This research contributes to the li

This research contributes to the literature in several important ways. First, I provide exploratory evidence on the interplay between incentive pay and management control initiatives within firms. These results emphasize a need to jointly consider combination of incentive pay schemes along with imposition of control mechanisms to facilitate communication and monitoring between workers as we design compensation systems for teams. These findings are in line with recent observations in the contracting literature. For example, Bonner and Sprinkle (2002) and Ichniowski and Shaw (2003) calls for greater integration between incentive pay and elements in job design when designing compensation systems to enhance the incentive effects of monetary incentives. Likewise, these findings provide further evidence about the importance of creating complementarities between incentive pay and organizational design as a viable strategy to enhance organizational performance, coinciding with the findings of theoretical studies (Baker, Jensen, &
Murphy, 1988; Holmstrom & Milgrom, 1994; Milgrom & Roberts, 1995). The study may also help to guide firms in the design and implementation of better incentive plans for teams.
The remainder of the paper is organized as follows: the next section discusses the research setting and compares the original and new incentive plan. Hypotheses development reviews the literature and develops hypotheses. Data and methodology describes the sample and the empirical methodology. Results are discussed in Empirical results. The paper concludes with a discussion of the main findings and offer suggestions for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้ก่อให้เกิดวรรณกรรมสำคัญหลายวิธี ครั้งแรก ฉันให้สำรวจหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างค่าจ้างจูงใจและริเริ่มในการควบคุมการจัดการภายในบริษัท ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นต้องร่วมกันพิจารณาชุดของแบบแผนค่าจ้างจูงใจพร้อมกับการจัดเก็บภาษีของกลไกการควบคุมเพื่อความสะดวกในการสื่อสารและการตรวจสอบระหว่างผู้ปฏิบัติงาน ตามที่เราออกแบบระบบค่าตอบแทนสำหรับทีม ค้นพบเหล่านี้จะสอดคล้องกับการสังเกตการณ์ล่าสุดในเอกสารประกอบการทำสัญญา ตัวอย่างเช่น Bonner และโรย (2002) และ Ichniowski และชอว์ (2003) โทรประสานระหว่างค่าจ้างจูงใจและองค์ประกอบในงานออกแบบการออกแบบระบบค่าตอบแทนเพื่อเพิ่มผลกระทบสิทธิประโยชน์ของแรงจูงใจทางการเงิน ทำนองเดียวกัน ผลเหล่านี้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้าง complementarities ระหว่างค่าจ้างจูงใจและการออกแบบองค์กรเป็นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร coinciding กับผลการวิจัยของการศึกษาทฤษฎี (Baker เจนเซน &เมอร์ฟี่ 1988 Holmstrom & Milgrom, 1994 Milgrom & Roberts, 1995) การศึกษายังอาจช่วยแนะนำบริษัทในการออกแบบและการดำเนินงานของแผนงานสิทธิประโยชน์ดีกว่าสำหรับทีมส่วนเหลือของกระดาษจัดเป็นดังนี้: ส่วนถัดไปอธิบายถึงการตั้งค่าวิจัย และเปรียบเทียบแผนงานสิทธิประโยชน์เดิม และใหม่ พัฒนาสมมติฐานความคิดเห็นวรรณคดี และพัฒนาสมมติฐาน ข้อมูลและวิธีการอธิบายตัวอย่างและวิธีการเชิงประจักษ์ ผลลัพธ์มีการกล่าวถึงในผลลัพธ์เชิงประจักษ์ กระดาษสรุป ด้วยการสนทนาของประเด็นหลักและเสนอข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยครั้งนี้ก่อให้เกิดวรรณกรรมในรูปแบบที่สำคัญหลายประการ ครั้งแรกผมให้หลักฐานสอบสวนร่วมกันระหว่างความคิดริเริ่มจ่ายแรงจูงใจและการควบคุมการจัดการภายใน บริษัท ผลการศึกษานี้เน้นความจำเป็นที่จะต้องร่วมกันพิจารณาการรวมกันของแผนการกระตุ้นการจ่ายเงินพร้อมกับการจัดเก็บภาษีของกลไกการควบคุมเพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและการตรวจสอบระหว่างคนงานที่เราออกแบบระบบการชดเชยสำหรับทีม การค้นพบนี้สอดคล้องกับข้อสังเกตที่ผ่านมาในวรรณคดีที่ทำสัญญา ยกตัวอย่างเช่นบอนเนอร์และโรย (2002) และ Ichniowski และชอว์ (2003) เรียกร้องให้มีการบูรณาการมากขึ้นระหว่างการจ่ายเงินแรงจูงใจและองค์ประกอบในการออกแบบงานเมื่อมีการออกแบบระบบค่าตอบแทนเพื่อเพิ่มแรงจูงใจผลกระทบของแรงจูงใจทางการเงิน ในทำนองเดียวกันการค้นพบเหล่านี้ให้หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้าง complementarities ระหว่างจ่ายแรงจูงใจและการออกแบบองค์กรเป็นกลยุทธ์การทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรประจวบกับผลการศึกษาทางทฤษฎี (เบเกอร์เซ่นแอนด์
เมอร์ฟี่ 1988; Holmstrom & มิลกรอม 1994 ; มิลกรอมและโรเบิร์ต, 1995) การศึกษายังอาจช่วยให้คำแนะนำ บริษัท ในการออกแบบและการดำเนินการตามแผนกระตุ้นที่ดีสำหรับทีม.
ส่วนที่เหลือของกระดาษที่มีการจัดระเบียบดังนี้ส่วนถัดไปกล่าวถึงการตั้งค่าการวิจัยและเปรียบเทียบแรงจูงใจแผนเดิมและใหม่ การพัฒนาสมมติฐานวิจารณ์วรรณกรรมและพัฒนาสมมติฐาน ข้อมูลและวิธีการอธิบายตัวอย่างและวิธีการเชิงประจักษ์ ผลที่จะได้กล่าวถึงในผลการศึกษา กระดาษสรุปด้วยการอภิปรายของการค้นพบหลักและให้คำแนะนำสำหรับการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้เสนอวรรณกรรมในวิธีการที่สำคัญหลายประการ ครั้งแรก ผมมีหลักฐานสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการริเริ่มการจัดการการควบคุมและจ่ายภายในบริษัท ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นต้องร่วมกันพิจารณาการรวมกันของแผนการจ่ายจูงใจพร้อมกับกำหนดกลไกการควบคุมเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่และตรวจสอบตามที่เราออกแบบระบบค่าตอบแทนสำหรับทีม การค้นพบนี้จะสอดคล้องกับการสังเกตการณ์ล่าสุดในงานวรรณกรรม ตัวอย่างเช่น บอนเนอร์ และ โรย ( 2002 ) และ ichniowski ชอว์ ( 2003 ) เรียกร้องให้จ่ายมากขึ้นการบูรณาการระหว่างแรงจูงใจและองค์ประกอบในการออกแบบงาน เมื่อการออกแบบระบบค่าตอบแทนจูงใจเพื่อเพิ่มผลของแรงจูงใจทางการเงิน อนึ่ง การค้นพบนี้ให้หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจและ complementarities ระหว่างจ่ายการออกแบบองค์กรเป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการเพิ่มสมรรถนะขององค์การ ซึ่งผลของการศึกษาเชิงทฤษฎี ( เบเกอร์ เจนเซ่น , และเมอร์ฟี่ , 1988 ; โฮล์มสเตริม & milgrom , 1994 ; milgrom & Roberts , 1995 ) การศึกษาอาจช่วยแนะนำ บริษัท ในการออกแบบและการดำเนินงานของแผนจูงใจที่ดีสำหรับทีมส่วนที่เหลือของกระดาษจะจัดดังนี้ ส่วนถัดไปอธิบายการวิจัยและการเปรียบเทียบต้นฉบับ และแผนกระตุ้นใหม่ วิจารณ์วรรณกรรมและพัฒนาการพัฒนาสมมติฐานสมมติฐาน ข้อมูลและวิธีการอธิบายตัวอย่างและวิธีการเชิงประจักษ์ ผลลัพธ์จะถูกกล่าวถึงในผลเชิงประจักษ์ กระดาษสรุปด้วยการอภิปรายของการวิจัยหลักและให้ข้อเสนอแนะสำหรับงานวิจัยในอนาคต