The share of the U.S. population ov

The share of the U.S. population over the age of 65 was 8.1 percent in 1950, 12.4 percent in 2000,
and is projected to reach 20.9 percent by 2050. The percent over 85 is projected to more than double
from current levels, reaching 4.2 percent by mid-century. The aging of the U.S. population makes
issues of retirement security increasingly important.
Elderly individuals exhibit wide disparities in their sources of income. For those in the bottom half
of the income distribution, Social Security is the most important source of support; program changes
would directly affect their well-being. Income from private pensions, assets, and earnings are relatively
more important for higher-income elderly individuals, who have more diverse income sources. The
trend from private sector defined benefit to defined contribution pension plans has shifted a greater
share of the responsibility for retirement security to individuals, and made that security more dependent
on choices they make. A significant subset of the population is unlikely to be able to sustain their
standard of living in retirement without higher pre-retirement saving.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คือส่วนแบ่งของสหรัฐฯ ประชากรอายุเกิน 65 ปีร้อยละ 8.1 ในปี 1950 ร้อยละ 12.4 ใน 2000และคาดว่าจะถึงร้อยละ 20.9 2593 ร้อยละ 85 คาดว่าจะมากกว่าคู่จากระดับปัจจุบัน ถึงร้อยละ 4.2 โดยช่วงกลางศตวรรษ ทำให้อายุของประชากรสหรัฐปัญหาความปลอดภัยเกษียณที่สำคัญอายุมีความแตกต่างหลากหลายในแหล่งที่มาของรายได้ สำหรับผู้ที่อยู่ในด้านล่างครึ่งหนึ่งของการกระจายรายได้ ประกันสังคมเป็นแหล่งสำคัญของการสนับสนุน การเปลี่ยนแปลงโปรแกรมโดยตรงจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดี รายได้ จากเงินบำนาญเอกชน สินทรัพย์ กำไรค่อนข้างสำคัญมากสำหรับรายได้สูงกว่าผู้สูงอายุ ผู้ที่มีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น การแนวโน้มจากผลประโยชน์ภาคเอกชนกำหนดเพื่อกำหนดแผนกลยุทธ์ที่ได้เลื่อนขึ้นแบ่งปันความรับผิดชอบความปลอดภัยเกษียณอายุบุคคล และทำให้ปลอดภัยมากขึ้นในสิ่งที่พวกเขาเลือก ชุดย่อยที่สำคัญของประชากรไม่น่าจะสามารถรักษาตนมาตรฐานการครองชีพในการเกษียณอายุโดยไม่สูงก่อนเกษียณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนแบ่งของประชากรสหรัฐอายุมากกว่า 65 ปีคิดเป็นร้อยละ 8.1 ในปี 1950 เป็นร้อยละ 12.4 ในปี 2000
และคาดว่าจะถึงร้อยละ 20.9 ภายในปี 2050 ร้อยละ 85 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
จากระดับปัจจุบันถึงร้อยละ 4.2 โดย ในช่วงกลางศตวรรษ อายุของประชากรสหรัฐทำให้
ประเด็นของการรักษาความปลอดภัยการเกษียณอายุสำคัญมากขึ้น.
ผู้สูงอายุแสดงความแตกต่างทั้งในแหล่งที่มาของรายได้ สำหรับผู้ที่อยู่ในครึ่งล่าง
ของการกระจายรายได้ประกันสังคมเป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดของการสนับสนุน การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม
โดยตรงจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา รายได้จากเงินบำนาญส่วนตัวสินทรัพย์และรายได้มีความ
สำคัญมากขึ้นสำหรับผู้มีรายได้สูงกว่าผู้สูงอายุที่มีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น
แนวโน้มจากภาคผลประโยชน์ส่วนตัวถึงกำหนดเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญได้เปลี่ยนมากขึ้น
ส่วนแบ่งของความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยการเกษียณอายุให้กับประชาชนและทำให้การรักษาความปลอดภัยมากขึ้นอยู่
กับทางเลือกที่พวกเขาทำ ส่วนหนึ่งที่สำคัญของประชากรที่ไม่น่าจะเป็นความสามารถในการรักษาของพวกเขา
มาตรฐานการครองชีพในวัยเกษียณโดยไม่ต้องสูงประหยัดก่อนเกษียณอายุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนแบ่งของประชากรสหรัฐอายุ 65 เป็นร้อยละ 8.1 ในปี 1950 12.4 เปอร์เซ็นต์ใน 2000และคาดว่าจะถึง 20.9 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 โดยมากกว่าร้อยละ 85 คาดว่าจะมากกว่าสองเท่าจากระดับปัจจุบันถึงร้อยละ 4.2 โดยกลางศตวรรษที่ อายุของประชากรสหรัฐ ทำให้ประเด็นการเกษียณการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญมากขึ้นผู้สูงอายุแต่ละบุคคลมีความแตกต่างหลากหลายในแหล่งที่มาของรายได้ สำหรับผู้ที่อยู่ในครึ่งล่างการกระจายรายได้ , ความมั่นคงทางสังคมเป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดของการสนับสนุน การเปลี่ยนแปลงโปรแกรมจะส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา รายได้จากเงินบำนาญเอกชน สินทรัพย์ และรายได้ค่อนข้างที่สำคัญสำหรับรายได้ที่สูงขึ้นแก่บุคคลที่มีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ที่แนวโน้มจากภาคเอกชนเพื่อกำหนดแผนการกำหนดผลประโยชน์บำนาญมากขึ้น ผลงาน ได้เปลี่ยนแบ่งความรับผิดชอบเพื่อการเกษียณอายุการรักษาความปลอดภัยบุคคล และทำให้การรักษาความปลอดภัยขึ้นอยู่กับเพิ่มเติมในตัวเลือกที่พวกเขาทำ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประชากรไม่น่าที่จะสามารถที่จะรักษาพวกเขามาตรฐานของชีวิตในวัยเกษียณ โดยสูงกว่าก่อนเกษียณ การออม