำคัญ แรงจูงใจสัมภาษณ์มีผลสำคัญและทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 3 ใน 4 ที่ศึกษา มีผลเท่ากับทางสรีรวิทยา ( 72% ) และจิตวิทยา ( 75% ) โรค นักจิตวิทยา และแพทย์ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 80% ของการศึกษาในขณะที่ผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพอื่น ๆที่ได้รับผลกระทบใน 46% ของการศึกษา เมื่อใช้แรงจูงใจสัมภาษณ์โดยสังเขปพบ 15 นาที 64 ของการศึกษาแสดงผล มากกว่าหนึ่งพบผู้ป่วยยืนยันประสิทธิผลของแรงจูงใจสัมภาษณ์

สรุปแรงจูงใจสัมภาษณ์ในการตั้งค่าทางวิทยาศาสตร์มีประสิทธิภาพดีกว่าแบบดั้งเดิม ให้คำแนะนำในการรักษาที่หลากหลายของปัญหาพฤติกรรมและโรค การศึกษาขนาดใหญ่จะต้องพิสูจน์ว่าแรงจูงใจสัมภาษณ์ สามารถใช้ในงานคลินิกทุกวัน ในเบื้องต้นและการดูแลสุขภาพ รอง